*เขี้ยวลากดินทั้งนั้นกับเกม 'บลัฟฟ์' กันทำตลาดสมาร์ทโฟน
* การชิงไหวชิงพริบครั้งสำคัญที่มีตำแหน่งเจ้าตลาดเป็นเดิมพัน
* 'เอ็กซ์คลูซีฟ' โมเดล-แพกเกจ ขยายตลาดบนสาวกแต่ละค่าย
* ความร้อนแรงที่สุดของวงการมือถือไทยช่วงนี้
'ทรูมูฟคือผู้ให้บริการรายแรกและรายเดียวที่มีสมาร์ทโฟนให้บริการครบทุกระบบปฏิบัติการ' คือคำประกาศของ ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่คณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หลังจากที่ทรูฯ ได้จับมือกับโมโตโรล่าเปิดตัวคอนเวอร์เจนซ์โฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.1 โมโตโรล่าไมล์สโตน ซึ่งถือเป็นเอ็กซ์คลูซีฟโมเดลที่ทรูฯ คือผู้จัดจำหน่ายรายเดียวในประเทศไทยการเปิดตัวโมโตโรล่าไมล์สโตนนี้ คือจิ๊กซอว์ตัวล่าสุดของกลุ่มทรูฯ หลังจากที่ค่ายนี้ได้ทำตลาดระบบปฏิบัติการอื่นที่ได้รับความนิยมจากตลาดอยู่ในขณะนี้อย่างแบล็กเบอร์รี่และไอโฟน
โมโตโรล่าคือเชื้อไฟใหม่ที่ถูกนำขึ้นบลัฟฟ์การทำตลาดสมาร์ทโฟนระหว่างค่ายทรูมูฟ ดีแทคและเจ้าตลาดอย่างเอไอเอส เนื่องจากปัจจุบันตลาดสมาร์ทโฟนในไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของตลาดสมาร์ทโฟนในตลาดโลกที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมานิยมการสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์โซเชียลเน็ตเวิร์กมากขึ้น
ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคนี้สำหรับการเปิดตัวโมโตโรล่าไมล์สโตน เนื่องจากผู้บริหารของโมโตโรล่ามองว่าตลาดเมืองไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหารและรองหัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการทำตลาดอย่างแตกต่างให้กับโทรศัพท์อัจฉริยะทั้ง 3 แพลตฟอร์ม ด้วยการแบ่งตลาดการใช้งานหลักของผู้บริโภค
สำหรับแบล็กเบอร์รี่ คือ 'Real Bond' ที่ผู้ใช้ต้องการเชื่อมต่อกับเครือข่ายสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ก ได้ทั้งแชตและเฟซบุ๊ก ในขณะที่ไอโฟน คือ 'Real Lifestyle' ที่เหมาะกับการใช้ชีวิตสนุกสนาน เลือกโหลดได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ส่วนแอนดรอยด์ คือ 'Real Powerization'ที่เป็นมือถืออย่างที่ผู้ใช้อยากให้เป็น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบ multi-tasking หรือ customize แอปพลิเคชั่นที่ต้องการได้
ทั้งนี้ ความแตกต่างของทรูมูฟจากคู่แข่งในตลาด คือการมีจุดแข็งด้านการเพิ่มคุณค่าที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบแพกเกจการใช้งานที่คุ้มราคามากกว่า ควบคู่ไปกับแอปพลิเคชั่นและคอนเทนต์พิเศษด้านข้อมูลข่าวสาร ไลฟ์สไตล์ และความบันเทิง ที่พัฒนาสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่นที่มีอยู่บนแพลตฟอร์มต่างๆ
กลุ่มเป้าหมายของการเปิดตัวโมโตโรล่าไมล์สโตนจะเน้นไปที่กลุ่มคนที่ชื่นชอบการท่องอินเทอร์เน็ต กลุ่มอายุระหว่าง 25-35 ปี ผู้ที่ชื่นชอบและเชี่ยวชาญในการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งจะทำให้การทำงานหลากหลายและการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่แตกต่าง
'วันนี้ผู้ใช้โมโตโรล่าไมล์สโตนเสมือนมีโน้ตบุ๊กที่เล็กที่สุดอยู่ในมือและสามารถพกพาไปใช้งานในทุกที่ทุกเวลา' ศุภชัย กล่าวและว่า 'ที่ผ่านมาสาวกแอนดรอยด์และกูเกิลต่างรอคอยอุปกรณ์ที่จะรองรับความต้องการได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งยังไม่มีอุปกรณ์ใดสามารถทำได้เหมือนกับโมโตโรล่าไมล์สโตนนี้'
บลัฟฟ์แหลก 'ไอโฟน'
'แม้ว่าดีแทคจะไม่ได้เป็นผู้จัดจำหน่ายไอโฟนอย่างเป็นทางการ แต่ที่ผ่านมาดีแทคกลับมีกลุ่มลูกค้าดีแทคใช้งานแล้วกว่า 87,775 ราย' ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มบริการเสริมดีแทค กล่าว
และช่วง 2 วันแรกที่ดีแทคเปิดจำหน่ายไอโฟนอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ปรากฏว่ามีลูกค้าเข้าแถวซื้อกันถึง 1,700 คน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการทำตลาด 2 วันแรกของไอโฟนจากดีแทคยังเทียบไม่ได้กับเมื่อครั้งที่ทรูฯ เปิดตัวไอโฟนในประเทศไทย โดย ปพนธ์ แห่งค่ายทรูฯ บอกว่าเพียงวันแรกที่ทรูฯ ทำตลาดไอโฟนก็มีลูกค้ามาเข้าคิวรับเครื่องถึง 3,800 คนแล้ว
และทรูก็ต้อนรับน้องใหม่ไอโฟนจากดีแทคแบบทันควันด้วยการเปิดตัวแพกเกจไอแพกเดือนละ 699 บาทสำหรับผู้ที่ไม่ได้ซื้อไอโฟนจากทรูมูฟ พร้อมโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 6 เดือนเมื่อสมัครเบสิกแพกเกจ 599 บาท รวมทั้งยังได้มีการเพิ่มแพกเกจ Lite 399 บาท สามารถโทร.ได้ 100 นาที SMS 50 ครั้ง EDGE/GPRS 200 MB และทดลองใช้ 3G 500MB
ส่วนแพกเกจโปรโมชั่นไอโฟนบายดีแทคถูกแบ่งออกเป็น 3 แพกเกจย่อย คือไอโฟน S ค่าบริการ 499 บาท ไอโฟน M ค่าบริการ 580 บาท และไอโฟน L ค่าบริการ 699 บาท
กลยุทธ์ในการทำตลาดไอโฟนของดีแทคจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มที่อยากได้แต่ไม่มีความรู้ รวมถึงกลุ่มที่อยากใช้งานเป็น โดยดีแทคมั่นใจว่าการทำตลาดไอโฟนของดีแทคจะไม่กระทบการทำตลาดแบล็กเบอร์รี่ของดีแทค
ดีแทคได้เตรียมงบกว่า 100 ล้านบาทสำหรับการทำตลาดไอโฟน โดยมีการใช้กลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจร ทั้งในสื่อโฆษณาโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ รวมถึงสื่อออนไลน์ด้วย
โนเกีย N900
เอไอเอสเท่านั้น
หลังจากเอไอเอสโหมตลาดสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 'แบล็กเบอร์รี่' ตามด้วยกลยุทธ์การออกสมาร์ทโฟนแพกเกจที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนไม่ว่าซื้อเครื่องจากที่ไหนก็สามารถมาสมัครแพกเกจนี้ได้
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเอไอเอสกับการทำตลาดสมาร์ทโฟน คือการเอ็กซ์คลูซีฟโนเกีย N900 รายเดียวในประเทศไทย โดยเอไอเอสได้เปิดให้จองโนเกีย N900 ในราคาเพียง 20,900 บาท พร้อมรับแพกเกจ GPRS Unlimited จ่ายเพียง 900 บาท ใช้ GPRS ได้ไม่จำกัดนาน 3 เดือน ในงาน คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2010 ที่ผ่านมา น่าที่จะเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่ผู้บริโภครอคอย ซึ่งจะมีส่วนผลักดันการทำตลาดสมาร์ทโฟนของเอไอเอสให้เติบโตด้วย
ที่มาโดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น