ค่ายมือถือพลิกเกมหลัง 3G ติดหล่ม
ปลายปี 2553 ที่ผ่านมาบรรดาผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ต่างใจจดใจจ่อกับการออกใบอนุญาต 2.1 กิกะเฮิรตซ์เพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G แต่แล้วก็ต้องรอเก้อ สุดท้ายต้องพับแผนลงทุน พร้อมกับปักธงให้บริการเทคโนโลยีระบบเดิม คือ 2.5-2.75 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อให้บริการระบบดิจิตอล
คำถามว่า แล้วเอกชนจะหากลยุทธ์การทำตลาดอย่างไร การบุกตลาดสมาร์ทโฟนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ BB หรือ Black Berry ได้รับการตอบรับแบบถล่มทลาย ด้วยกลยุทธ์ Word of Mouth (กลยุทธ์ปากต่อปาก )
*** จาก BB ถึง ไอโฟน
แม้จะเปิดตัว BB ช้ากว่าผู้ประกอบการรายอื่น แต่ทว่า ดีแทค หรือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) สามารถจัดสรรได้ถึง 20,000 เครื่องหลังจากเปิดตัวเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา และตั้งเป้าอีกเดือนละ 20,000 เครื่อง
ด้วยเหตุผลที่ ธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ ดีแทค ได้ให้สัมภาษณ์กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ก่อนหน้านี้ว่า ปีนี้จะเป็นปีทองของ Smart Phone (โทรศัพท์ที่ไม่ได้เป็นแค่โทรศัพท์ที่ไว้ใช้โทร.เข้า - ออกธรรมดา
แต่ยังได้รวมความเป็นพีดีเอหรือคอมพิวเตอร์มือถือรวมเข้ามาอยู่ภายในตัวด้วยทำให้เราสามารถใช้งานในส่วนของออร์แกไนเซอร์ เพื่อจดบันทึกรายการต่าง ๆ) เพราะการเติบโตของสมาร์ทโฟนจะโตอย่างก้าวกระโดด เพราะในปีนี้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G ยังไม่เกิดขึ้น ทำให้ทุกค่ายหันมาให้ความสนใจเมื่อพลิกดูจากจำนวนตัวเลขผู้ใช้บริการอยู่ที่ 3-5% จากจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่กว่า 60 ล้านเครื่อง ในจำนวนนี้เพียง 10% เป็นสมาร์ทโฟนเพียง 6-7 ล้านเครื่อง
เมื่อบวก ลบ คูณ หาร แล้ว ดีแทค เชื่อว่า สมาร์ทโฟน ยังมีโอกาสเติบโตในตลาดเมืองไทยได้อีกมาก สังเกตได้จากช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมา พบว่าไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในการใช้โทรศัพท์มือถือนั้นมีปริมาณการใช้งานข้อมูลผ่านมือถือมากขึ้นและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการนำ BlackBerry เข้ามาทำตลาดน่าจะดึงดูดใจให้ลูกค้าหันมาใช้สมาร์ทโฟนกันมากขึ้น
นอกเหนือจาก BB แล้ว ดีแทค มีแผนร่วมกับบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ "โมโตโรล่า" เข้ามาทำตลาดและมีแผนจะทำแพ็กเกจโปรโมชันค่าโทร. และบริการทางด้านนอนวอยซ์ (ข้อมูล) ร่วมกับทาง เจ มาร์ท ภายในเร็ว ๆ นี้
หรืออย่างล่าสุด ดีแทค ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการนำ iPhone มาจำหน่ายในประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้ โดยประกอบไปด้วยรุ่น iPhone 3G และ iPhone 3GS อีกด้วย
เหตุผลที่ ดีแทค เริ่มทำการตลาดกับผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ เช่น BB หรือ Black Berry เนื่องจากในปีนี้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G ยังไม่มีการให้บริการ เพราะฉะนั้นทางเดียวที่ทำได้คือพัฒนาเทคโนโลยีที่มีอยู่อย่าง EDGE ( Enhance Data Rates for Global Evolution ) เป็นเทคโนโลยีมือถืออีกขั้นหนึ่งที่พัฒนาขึ้นจาก จีพีอาร์เอส ใช้รับ-ส่งข้อมูลด้วยเครือข่ายไร้สายความเร็วสูง ระดับ 236 กิโลบิต) ดังนั้นการนำเครื่องโทรศัพท์รองรับระบบ Smart Phone บริษัทคงนำเครื่องเข้ามาจำหน่ายในราคาไม่ถึง 10,000 บาท
*** เอไอเอส บันเดิลแพ็กเกจ
ต้องบอกว่า BB ที่แจ้งเกิดได้ในทุกวันนี้ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เป็นเพราะ เอไอเอส ผลักดันด้วยการใช้เหล่าบรรดาเซเลบ นำมาเป็นจุดขาย ด้วยกลยุทธ์ "Word of Mouth" สามารถทำยอดขายได้ถึง 100,000 เครื่อง และในปีนี้ เอไอเอส ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 200,000 เครื่อง
ในเมื่อประสบความสำเร็จเรื่อง BB ดังนั้น เอไอเอส ได้รุกการตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยการบันเดิลแพ็กเกจ อย่างล่าสุดได้ออกแพ็กเกจ "AIS Smart Phone ให้คุณได้มากกว่า" ครบ 4 แกนหลัก ไม่ว่าจะเป็น ซื้อเครื่องใหม่ตรงจาก AIS พร้อมแพ็กเกจการใช้บริการราคาพิเศษ, เลือกใช้แพ็กเกจราคาตรงพฤติกรรมสำหรับเครื่องเดิมได้จาก AIS Smart Phone Package, ปรึกษาทุกรูปแบบใช้งานกับ AIS Smart Phone Expert และโหลด Application กว่า 10,000 App จาก AIS App Store
เรื่องนี้ นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานการตลาด ของ เอไอเอส เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่าง 1-2 ปีที่ผ่านมาผู้บริโภคเริ่มมีการขยายรูปแบบการใช้งานไปสู่ Data (ข้อมูล) มากขึ้น ตั้งแต่ SMS (Short Message Service) ส่งข้อความ , MMS (Multimedia Message Service: ส่งข้อมูล และภาพ และ Download Content ต่างๆ สอดคล้องกับวิวัฒนาการของตัวเครื่องในลักษณะของ Multi Purpose หรือที่รู้จักกันในชื่อ Smart Phone เนื่องจากมีความสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างครบถ้วน ทั้งชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ทำให้ตลาด Smart Phone เติบโตอย่างรวดเร็วมากกว่า 35% โดยเชื่อว่าปัจจุบันมี Smart Phone ในตลาดอยู่มากกว่า 1.2 ล้านเครื่อง
*** ทรูมูฟ ดันยอดไอโฟน
ทะลุ 1.2 แสนเครื่อง
ต้องบอกว่า บริษัท ทรูมูฟ จำกัด หรือ ทรูมูฟ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งในการนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ iPhone เข้ามาตลาด เพราะเมื่อเร็ว ๆนี้ ทรูมูฟ ฉลองยอดขายทะลุ 100,000 เครื่อง พร้อมกับจำนวนแอพพลิเคชันใน App Store พุ่งสูงกว่า 100,000 แอพ
สาเหตุหลัก ๆ ที่ ทรูมูฟ ประสบความสำเร็จยอดขายในครั้งนี้ นายปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองหัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มเข้าใจจุดประสงค์ในการใช้งานของสมาร์ทโฟนมากขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าไอโฟนถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่อง รวมกับเครือข่ายคอนเวอร์เจนซ์ของทรูมูฟส่งผลให้ยอดจำหน่ายไอโฟนทะลุหลักแสนเครื่องมาได้
"ปีนี้ทรูตั้งเป้าไว้ว่าจะขายให้ได้ 120,000 เครื่อง จากกระแสการเติบโตของสมาร์ทโฟน รวมไปกับความที่ทรูเป็นผู้นำด้านการเชื่อมต่อที่ครบครันอย่างไว-ไฟ และ 3G ทำให้ตัวเครื่องที่รองรับสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ ยังไม่รวมกับจำนวนแอพพลิเคชัน ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ในหลักแสนแอพ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยบวกทั้งสิ้น"
นอกจากนี้ตลาดรวมโทรศัพท์ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ราวๆ 14 ล้านเครื่อง ซึ่งสมาร์ทโฟนจะมีส่วนแบ่งอยู่ราว 15% หรือราว 2.1 ล้านเครื่อง ส่วนในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 20%
"ภาพรวมของตลาดรวมโทรศัพท์ในปีนี้อาจจะเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่เฉพาะในส่วนของสมาร์ทโฟนยังสามารถโตได้เรื่อยๆ เนื่องจากปีที่ผ่านมาถือเป็นจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟน ดังนั้นปีนี้เชื่อว่าสมาร์ทโฟนจะเข้าไปกินส่วนแบ่งตลาดของฟีเจอร์โฟนมากขึ้น จนทำให้เราสามารถขายได้ตามเป้าที่วางไว้"
นอกจากนี้ ทรูมูฟ ยังจัดแคมเปญส่งเสริมการขายระหว่างวันที่ 5 - 28 กุมภาพันธ์ ด้วยการจัด วาเลนไทน์แพ็กเกจ รับสิทธิ์เลือกเบอร์สวยคล้ายกันและเลือกแบล็คเบอร์รี่ พิน คล้ายกัน เมื่อซื้อแบล็คเบอร์รี่ โบลด์ 9700 หรือแบล็คเบอร์รี่ เคิร์ฟ 8520 พร้อมกัน 2 เครื่อง ซึ่งเป็นครั้งแรกในไทยที่ให้ลูกค้าเลือกแบล็คเบอร์รี่ พิน ได้ พร้อมด้วยแพ็กเกจ
และทั้งหมดคือกลยุทธ์การตลาดของค่ายมือถือที่เริ่มบุกตลาดสมาร์ทโฟนอย่างเต็มรูปแบบ
จากนี้ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าค่ายไหนจะเป็นเจ้าตลาดอย่างแท้จริง อย่ากะพริบตา!!!
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,506 18-20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น