"Playbook" ผู้ชนะในสงครามแท็บเล็ต! (จริงหรือ) Playbook แท็บเล็ตร้อนแรงจากริม ขึ้นแท่นเป็นแท็ปเล็ตที่ดีที่สุดในขณะนี้ หลังเว็บไซต์ Engadget นำสเปกของ 4 แท็บเล็ตแบรนด์ดังในปัจจุบันอย่างไอแพ็ด (iPad) จากแอปเปิล, สเตรก (Streak) จากเดลล์, กาแล็กซี (Galaxy Tap) และเพลย์ บุ๊ก (Play Book) จากริมมาเปรียบเทียบกัน งานนี้น้องเล็กสุดที่เพิ่งจะเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ อย่างเพลย์บุ๊กจะดูเหมือนจะมีสเปกที่ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้
Play Book นั้นโดดเด่นด้วยระบบปฏิบัติการ Tablet OS ของแบล็กเบอรีเอง ใช้ RAM 1GB และซีพียู Dual Core Cortex-A9 ความเร็ว 1GHz ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายในเพื่อให้สามารถประมวลผลมัลติมีเดียอย่าง Full HD, เกมส์ 3มิติ และรองรับการใช้งานมัลติทาร์สกิงได้ นอกจากนี้เพลย์บุ๊กยังสนับสนุนการใช้งานโปรแกรม Flash Player 10.1 มีกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้องตัวหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ซึ่งจุดนี้ถือเป็นหมัดเด็ดที่ใช้โค่นพี่ใหญ่อย่างไอแพ็ดในนอนตายราบได้
ในที่นี้คู่ต่อสู้ที่ดูจะฟาดฟันกันมากที่สุดคงหนีไม่พ้น "กาแล็กซี แท็บ" ซึ่งได้เปรียบกว่าในเรื่องของแอปพลิเคชันที่มีนักวิเคราะห์ออกมาคาดการณ์ว่าในปี 2011 แอนดรอยด์จะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดสมาร์ทโฟน เนื่องจากเป็นระบบปฏิบัติการเปิด นอกจากนี้ยังมีในส่วนของหน่วยความจำซึ่งสามารถเพิ่มได้ด้วย microSD และการเชื่อมต่อบลูทูธ 3.0 ที่ PlayBook ไม่มีมาให้
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการวัดผลจากสเปกเบื้องต้นที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการใช้งานของ PlayBook ที่วิ่งขึ้นสังเวียนเป็นรายสุดท้าย ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดตัวทีหลังย่อมได้เปรียบเสมอ เมื่อเทียบกับไอแพ็ดที่จุดพลุสงครามนี้ก่อนใคร
ในส่วนของแบล็กเบอรี แม้ในขณะนี้จะเป็นแท็บเล็ตที่น่ากลัวมากที่สุด (เมื่อเทียบกับสเปกโดยรวม) แต่ปัญหาก็คือ ด้วยความที่ใช้ระบบปฏิบัติการน้องใหม่ เลยทำให้ผู้ใช้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแอปพลิเคชันที่จะมีออกมารองรับ ในขณะที่ไอแพ็ด, กาแล็กซี แท็บ และสเตรกใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ แอนดรอยด์ที่มีแอปฯ ออกมารองรับระยะหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ยังมีในส่วนของการใช้งาน ที่ยังไม่มีผู้บริโภครายได้มีโอกาสได้สัมผัส และทดลองใช้งานจริง
อีกทั้งในเรื่องของราคาวางจำหน่าย, อายุการใช้งานของแบตเตอรีซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่ผู้บริโภคต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ แต่ริมกลับยังไม่ยอมออกมาปริปากบอก ระบุเพียงว่า PlayBook จะสามารถวางตลาดในสหรัฐฯช่วงต้นปีหน้า (2011) ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น เราคงจะได้คำตอบที่แท้จริงกัน
ที่มา manager
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น