เดือนที่แล้ว “สตีเฟ่น อีลอป” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโนเกีย ได้ประกาศ กลยุทธ์ใหม่ที่ “ช็อค” ทั้งสาวกและพนักงานของโนเกียในคราวเดียวกันว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำอะไรใหม่ๆ ในทุกอนูของโนเกีย โดยเฉพาะกลยุทธ์ของการใช้ “โอเอส” หรือระบบปฏิบัติการที่จะใช้ใน “สมาร์ทดีไวซ์” ตามคำของโนเกียที่เลี่ยงจะพูดถึงสมาร์ทโฟนด้วยการจับมือกับยักษ์ใหญ่วงการซอฟต์แวร์โลก “ไมโครซอฟท์” ที่จะนำ “วินโดวส์ โฟน” มาใช้
การตัดสินใจที่จะฝากอนาคต “โอเอส” ในธุรกิจสมาร์ทดีไวซ์ไว้กับวินโดวส์ โฟน ถือเป็นเดิมพันสำคัญของ สตีเฟ่น อีลอป ซีอีโอ ของโนเกียคนใหม่ที่มาแทนที่ “ออยลี เพกก้า คัลลาสโว” ที่อยู่กับโนเกียมานานมาก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งอดีตประธานและซีอีโอและคนโนเกียเชื่อมั่นและดึงดันที่จะใช้โอเอส “ซิมเบียน” ที่เคยสร้างชื่อและดันให้โนเกียเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟน มีศักยภาพมากพอที่จะต่อกรกับแนวคิดการใช้เทคโนโลยี “ทัชสกรีน” มาใช้ในไอโฟนของแอปเปิล โดยที่ตั้งความหวังจะหวนคืนกลับสู่บังลังก์แชมป์ให้ได้ในอนาคตอันใกล้นี้ในตลาดสมาร์ทโฟน เหมือนเมื่อครั้งในอดีตหลังจากที่ต้องสูญเสียตำแหน่งให้กับโอเอสที่มาแรงๆ อย่าง แอนดรอยด์ของกูเกิล กับไอโอเอสของแอปเปิล
เดิมทีมีการคาดหมายกันว่า โนเกียจะเปิดวินโดวส์ โฟน อย่างเร็วก็ต้องเป็นปีหน้า และจากเดิมที่คิดว่าจะมีเพียงแค่ 1 รุ่น ตามสไตล์ของโนเกียเช่นกันในการเปิดตัวสมาร์ทดีไวซ์ แต่ครั้งนี้ ผิดหมด หนึ่ง โนเกียเปิดตัวสมาร์ทดีไวซ์เป็นๆ จับต้องได้แล้ว และพร้อมวางขายต้นเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ใน 6 ประเทศใหญ่ในยุโรป ประกอบไปด้วย อังกฤษ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน เยอรมนี และฝรั่งเศส และจะเปิดตัวก่อนสิ้นปีที่ประเทศอินเดีย ฮ่องกง สิงคโปร์และไต้หวัน โดยมีการเชื่อมสัญญาณวิดีโอโฟนภายในงานไปยังโรงงานผลิตที่ประเทศฟินแลนด์ ให้ผู้จัดการโรงงานหยิบสมาร์ทโฟนรุ่นแรก Lumia 800 ที่ประกอบเสร็จแล้ว แพกใส่กล่องพร้อมส่งกันให้เห็นแบบสดๆ นั้นน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำไม โนเกียถึงได้ใช้ธีมภายในงานนี้ว่า New Now
Lumia 710 เป็นสมาร์ทดีไวซ์ที่สร้างสร้างขึ้นโดยให้ความสำคัญกับการใช้งานในรูปแบบที่ปรับแต่งได้ตามใจผู้ใช้ ฝาหลังเปลี่ยนได้ มีให้เลือก 5 สี ประกอบไปด้วยสีดำ ขาว ฟ้า ชมพูและเหลือง ด้านหน้ามี 2 สีให้เลือก ระหว่างสีดำกับสีขาว ซีพียูตัวเดียวกับ Lumia 710 ความเร็ว 1.4 GHz พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฮาร์ดแวร์ ระบบประมวลผลให้ทำงานได้เร็วขึ้น ตั้งราคาขายไว้ที่ 270 ยูโร พร้อมวางขายที่ฮ่องกง อินเดีย รัสเซีย ไต้หวันและสิงคโปร์ ก่อนสิ้นปีนี้ และในประเทศอื่นๆ ต้นปี 2555
“นี่คือก้าวสำคัญของโนเกียต่อจากนี้ไป” สตีฟ อีลอป ประกาศออกมาหลังจากที่เปิดตัวสมาร์ทดีไวซ์ทั้ง 2 รุ่นอย่างเป็นทางการ
จากการพูดคุยกับเควิน ซิลด์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายบริหารโปรแกรมโนเกีย วินโดวส์โฟน ของโนเกีย ที่คลุกคลีและดูแลสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้ระบุว่า ทั้ง Lumia 800 และ 710 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยม โดยทางเทคนิคทางการตลาดแล้ว โนเกียยก Lumia 800 เป็น ฮีโร่โปรดักส์ที่ใครๆ ก็อยากจะใช้อยากทดลอง โดยร่วมมือกับ 69 โอเปอเรเตอร์และรีเทลเลอร์ที่จะช่วยผลักดันเช้าสู่ตลาด รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจในระดับโลกอย่างโฟร์สแควร์ มอนสเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์อาร์ต ฯลฯ ในขณะที่ Lumia 710 จะถูกวางกลยุทธ์ไว้เป็นวินโดวส์โฟนที่มีราคาย่อมเยา ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้
“ทั้ง 2 รุ่น ตอบโจทย์ในกลุ่มคน 2 กลุ่มที่มีกำลังซื้อต่างกัน เปิดโอกาสให้ทุกคนมีโอกาสได้ทดลองใช้งานวินโดวส์โฟน เรียกว่า มีตัวเลือกให้เลือก”
หลังจากที่ได้ทดลองใช้งานช่วงสั้นๆ กับความสามารถของโอเอสวินโดวส์ โฟนพบว่า โดยภาพรวมแล้ว ความรู้สึกก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นที่ใช้วินโดวส์ โฟนแต่อย่างใด เพียงแต่รู้สึกว่า มีการตอบสนองที่เร็วขึ้น น่าจะเป็นเทคโนโลยีในการเร่งประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ทำให้การเข้าถึงข้อมูลหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตดูเร็วขึ้น ซึ่งทางโนเกียระบุว่า จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานประหยัดขึ้น แต่ฟีเจอร์โดยรวมของวินโดวส์โฟนใน Lumia ทั้ง 2 รุ่น แทบไม่ต่างกัน มีเบราเซอร์ไออีที่เป็นเวอร์ชันใหม่ “IE9” เหมือนที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือในโน้ตบุ๊ก
โจ เบลฟอร์ด ประธานฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ส่วนธุรกิจวินโดวส์ โฟนจากไมโครซอฟท์ ให้ความเห็นถึงความแตกต่างระหว่างสมาร์ทดีไวซ์ของโนเกียกับแบรนด์อื่นว่า สิ่งที่โนเกียเติมเต็มในวินโดวส์ โฟนก็คือ ทำให้สมาร์ทดีไวซ์เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น ทั้งในเรื่องของความรู้สึกในการใช้งาน ความน่าใช้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ ยูเซอร์อินเตอร์เฟส เรื่องของเซอร์วิสต่างของโนเกีย ที่เชื่อมถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับแอนดรอยด์แล้ว มีแอปมากมายไม่ได้ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนใช้มือถือ ขณะที่โนเกียทำคือคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของคนในการใช้งาน ต้องการอะไร ใช้งานอะไร
นอกจากนี้ยังมี Nokia Pulse ซึ่งช่วยให้สามารถอัพเดตสถานที่และรูปภาพในกลุ่มส่วนตัว พร้อมการระบุตำแหน่งในกลุ่มเพื่อนสนิท Nokia Live View เป็นอีกหนึ่งแอปที่โนเกียคุยว่า จะเปลี่ยนจอมองภาพของกล้องให้เป็นอุปกรณ์ reality โดยเพียงหันกล้องโทรศัพท์ไปที่ตึก หรือถนน จากนั้น ชื่อของสถานที่นั้นๆ จะปรากฎขึ้น เพียงคลิกเดียวคุณก็สามารถเข้าถึงรายละเอียดสถานที่ ธุรกิจ ร้านอาหาร หรือสถานที่น่าสนใจ แอปต่างๆ เหล่านี้สามารถดาวน์โหลดได้ที่ betalabs.nokia.com
สอง “เพลง” เป็นจุดขายที่แตกต่างของโนเกีย โดยทางโนเกียได้ติดตั้งแอปที่เรียกว่า Mix Radio ที่เป็นบริการสตรีมมิ่งเพลงบนอินเทอร์เน็ในแต่ละท้องถิ่นที่ใช้งาน ที่จะฟังแบบสดๆ หรือมาเก็บไว้ในเครื่องเพื่อเปิดฟังในกณีที่ไม่อยากจะออนไลน์ และยังสามารถสตรียมเพลงที่ถูกจัดเป็นกลุ่มๆ ไว้ล่วงหน้ามาเก็บไว้ในเครื่องและฟังทีหลังได้โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกแต่อย่างไร ผ่านแอป เอ็มพี 3 สโตร์หรือจะต้องการสั่งซื้อซื้อตั๋วคอนเสิร์ตได้โดยตรงจากแอป Gigs ก็ยังทำได้
สาม แอปรายงานผลกีฬาทั่วโลก ESPN Sports Hub ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหลายๆ พันธมิตรระดับโลกของโนเกีย ที่จะส่งข้อมูลอัปเดทสดๆ เรื่องของกีฬาจากทั่วทุกมุมของโลก ไม่ว่าจะเป็นกีฬายอดฮิตอย่างฟุตบอล ที่มีให้เลือกตั้งแต่ลีก ข่าวล่าสุด ผลการแข่งขัน ภาพเคลื่อนไหว โดยผู้ใช้ปักหมุด (pin) ทีมหรือลีกกีฬาที่ชอบไว้บนหน้า Start screen ได้เลย
“ทั้งหมดนี้ โนเกียให้มาฟรี ไม่ต้องสมัครเป็นสมาชิก หรือจะต้องดาวน์โหลดให้ยุ่งยาก โดยเฉพาะแอปอย่างอีเอสพีเอ็นเป็นแอปที่พิเศษเฉพาะ Lumia เท่านั้น”
ถึงแม้ทางโนเกียจะไม่ได้ให้ข้อมูลแบบลึกๆ เกี่ยวกับแคมเปญการตลาด “Amazing Everyday” สำหรับโหมกระแสวินโดวส์โฟนสไตส์โนเกียมากนัก แต่ก็ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาที่จะใช้ในงานนี้บ้างเล็กน้อย โดยเป้าหมายหลักของแคมเปญนี้มุ่งที่จะดึงความรู้สึกส่วนลึกของความรู้สึกในวัย 25 ปีของทุกคนขึ้นมา
หากดูจากความคึกคักภายในงานโดยเฉพาะในกลุ่มนักพัฒนาที่มีการปลุกเร้าอารมณ์ รวมถึงพันธมิตรยักษ์ใหญ๋ให้เห็นดีเห็นงามว่า อนาคตของแพลตฟอร์มใหม่ของโนเกียในครั้งนี้สดใส โดยเฉพาะการประกาศออกมาแรงๆ ว่า Lumia 800 เป็น Real Windows Phone รุ่นแรก คงจะต้องจับตามองไกลๆ ว่า เดิมพันของโนเกียกับไมโครซอฟท์ในครั้งนี้จะออกหัวหรือก้อยกันแน่
ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น