เปิดไพ่โอเปอเรเตอร์มือถือเกมการตลาดกระดานใหม่

เปิดไพ่โอเปอเรเตอร์มือถือเกมการตลาดกระดานใหม่
เปิดศักราชการแข่งขันธุรกิจการให้บริการโทรศัพท์มือถือบนเกมการตลาดกระดานใหม่ที่โอเปอเรเตอร์กำลังวางหมากรุกครั้งสำคัญเพื่อให้ชนะในทุกสนามรบ ในยุคตลาดอิ่มตัวแต่กลับมีโอกาสแจ้งเกิดในบางสมรภูมิ ซึ่งนั่นหมายถึงรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ที่สำคัญยังเป็นการพิสูจน์ฝีมือว่ายุทธศาสตร์ใครจะเหนือกว่ากัน ศึกชิงไหวชิงพริบของเอไอเอส ดีแทคและทรูมูฟ จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตาตลอดปี 2553
การแข่งขันระหว่างเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ ในการช่วงชิงตลาดโทรศัพท์มือถือในปี 2553 นี้ น่าจะเป็นการเปิดศึกที่สนุกสนานอีกปีและน่าที่จะเกิดอะไรใหม่ๆ ออกมาให้ตลาดผู้ใช้โทรศัพท์มือถือได้สัมผัส

ยุทธศาสตร์และเกมกลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ กำลังทยอยเปิดออกมาอย่างต่อเนื่อง และยิ่งตอกย้ำถึงสิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป

เอไอเอส ยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการมือถือเมืองไทยที่มีผู้ใช้งานในระบบกว่า 28.5 ล้านราย ได้มีการเปิดวิสัยทัศน์สำหรับการทำธุรกิจในปี 2553 ภายใต้แนวคิด Ecosystem ที่พร้อมจะสร้างระบบนิเวศให้กับธุรกิจโดยมีเน็ตเวิร์กเป็นหัวใจที่เชื่อมโยงไปยัง 5 ส่วนหลักๆ ได้แก่ อุปกรณ์ (Device), ช่องทางการให้บริการลูกค้า (Customer Assistance), ผู้ให้บริการคอนเทนต์ (Content Partners), ผู้พัฒนาโซลูชั่น (Solutions Partners) และพันธมิตรทางธุรกิจ (Business Alliance) จากหลากหลายอุตสาหกรรม

เอไอเอสมองว่าในปี 2552 ที่ผ่านมา รูปแบบการใช้บริการด้านสื่อสารโทรคมนาคมของคนไทยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการใช้โมบาย อินเทอร์เน็ต, อินเทอร์เน็ตไร้สาย รวมถึงบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต สะท้อนมาถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมใช้บริการที่ผสมผสานกันอย่างแยกไม่ออก เช่น ใช้มือถือในการโทร., เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต, ดูทีวี, ดาวน์โหลดเพลง, อัปโหลดภาพหรือวิดีโอเข้าสู่โซเชียลเน็ตเวิร์ก, แชตผ่านแบล็กเบอร์รี่ ในลักษณะของ Total Communication

สมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานกรรมการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า ปี 2553 ความต้องการและพฤติกรรมการใช้งานจะเป็นในลักษณะเดียวกันกับปีที่ผ่านมา โดยจะยิ่งเข้มข้นขึ้นและเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในส่วนของ Mobile Internet, บรอดแบนด์ รวมไปถึงการดาวน์โหลดบริการผ่านเครือข่ายไร้สาย ดังนั้น บริการที่ตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน ทุกๆ องค์ประกอบที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมจะต้องดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของตนออกมาทำงานร่วมกัน ก้าวไปพร้อมๆ กัน ด้วยแนวทางเดียวกัน พึ่งพาซึ่งกันและกัน เชื่อมต่อกันแบบไร้รอยต่อ (Seamless) ในลักษณะของ Ecosystem-ระบบนิเวศของโลกแห่งการสื่อสาร

การทำงานด้วยหลัก Ecosystem เอไอเอสพร้อมที่จะผลักดันให้เกิดรูปแบบของบริการและการเติบโตของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมอย่างเข้มแข็ง เพราะทุกองค์ประกอบอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุลและลงตัว อาทิ การทำตลาดอุปกรณ์สื่อสาร หรือ Device ซึ่งไม่เพียงเลือกเครื่องที่ดีที่สุดมาให้ลูกค้าได้ใช้เท่านั้น แต่จะออกแบบอัตราค่าบริการโดยเฉพาะพร้อมด้วยคอนเทนต์และโซลูชั่นพิเศษ สำหรับ Device นั้นๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ และประสบการณ์ใหม่ๆ จากการใช้ Device ให้มากที่สุด

ทั้งนี้ เอไอเอสได้มีการแนะนำบริการแบบ Ecosystem เช่น Nokia N900 Smart Phone ล่าสุดจาก Nokia พร้อม Bundling Package BlackBerry New Bold นวัตกรรมล่าสุดจาก BlackBerry เปิดให้จองได้แล้ววันนี้ AIS 3G Aircard 7 Mbps เชื่อมต่อเร็วที่สุดในปัจจุบัน AIS App Store ให้ลูกค้าเลือกใช้ Application ได้อย่างมากมาย MSN SIM ซึ่งสามารถติดต่อตรงกับ MSN ได้ทันทีบนมือถือทุกรุ่นMobile Pay Wave ให้บริการ Mobile Payment แบบ Contactless ที่แท้จริงVariety Superior Privilege จากหลากหลายพันธมิตร เฉพาะลูกค้าเอไอเอสเท่านั้น

"แนวคิด Ecosystem สู่ผู้บริโภคทุกกลุ่ม นอกจากเกิดประโยชน์กับผู้ใช้มือถือแล้ว ยังจะเป็นรากฐานสำคัญที่จะผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนและเข้มแข็งของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมของไทยด้วย"

เอไอเอสยังจะมีการผสมผสานเทคโนโลยีทั้ง Wireless และ Wired-line เข้าด้วยกัน ล่าสุด เอไอเอสยังถือเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่มีพื้นที่ให้บริการ 3G ครอบคลุมมากที่สุด ที่เกิดจากความร่วมมือกับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าของสัญญาร่วมการงาน โดยผู้ใช้งานเอไอเอสจะมีทางเลือกในการใช้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายได้ทั้งจากเครือข่าย EDGE/GPRS ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และ 3G ทั้งคลื่น 900 MHz และคลื่น 2100 MHz

ปัจจุบันนี้นอกเหนือจากการเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับ 1 แล้ว เอไอเอสยังก้าวสู่อีกหลากหลายบทบาท คือ เป็นช่องทางการจำหน่ายเพลงที่ใหญ่ที่สุด โดยมีการดาวน์โหลดเพลงมากกว่า 20 ล้านครั้ง และ 60% เป็นการดาวน์โหลดผ่านทางคอลเซ็นเตอร์ การเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุด เพราะมีผู้ใช้บริการโมบาย อินเทอร์เน็ตถึงกว่า 6.5 ล้านรายการเป็นผู้เปิดมิติของ Lifestyle รูปแบบใหม่ให้แก่ Consumer ในการก้าวเข้าสู่ประสบการณ์ของโลกแห่ง Mobile Email, Social Networking ผ่านการใช้งาน Smart Phone อย่าง BlackBerry โดยมีลูกค้าใช้งานแล้วมากกว่า 100,000 ราย การเป็นผู้สร้างตลาด Wireless Internet ด้วยการเปิดตลาด AIS Aircard โดยมีลูกค้ากว่า 300,000 รายที่นิยมใช้บริการ ถือเป็นสัดส่วนมากกว่า 20% ของตลาดการใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

ไมโครเซกเมนต์
การตลาด "แฮปปี้"

ดีแทคได้มีการวางแนวทางการทำตลาด "แฮปปี้" ด้วยกลยุทธ์ Micro Segmentation เป็นแนวทางหลักที่จะเข้าถึงใจผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ จากที่ผ่านมาแฮปปี้ใช้แนวทางเซกเมนต์ทำตลาด ทำให้สามารถเรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้าที่แตกต่างกัน แต่เมื่อตลาดในปีนี้เป็นช่วงที่ตลาดใกล้เต็มและหาลูกค้าใหม่ได้ยาก ทำให้แฮปปี้ต้องหันมาใช้แนวทางใหม่ไมโครเซกเมนต์ เจาะกลุ่มที่มีขนาดเล็กลงไปอีก เพื่อทำให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจและถูกใจยิ่งกว่าเดิม

ในการนำไมโครเซกเมนต์มาเป็นไอเดียชูโรงในการทำตลาดแฮปปี้ในปีนี้ ถือเป็นการใช้ข้อมูลทั้งจากการศึกษาพฤติกรรมการโทร.ภายในกลุ่มลูกค้าดีแทค โดยกลุ่มแรกที่ดีแทคพบและสนใจคือกลุ่มผู้หญิงอายุ 25-35 ปี ที่เรียกได้ว่าเป็น Valued Customer ถึงแม้จำนวนที่เป็นผู้หญิงจะมีน้อยกว่าผู้ชาย แต่กลับเป็นกลุ่มที่มีการใช้งานสูงกว่า แถมมีพฤติกรรมการใช้งานคงที่และตอบรับกับโปรโมชั่นการตลาดอย่างเห็นได้ชัด แฮปปี้จึงออก "ซิมกันแดด SPF 29 สตางค์"มาตอบสนองกลุ่มผู้ใช้ในกลุ่มนี้ และแนวทางนี้แฮปปี้จะนำมาตอบสนองความต้องการของเป้าหมายไมโครเซกเมนต์กลุ่มอื่นๆ ต่อไป

กลุ่มทรูฯ มองโอกาส
บรอดแบนด์-3G

ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มองว่า การทำธุรกิจของกลุ่มทรูฯ ในปีนี้จะมีการเติบโตขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของบรอดแบนด์ ยิ่งถ้ามีเรื่องของไลเซนส์ 3G ด้วยจะยิ่งทำให้เกิดการก้าวกระโดดทางธุรกิจอย่างแน่นอน จึงได้มีการวางงบการลงทุนเรื่องโครงข่ายเตรียมรองรับความต้องการการใช้งานที่เกิดขึ้น ที่สำคัญกลุ่มทรูฯ ยังเน้นเรื่องของการคอนเวอร์เจนซ์ ซึ่งถือเป็นจุดที่ทำให้ทรูฯ แตกต่างจากเอไอเอสและดีแทค



ทีมาโดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์/http://www.managerweekly.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น