Updated - แอปเปิลโหมไฟสงครามเย็น ฟ้องเอชทีซีเจ็บถึงกูเกิล
แอปเปิล (Apple) ลงไม้แข็ง ส่งฟ้องเอชทีซี (HTC) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติไต้หวันข้อหาละเมิดสิทธิบัตรแอปเปิล 20 รายการ Nexus One
แม้คำฟ้องของแอปเปิลหวังให้ศาลสั่งห้ามเอชทีซีวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนที่ละเมิดสิทธิบัตร แต่เสียงวิจารณ์ว่านี่อาจเป็นหนึ่งสัญญาณที่แสดงความร้อนระอุของสงครามเย็นระหว่างแอปเปิลกับกูเกิลนั้นเกิดขึ้นอย่างหนาหู เนื่องจากหากแอปเปิลชนะคดี กูเกิลก็มีแนวโน้มสูงมากที่จะทำตลาดระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้ลำบากขึ้น
บางส่วนของสิทธิบัตรเทคโนโลยีเจ้าปัญหา 20 รายการนี้เป็นเทคโนโลยีการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้หรือ user interface เช่น การลากนิ้วบนหน้าจอเพื่อปลดล็อกเครื่อง และเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมการสื่อสารข้อมูลภายในเครื่อง รวมถึงเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ โดยแอปเปิลดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลรัฐเดลาแวร์ และคณะกรรมการกำกับดูแลการค้าระหว่างประเทศหรือ International Trade Commission
งานนี้ซีอีโอแอปเปิลออกมาแถลงการณ์ด้วยตัวเอง โดยระบุว่าการฟ้องร้องครั้งนี้เป็นการตัดสินใจเพื่อรักษาความเป็นธรรมในการแข่งขัน
"เราสามารถนั่งลงและมองคู่แข่งขโมยนวัตกรรมที่เราคิดค้นขึ้นก็ได้ หรือจะลุกขึ้นมาจัดการอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้ก็ได้" สตีฟ จ็อบส์ระบุว่าแอปเปิลเลือกอย่างหลัง "เรามองว่าการแข่งขันนั้นเป็นเรื่องดี แต่ผู้ลงแข่งขันจะต้องสร้างเทคโนโลยีของตัวเอง ไม่ใช่มาขโมยของเรา"
แอปเปิลไม่ระบุชื่อรุ่นโทรศัพท์มือถือของเอชทีซีที่แอปเปิลร้องเรียนว่าละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีแอปเปิล
เอชทีซีระบุว่ายังไม่ได้รับคำฟ้อง จึงไม่สามารถให้ความเห็นใดๆได้ในขณะนี้ เบื้องต้น คีธ โนวัค (Keith Nowak) ผู้จัดการฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ เอชทีซีสำนักงานใหญ่ในวอชิงตัน ยืนยันว่าเอชทีซีนั้นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนมานานหลายปี และเอชทีซีมีสิทธิบัตรเทคโนโลยีเป็นของตัวเองจำนวนไม่น้อย ที่สำคัญ เอชทีซีมีนโยบายให้ความสำคัญต่อสิทธิบัตรเทคโนโลยีมาโดยตลอด
HTC Hero
คำร้องของแอปเปิลคือการขอให้ศาลสั่งห้ามเอชทีซีนำสมาร์ทโฟนที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิบัตรแอปเปิลเข้ามาจำหน่ายในสหรัฐฯ โดยเอชทีซีนั้นมีดีกรีเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รายใหญ่ที่สุดในขณะนี้ ทั้งแอนดรอยด์รุ่นแรก G1, สมาร์ทโฟนแบรนด์กูเกิลตัวแรก Nexus One และนานาสมาร์ทโฟนแบรนด์เอชทีซี ได้แก่ Touch Pro, Touch Diamond, Touch Pro2, Tilt II, Pure, Imagio, Dream, myTough 3G, Hero, HD2 และ Droid Eris
หากศาลตัดสินให้แอปเปิลชนะคดี นักสังเกตการณ์เชื่อว่ากูเกิลจะได้รับผลกระทบอย่างมากในการทำตลาดแอนดรอยด์ เนื่องจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์จำเป็นต้องวาดลวดลายบนเครื่องที่มีเทคโนโลยี multitouch หรือการรองรับการสัมผัสมากกว่า 1 จุดพร้อมกัน จุดนี้ทำให้กูเกิลต้องลุ้นคำตัดสินของศาลร่วมกับเอชทีซีด้วยเช่นกัน
แอปเปิลระบุว่า นับตั้งแต่การเปิดตัวไอโฟน (iPhone) เมื่อ 3 ปีที่แล้ว แอปเปิลต้องส่งคำฟ้องร้องมากมายหลายกรณีต่อศาลถึงการละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีมากกว่า 200 จุดซึ่งแอปเปิลคิดค้นและประกาศความเป็นเจ้าของไว้เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ แม้กระนั้น บริษัทจำนวนมากก็ยังคงเปิดตัวโทรศัพท์มือถือซึ่งมีการออกแบบทั้งตัวเครื่องและส่วนติดต่อผู้ใช้ที่มองแล้วชัดเจนว่าได้รับแรงบันดาลใจจากไอโฟน ซึ่งบางกรณีแอปเปิลก็ไม่ได้ติดตามฟ้องร้องให้เป็นคดีความอย่างที่ควรทำ
นอกจากเอชทีซี แอปเปิลยังคงมีคดีความกับโนเกียเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีเช่นกัน โดยทั้ง 2 บริษัทต่างตอบโต้ด้วยการฟ้องร้องกันและกัน และการพิจารณาคดียังไม่เสร็จสิ้นในขณะนี้
สงครามเย็นระอุ
ก่อนหน้านี้ กูเกิลนั้นเป็นบริษัทให้บริการเครื่องมือสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของโลก ขณะที่แอปเปิลเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการแมคอินทอช รูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ต่างกันทำให้ทั้งสองบริษัทไม่มีแนวทางเป็นคู่แข่งกัน แต่ล่าสุดการขยายธุรกิจของทั้งสองบริษัทเริ่มทับซ้อนกันและแข่งกันเอง ได้แก่ การพัฒนาแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ของกูเกิล ซึ่งจะสู้กับแพลตฟอร์มไอโฟนของแอปเปิลโดยตรง การพัฒนาโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์โครมของกูเกิล ซึ่งจะชนกับเบราว์เซอร์ซาฟารีของแอปเปิล ฯลฯ ทั้งหมดทำให้ภาพของทั้ง 2 ค่ายกลายเป็นคู่แข่งกันในที่สุด
เดือนมกราคม กูเกิลเปิดตัว Nexus One สมาร์ทโฟนใหม่ที่กูเกิลวางนโยบายจัดจำหน่ายเอง ความเคลื่อนไหวนี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเปิดเกมเขย่าบัลลังก์ไอโฟนของแอปเปิลอย่างจริงจัง แต่แอปเปิลไม่ออกมาตอบโต้ใดๆ
จุดแตกหักที่มองว่าทั้งกูเกิลและแอปเปิลกำลังทำสงครามเย็นต่อกันคือการที่แอปเปิลประกาศซื้อบริษัทโฆษณาบนโทรศัพท์เคลื่อนที่นาม Quattro Wireless ความเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นหมัดที่แอปเปิลยิงเพื่อสวนกลับกูเกิลที่รุกหนักเขย่าบัลลังก์แอปเปิลอย่างชัดเจนมาตลอด เนื่องจากการซื้อบริษัทครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 2 เดือนให้หลังจากที่กูเกิลประกาศซื้อบริษัท AdMob ด้วยเงิน 750 ล้านเหรียญ ความสำคัญของเรื่องนี้อยู่ที่ AdMob นั้นเป็นบริษัทคู่แข่งกัน Quattro Wireless โดยตรง
การฟ้องเอชทีซีของแอปเปิลในครั้งนี้จึงถูกนำมาโยงกับสงครามเย็นที่เกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่เชื่อว่าจะทำให้เกิดผลเปลี่ยนแปลงอย่างมากในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในอนาคต
ล่าสุดทางเอชทีซีได้มีแถลงการณ์ออกมาว่า เอชทีซีเพิ่งได้รับทราบความเคลื่อนไหวของแอปเปิลจากรายงานข่าวเมื่อตอนเช้าของวันที่ 2 มี.ค. (ตามเวลาสหรัฐฯ) โดยที่เรายังไม่มีโอกาสตรวจสอบเกี่ยวกับการยื่นคำร้องเหล่านี้ ทั้งนี้เอชทีซีจึงยังไม่สามารถออกความเห็นเกี่ยวกับหลักฐานการอ้างสิทธิตามคำร้องที่มีต่อเอชทีซี จนกว่าจะได้มีโอกาสตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
Company Realted Links :
Apple
Google
HTC
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น