Vodafone เปิดตัวมือถือ Android, QWERTY และ แฟชั่นโฟน

Vodafone เปิดตัวมือถือ Android, QWERTY และ แฟชั่นโฟน Vodafone เปิดตัวโทรศัพท์มือถือพร้อมกัน 3 รุ่น ได้แก่ Vodafone 945 สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ Vodafone 553 คิวเวอร์ตี้สไลด์โฟน และ Vodafone 543 แฟชั่นโฟน Miss Sixty
Vodafone 945 สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 2.1 Eclair จอแสดงผลระบบสัมผัส capacitive ความละเอียด WQVGA พิกเซล กว้าง 3.2 นิ้ว กล้องถ่ายรูป 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED รองรับเครือข่าย 3G-HSDPA สนับสนุนการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth, GPS หน่วยความจำภายใน 300MB เพิ่มเติมการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD
Vodafone 553 มาในรูปทรงสไลด์คีย์บอร์ด QWERTY ทางด้านข้าง หน้าจอสัมผัส กว้าง 2.8 นิ้ว กล้องถ่ายรูปความละเอียด 2 ล้านพิกเซล วิทยุ FM ท่องอินเทอร์เน็ตบราว์เซอร์ Opera Mini 5 เข้าถึงเว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ สนับสนุนการเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับการ์ดหน่วยความจำ MicroSD
หลังจากได้เปิดตัว Vodafone 543 หลากหลายสีสันไปเมื่อเดือนเมษยนที่ผ่านมา Vodafone ยังได้ร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่นชื่อดัง Miss Sixty ทำการเปลี่ยนแปลงโฉม Vodafone 543 รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ ให้มีสัสันมากยิ่งขึ้นด้วยดีไซน์แบบกราฟฟิกสวยงาม หน้าจอสัมผัส 2.4 นิ้ว ท่องโลกออนไลน์จากบราว์เซอร์ Opera Mini 5
Vodafone เปิดตัวมือถือ Android, QWERTY และ แฟชั่นโฟน
ที่มา news.siamphone

โซนีอีริกสันโชว์จอจิ๋วไร้สาย ดูSMS-มิสคอล-เฟสบุ๊กจากมือถือได้


โซนีอีริกสันโชว์จอจิ๋วไร้สาย ดูSMS-มิสคอล-เฟสบุ๊กจากมือถือได้ LiveView หน้าจอจิ๋วจากโซนีอีริกสัน ที่สามารถใช้เป็นรีโมทคอนโทรล์สมาร์ทโฟนแอดดรอยด์ ถือเป็นสินค้าที่หลายคนยกนิ้วให้ว่าน่าสนใจมากสำหรับ "LiveView" ที่โซนีอิริกสัน (Sony Ericsson) เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา มาในรูปหน้าจอ OLED ขนาดจิ๋ว 1.3 นิ้วที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเรียกดูนานาข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ เช่น สายที่ไม่ได้รับ (มิสคอล) ข้อความสั้น ข้อความอัปเดทสถานะในเฟสบุ๊กและทวิตเตอร์ รวมถึงตรวจดูลิงก์ RSS ที่น่าสนใจได้โดยไม่ต้องเอื้อมมือไปกดตัวโทรศัพท์มือถือ

อย่าเพิ่งบอกว่าไม่เห็นน่าสนใจเลย เพราะขนาดกระทัดรัดและบางเฉียบที่ 35x35x11 มม. ทำให้ LiveView ถูกนำไปเทียบกับ iPod Nano รุ่นใหม่ซึ่งสามารถนำไปติดที่เสื้อ หรือประยุกต์เป็นนาฬิกาข้อมือได้ จุดนี้จะสร้างความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้มากมายเพราะ LiveView จะทำให้เจ้าของเครื่องไม่ต้องควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าบ่อยครั้งเพียงเพื่อดูหน้าจอ

นอกจากแสดงหมายเลขโทรเข้า, SMS, RSS, Facebook และ Twitter ตัว LiveView ยังสามารถควบคุมการเล่นเพลง, โทรออก และรับสายโทรศัพท์ได้ด้วย ทำให้หลายคนเรียก LiveView ว่าเป็น"รีโมทคอนโทรล์"ของโทรศัพท์มือถือที่มีหน้าจอ

เบื้องต้น รายงานระบุว่าแอปพลิเคชันจำนวนมากจะถูกนำมาสร้างใหม่เพื่อให้แอปพลิเคชันสามารถรองรับการทำงานระหว่างสมาร์ทโฟนและ LiveView ได้ นอกจากนี้ โซนี่ยังมีแผนจะสร้างแอปพลิเคชันขึ้นมาสแกนหรือตรวจสอบร้าน Android Market เพื่อแสดงให้ผู้ใช้เห็นว่า มีแอปพลิเคชันใดบ้างที่สามารถทำงานกับของเล่นชิ้นใหม่ของโซนีได้

LiveView สามารถชาร์จพลังงานผ่าน USB ข้อมูลระบุว่าสามารถใช้งานต่อเนื่อง 4 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตัวเครื่องบาง 11 มม.หนากว่า iPod Nano ซึ่งบาง 8.8 มม. เท่านั้น มีคลิปสำหรับติดเสื้อได้ลักษณะเดียวกัน

LiveView สามารถทำงานกับโทรศัพท์ระบบปฏิบัติการ Android 2.0 ขึ้นไป ข้อมูลระบุว่าไม่ใช่ระบบสัมผัสทัชสกรีนแต่มีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับการสัมผัสฝังที่ 4 ด้านของขอบจอ ยังไม่มีรายละเอียดราคาจำหน่ายในขณะนี้
Sony Ericsson LiveView™
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

กำเนิด"PlayBook" แท็บเล็ตพันธุ์บีบี

กำเนิด"PlayBook" แท็บเล็ตพันธุ์บีบี Mike Lazaridis ผู้ร่วมก่อตั้งริม


สมรภูมิคอมพิวเตอร์กระดานชนวนหรือแท็บเล็ตคึกคัก เมื่อ"ริม (RIM)" ผู้ผลิตแบล็กเบอรีตัดสินใจแจ้งเกิด "BlackBerry PlayBook" แท็บเล็ตตัวแรกของบริษัทสู้ การันตีเป็นแท็บเล็ตสำหรับมืออาชีพตัวแรกในตลาด คาดวางตลาดปีหน้า

ที่เวทีงานประชุมนักพัฒนาประจำปี DevCon 2010 บริษัท ริม เปิดตัวสินค้าตัวแรกที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟน" PlayBook" มาในรูปคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสทรงกระดานชนวน ริมระบุว่ามีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้ทำงานมากกว่าความบันเทิง หวังตอบโจทย์กลุ่มนักธุรกิจที่เป็นผู้ใช้บีบีอยู่แล้วให้สามารถใช้งานได้รอบด้าน

จุดเด่นของ BlackBerry PlayBook ที่แท็บเล็ตยี่ห้ออื่นไม่มี อยู่ที่ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์จากบริษัท QNX มาใช้ แทนระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนอย่างแบล็กเบอรี่โอเอส หรือแอนดรอยด์ทั่วไป โดยริมให้ชื่อเรียกระบบปฏิบัติการนี้ว่า BlackBerry Tablet OS เป็นผลงานการออกแบบของบริษัท QNX Software ซึ่งริมซื้อลิขสิทธิ์มาเมื่อต้นปีนี้ หน้าจอเครื่องขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1024x600 พิกเซล ด้านหน้าติดกล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล ด้านหลังติดกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล ตัวเครื่องหนา 9.7 มม.

BlackBerry PlayBookยังมีหน่วยประมวลผล (ซีพียู) ดูอัลคอร์ Cortex-A9 1GHz ทำให้สามารถประมวลผลงานหลายงานได้พร้อมกัน หน่วยความจำสำรอง RAM 1GB รองรับเครือข่ายไร้สาย 802.11 a/b/g/n Wi-Fi และบลูทูธ 2.1 สามารถแสดงผลเว็บไซต์มาตรฐาน HTML5 และวิดีโอโปรแกรม Flash ได้

นอกจากนี้ ใน BlackBerry PlayBook ยังมีจุดน่าสนใจคือ สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงเต็มขั้น HD 1080p ได้ แต่ในส่วนพื้นที่เก็บข้อมูล ยังไม่แน่ชัดว่าหน่วยความจำภายในของ BlackBerry PlayBook เป็นเท่าใด ซึ่งข้อมูลรุ่นต้นแบบที่ถูกเปิดเผยในงานนั้นมีให้เลือกทั้ง 16GB และ 32GB

เบื้องต้น PlayBook คาดว่าจะสามารถวางตลาดในสหรัฐฯช่วงต้นปีหน้า (2011) สำหรับการวางจำหน่ายทั่วโลกคาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2011 ยังไม่มีรายงานคาดการณ์ราคาใดๆ

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ BlackBerry PlayBook เนื่องจากริมไม่เปิดเผยข้อมูลอายุการใช้แบตเตอรี่ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่นักธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วไปจำเป็นต้องพิจารณาให้ดีก่อนการเลือกซื้อ

Mike Lazaridis ผู้ร่วมก่อตั้งริม ระบุว่ากลุ่มเป้าหมายของ PlayBook คือนักธุรกิจที่ใช้งานแบล็กเบอรีอยู่แล้ว โดยออกแบบให้เครื่องสามารถเชื่อมกับ BlackBerry Enterprise Servers หรือซอฟต์แวร์ตัวกลางของแบล็กเบอรี่ที่จะทำให้พนักงานในกลุ่มธุรกิจสามารถเชื่อมต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็ว โดยริมระบุว่าผู้ใช้ PlayBook จะสามารถใช้งาน BlackBerry Enterprise Server ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม และไม่ต้องตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์, ซอฟต์แวร์, ความปลอดภัย รวมถึงแพคเกจค่าบริการข้อมูลใหม่

ริมระบุว่าจากการที่ ธุรกิจมากกว่า 250,000 แห่งทั่วโลกล้วนใช้งาน BlackBerry Enterprise Servers จุดนี้ริมมองว่า PlayBook จะสามารถดึงดูดบริษัทที่ต้องการให้พนักงานใช้แท็บเล็ตโดยไม่ต้องตั้งค่าอุปกรณ์ใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ ความสามารถในการเล่นวิดีโอความละเอียดสูงบนทีวีด้วยพอร์ต HDMI video out ก็จะทำให้ผู้ใช้สามารถแสดงวิดีโอพรีเซนเทชันระหว่างการประชุมได้แบบมืออาชีพ รวมถึงกล้องดิจิตอลหน้าเครื่องที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถทำวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กันได้

นอกจากความสามารถด้านธุรกิจ PlayBook ยังรองรับคุณสมบัติอย่าง OpenGL ซึ่งทำให้นักพัฒนาเกมสามารถสร้างเกม 3 มิติเพื่อเล่นบน PlayBook ได้ จุดนี้ Dan Dodge ซีอีโอของ QNX ระบุว่าเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อเอาใจผู้ใช้งาน ซึ่งส่วนตัวซีอีโอมองว่าผู้บริโภคนั้นไม่ได้ต้องการซื้อแท็บเล็ตมาเพื่อเล่นเกมอย่างเดียว

ในส่วนระบบสมาร์ทโฟน งานนี้ริมเปิดตัวแพลตฟอร์มการทำงานใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกนักพัฒนาเพิ่มขึ้นอีกหลายจุด หนึ่งในนั้นคือ BBM Social Platform ซึ่งนักพัฒนาจะสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันด้านการแชตแบบเรียลไทม์ การแบ่งปันคอนเทนต์ รวมถึงสร้างชุมชนโดยเชื่อมต่อทางโปรแกรมแชต BBM ได้ เท่ากับผู้ใช้บีบีในอนาคตจะสามารถเชื่อมถึงกันแนบแน่นกว่าที่เป็นอยู่

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

"Playbook" ผู้ชนะในสงครามแท็บเล็ต! (จริงหรือ)

"Playbook" ผู้ชนะในสงครามแท็บเล็ต! (จริงหรือ) Playbook แท็บเล็ตร้อนแรงจากริม ขึ้นแท่นเป็นแท็ปเล็ตที่ดีที่สุดในขณะนี้ หลังเว็บไซต์ Engadget นำสเปกของ 4 แท็บเล็ตแบรนด์ดังในปัจจุบันอย่างไอแพ็ด (iPad) จากแอปเปิล, สเตรก (Streak) จากเดลล์, กาแล็กซี (Galaxy Tap) และเพลย์ บุ๊ก (Play Book) จากริมมาเปรียบเทียบกัน งานนี้น้องเล็กสุดที่เพิ่งจะเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ อย่างเพลย์บุ๊กจะดูเหมือนจะมีสเปกที่ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้

Play Book นั้นโดดเด่นด้วยระบบปฏิบัติการ Tablet OS ของแบล็กเบอรีเอง ใช้ RAM 1GB และซีพียู Dual Core Cortex-A9 ความเร็ว 1GHz ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายในเพื่อให้สามารถประมวลผลมัลติมีเดียอย่าง Full HD, เกมส์ 3มิติ และรองรับการใช้งานมัลติทาร์สกิงได้ นอกจากนี้เพลย์บุ๊กยังสนับสนุนการใช้งานโปรแกรม Flash Player 10.1 มีกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้องตัวหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ซึ่งจุดนี้ถือเป็นหมัดเด็ดที่ใช้โค่นพี่ใหญ่อย่างไอแพ็ดในนอนตายราบได้

ในที่นี้คู่ต่อสู้ที่ดูจะฟาดฟันกันมากที่สุดคงหนีไม่พ้น "กาแล็กซี แท็บ" ซึ่งได้เปรียบกว่าในเรื่องของแอปพลิเคชันที่มีนักวิเคราะห์ออกมาคาดการณ์ว่าในปี 2011 แอนดรอยด์จะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดสมาร์ทโฟน เนื่องจากเป็นระบบปฏิบัติการเปิด นอกจากนี้ยังมีในส่วนของหน่วยความจำซึ่งสามารถเพิ่มได้ด้วย microSD และการเชื่อมต่อบลูทูธ 3.0 ที่ PlayBook ไม่มีมาให้

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการวัดผลจากสเปกเบื้องต้นที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการใช้งานของ PlayBook ที่วิ่งขึ้นสังเวียนเป็นรายสุดท้าย ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดตัวทีหลังย่อมได้เปรียบเสมอ เมื่อเทียบกับไอแพ็ดที่จุดพลุสงครามนี้ก่อนใคร

ในส่วนของแบล็กเบอรี แม้ในขณะนี้จะเป็นแท็บเล็ตที่น่ากลัวมากที่สุด (เมื่อเทียบกับสเปกโดยรวม) แต่ปัญหาก็คือ ด้วยความที่ใช้ระบบปฏิบัติการน้องใหม่ เลยทำให้ผู้ใช้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแอปพลิเคชันที่จะมีออกมารองรับ ในขณะที่ไอแพ็ด, กาแล็กซี แท็บ และสเตรกใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ แอนดรอยด์ที่มีแอปฯ ออกมารองรับระยะหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ยังมีในส่วนของการใช้งาน ที่ยังไม่มีผู้บริโภครายได้มีโอกาสได้สัมผัส และทดลองใช้งานจริง

อีกทั้งในเรื่องของราคาวางจำหน่าย, อายุการใช้งานของแบตเตอรีซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่ผู้บริโภคต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ แต่ริมกลับยังไม่ยอมออกมาปริปากบอก ระบุเพียงว่า PlayBook จะสามารถวางตลาดในสหรัฐฯช่วงต้นปีหน้า (2011) ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น เราคงจะได้คำตอบที่แท้จริงกัน

ที่มา manager

LG A510 โน๊ตบุ๊ค Full HD จอ 3 มิติ กว้าง 15.6 นิ้ว

LG A510 โน๊ตบุ๊ค Full HD จอ 3 มิติ กว้าง 15.6 นิ้ว แอลจี เปิดตัว LG A510 คอมพิวเตอร์เตอร์โน๊ตบุ๊ค ระดับพรีเมี่ยม เครื่องแรกของโลกที่ผู้ใช้จะได้สัมผัสประสบการณ์สามมิติอย่างใกล้ชิด ผ่านจอแสดงผลแอลซีดี Full HD 3D LED พร้อมด้วยระบบเสียง SRS TruSurround HD เหมาะสำหรับการดูหนัง ฟังเพลง และ เล่นเกมส์ ยกระดับคอมพิวเตอร์พกพาให้เป็นความบันเทิงภายในบ้านที่สามารถพกพาไปกับคุณได้ทุกที่

LG A510 โน๊ตบุ๊ค Full HD จอ 3 มิติ กว้าง 15.6 นิ้ว
ที่มา siamphone

โซนี่พร้อมลุยตลาด 3D ในไทย

โซนี่พร้อมลุยตลาด 3D ในไทย ทีมผู้บริหารจากโซนี
โซนี่ เดินหน้าประกาศความเป็นผู้นำอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงแบบ 3 มิติเต็มรูปแบบ พร้อมปฏิวัติประสบการณ์การรับชมของผู้บริโภคแบบเสมือนจริง ด้วยความหลากหลายทางเทคโนโลยี ตั้งแต่การผลิตขั้นโปรดักชัน ไปจนถึงผลงานเอ็นเตอร์เทนเมนต์ผ่านคอนเทนท์หลากหลายรูปแบบของโซนี่ ผ่านงาน “Sony 3D World” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และภูมิภาคเอเซีย แปซิฟิกเช่น โดยมีการจัดแสดงแอลซีดีทีวี 3 มิติ ชุดโฮมเธียร์เตอร์ Blu-ray 3 มิติ เครื่องเล่นเกมส์ PlayStation 3 รวมถึงกล้องดิจิตอลที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี 3D

มร ฮารุฮิโตะ ทานิกาว่า ผู้อำนวยการด้านการตลาดผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ โซนี่ อิเลคทรอนิกส์ เอเซีย แปซิฟิก กล่าวว่า โซนี่เป็นผู้คิดค้นพัฒนาเทคโนโลยี 3D มาอย่างต่อเนื่อง และได้แสดงถึงศักยภาพความบันเทิงแห่ง 3D ได้อย่างยิ่งใหญ่ ในฐานะผู้สนับสนุนหลักฟีฟ่าเป็นทางการ โดยเฉพาะช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกเวิลด์คัป 2010 ที่ผ่านมา ซึ่งโซนี่ได้นำเสนอประสบการณ์ความบันเทิง 3D ตั้งแต่การถ่ายทำไปจนถึงถ่ายทอดการแข่งขันในระบบ 3 มิติ รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ชมทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์ 3D จาก ทีวี แอลซีดี บราเวีย 3 มิติ ผ่านช่องทางหน้าร้านจำนวนกว่า 4,150 จุดทั่วทุกมุมโลก

"เราจะเน้นการทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ Sony 3D World ผ่านแนวคิด “3D Lens to the Living Room” หรือ “จากเลนส์ 3 มิติสู่ประสบการณ์ความบันเทิงในบ้านแบบสมจริง” ซึ่งช่วยตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำของ โซนี่ที่มีความพร้อมสรรพทุกด้านในการนำเสนอโซลูชั่นแบบ 3 มิติที่สมบูรณ์แบบในทุกขั้นตอน ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และคอนเทนท์ ผลิตภัณฑ์รองรับความต้องการการใช้งานได้ตั้งแต่ขั้นตอนโปรดักชั่น การถ่ายทำ การตัดต่อ ไปจนถึงการรับชมทั้งในโรงภาพยนตร์ จนถึงในห้องนั่งเล่นภายในบ้านของทุกคน”

มร. โทรุ ชิมิซึ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันกระแสเทคโนโลยี 3 มิติ หรือ 3D กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตลาดทีวี 3D ที่มีการเติบโตอย่างมากทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนของโรงภาพยนตร์ 3D ที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

"สำหรับเมืองไทยก็เริ่มตื่นตัวกับเทคโนโลยี 3D โดยตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมาโซนี่เริ่มเปิดโอกาสให้ผู้บริโภค และลูกค้าได้ทดลองสัมผัสความบันเทิงในรูปแบบ 3 มิติ ชมความบันเทิง 3D ในจุดต่าง ๆ ที่ โซนี่ได้นำทีวี 3D ไปติดตั้ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะในช่วงการแข่งขันฟุตบอลฟีฟ่าเวิลด์คัป ซึ่งได้รับเสียงตอบเป็นอย่างดี"

วันนี้โซนีจึงพร้อมมอบโซลูชั่นส์ความบันเทิงแบบ 3 มิติ ให้ผู้บริโภคถึงที่บ้านด้วยคอนเทนท์ที่หลากหลาย ทั้งภาพยนตร์ เกมส์ รวมถึงการสร้างสรรค์คอนเทนท์ 3 มิติง่าย ๆ ด้วยตนเอง พร้อมกันนี้ โซนี่ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ 3D มากมาย อาทิ แอลซีดี บราเวีย 3 มิติ พร้อมด้วยชุดโฮมเธียเตอร์ บลูเรย์ดิสก์เพลย์สเตชั่น 3 รวมทั้งกล้องไซเบอร์ช็อต และอัลฟ่า ที่รองรับเทคโนโลยี 3 มิติด้วยฟังก์ชั่น 3D Sweep Panorama

"นอกเหนือไปจากงาน “Sony 3D World” ที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์บันเทิง 3 มิติแล้ว โซนี่ยังเน้นการทำตลาดทั้งในส่วนออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อนำเสนอไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภค อาทิ สื่อโฆษณาที่ครอบคลุมทั้งทีวี สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อนอกบ้าน การตกแต่ง 3D Corner ในร้านค้ามากกว่า 50 ร้านค้าภายในปีนี้ และจะครอบคลุมทั่วประเทศภายในปีหน้า พร้อมด้วยแคมเปญ 3D World By Sony ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ ด้วยโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม 3D โดยเฉพาะ ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวจะช่วยสร้างการรับรู้ และเพิ่มความต้องการของตลาด 3D ให้เติบโตเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งสร้างความเข้มแข็งให้กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม 3D ของโซนี่เพิ่มขึ้นอีกด้วย" โทรุกล่าว

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

4 เกร็ดน่ารู้ในวันเกิดที่แท้จริงของกูเกิล

ใครที่เข้าสู่เว็บไซต์กูเกิล google.com ในวันที่ 27 กันยายนแล้วพบกับภาพเค้กฉลองวันครบรอบวันเกิดปีที่ 12 ของกูเกิล ขอให้รู้ว่านี่คือวิธีที่กูเกิลแสดงออกเพื่อแบ่งปันเค้กวันเกิดแก่ผู้ใช้กูเกิลหลายล้านคนทั่วโลก ต่อไปนี้คือ 3 เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับวันเกิดกูเกิลที่คุณอาจยังไม่รู้

1. 27 ก.ย. คือวันคล้ายวันเกิดที่แท้จริงของกูเกิล

ต้องยอมรับว่าประวัติการก่อตั้งของกูเกิลสร้างความสับสนไม่น้อยว่าวันเกิดของกูเกิลคือวันใดกันแน่ บางคนบอกว่าควรจะเป็นวันที่ 7 ก.ย. เพราะวันนี้ในปี 1998 เป็นวันที่กูเกิลจดทะเบียนบริษัท บางคนบอกว่าอาจจะเป็นวันที่ 15 ก.ย. เนื่องจากเป็นวันที่ชื่อ google.com ถูกจดทะเบียน แต่ในที่สุด กูเกิลก็บอกให้โลกรู้ว่าวันเกิดอย่างเป็นทางการที่บริษัทเลือกคือวันที่ 27 ก.ย. เพราะกูเกิลได้เฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดในวันนี้ติดต่อกันมาหลายปี แม้ว่าจะเคยเลือกฉลองในวันที่ 7 ก.ย. ในช่วง 2-3 ปีแรกก็ตาม

อย่างที่ทุกคนรู้กันดี กูเกิลก่อตั้งโดย แลร์รี เพจ และ เซอร์เกย์ บริน ขณะที่ทั้งคู่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โรงจอดรถของเพื่อนในเมืองเมนโลพาร์กถูกนำมาดัดแปลงเป็นสำนักงานชั่วคราวของพนักงาน 4 คน (รวมบรินและเพจแล้ว) จากนั้นทั้งคู่ตัดสินใจพักการเรียนและเดินหน้าหาระดมทุนจากครอบครัว เพื่อนฝูง และนักลงทุนเป็นจำนวนเงินกว่า 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ บริหารบริษัทให้เติบใหญ่จนกระทั่งเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก เมื่อ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2004 เพิ่มมูลค่าของบริษัทเป็น 1.67 พันล้านเหรียญสหรัฐในเวลาเพียง 6 ปี

สำหรับชื่อ Google ยังไม่มีที่มาชัดเจน โดยในวิกิพีเดียระบุว่า อาจจะมาจากคำว่า "googol" ซึ่งหมายถึงจำนวนทางคณิตศาสตร์ที่หมายถึงเลข 1 แล้วตามด้วยเลข 0 อีกหนึ่งร้อยตัว หรือ 10100 เพื่อเป็นการแสดงถึงเป้าหมายของบริษัทที่จะจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาล อีกกระแสหนึ่งบอกว่าชื่อ Google มาจากความผิดพลาดในการจดโดเมนเนมในช่วงก่อตั้ง

2. ภาพเค้กสุดคลาสสิกเป็นของศิลปินวัย 89 ปี

สัญลักษณ์ประจำเว็บไซต์หรือ Google Doogle ในวันที่ 27 กันยายน 2553 รูปเค้กคลาสสิคสไตล์ ‘Pop Art’ นั้นเป็นฝีมือของ Wayne Thiebaud คุณปู่ศิลปินวัย 89 ปีจากลอสแองเจลิส โดยกูเกิลได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ภาพจากสมาคม Visual Artists and Gallery Association (VAGA) แห่งนิวยอร์ก ให้สามารถใช้ภาพของคุณปู่ Wayne เป็นสัญลักษณ์หรือโลโก้กูเกิลในวันนี้ได้

ปู่ Wayne เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงมากในช่วงการแห่งการเคลื่อนไหวด้านศิลปะสไตล์ Pop Art ในสหรัฐฯ ภาพวาดสร้างชื่อของคุณปู่ได้แก่ภาพเค้ก ภาพของเล่น ภาพลิปสติก และอีกนานาสิ่งของที่แสดงให้เห็นถึงกลิ่นอายของวัฒนธรรม Pop Art ทำให้แม้สัญลํกษณ์ฉลองวันเกิดของกูเกิลในปีนี้จะไม่มีลูกเล่นอินเทอร์แอคทีฟอย่างปีก่อน แต่ก็ถือเป็นคุณค่าทางศิลปะที่หาชมได้ยาก

3. Doodle เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1998

ต้องยอมรับว่า Google Doodle คือสิ่งที่ทำให้ชาวออนไลน์รู้ทันทีว่าวันที่ 27 ก.ย. คือวันเกิดกูเกิล ดังนั้นประวัติการเกิดขึ้นของ Google Doodle ซึ่งเป็นวิธีการสื่อสารเรื่องวันสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพบนเว็บไซต์กูเกิลจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

ประวัติศาสตร์ของ Google Doodle เริ่มในปี 1998 ซึ่งเป็นปีที่ผู้ก่อตั้งกูเกิลอย่างแลร์รี่และเซอร์เกย์ทดลองเล่นกับดีไซน์สัญลักษณ์กูเกิลในช่วงทดสอบเว็บ เพราะแรงบัลดาลใจจากงาน Burning Man festival เทศกาลศิลปะแบบสุดขั้วที่มีผู้ร่วมงานจำนวนมาก ภาพถูกเผยแพร่ในวันที่ 30 กันยายน 1998 จากนั้น 1 ปี Google Doodle ตัวจริงได้ฤกษ์เผยแพร่ต่อสาธารณชนในวัน Bastille Day โดยเป็นการออกแบบของเว็บมาสเตอร์ Dennis Hwang งานนี้ส้มหล่นใส่ Hwang เพราะนับจากนั้นเขาได้รับตำแหน่งเป็นประธานฝ่ายออกแบบ Doodle มาตลอด

ถึงวันนี้ กูเกิลได้ออกแบบ Doodle มากกว่า 300 ชิ้น แน่นอนว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มต่อไปตามเทศกาลสำคัญ ซึ่งมีแต่คนกูเกิลที่จะรู้ว่า Doodle ชิ้นต่อไปจะปรากฏตัวบนเว็บไซต์กูเกิลในวันใด

4. ฉลองด้วยไอเดียและบุญ

2 ปีก่อนกูเกิลฉลองครบรอบ 10 ปีด้วยการตั้งโครงการ Project 10^100 (อ่านว่า "10 to the 100th” หรือ 10 ยกกำลัง 100) จุดประสงค์คือต้องการแสวงหา 5 ความคิดเยี่ยมเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ โดยให้ผู้ใช้กูเกิลทั่วโลกร่วมกันเสนอสุดยอดแนวคิดเพื่อปรับปรุงคุณภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ และกูเกิลพร้อมให้เงินงบประมาณกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสานฝันสุดยอดไอเดีย 5 อันดับแรกให้เป็นความจริง ปีที่แล้วผ่านไปแบบไม่ได้ข้อสรุป มาปีนี้กูเกิลได้ฤกษ์ประกาศผล 5 สุดยอดไอเดียเปลี่ยนโลกจากทั้งหมด 150,000 ไอเดียอย่างเป็นทางการเสียที

รายแรกคือ สถาบัน Khan Academy ได้รับเงิน 2 ล้านเหรียญแก่โครงการบทเรียนออนไลน์ฟรี ประกอบด้วยวิดีโอ 1,800 ชิ้นซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และประวัติศาสตร์ รายที่ 2 คือ FIRST รับเงิน 3 ล้านเหรียญแก่โครงการจัดประกวดเพื่อเสริมสร้างความสนใจด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม โดยจะดึงวัยรุ่นมาประดิษฐ์หุ่นยนต์ และดึงเด็กมาร่วมแข่งขันประกอบตัวต่อเลโก้

รายที่ 3 คือกลุ่ม Public.Resource.Org ที่ได้รับเงินสนับสนุนไป 2 ล้านเหรียญแก่แนวคิดสร้างความโปร่งใสให้กับรัฐบาล ด้วยการเปิดทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลเอกสารภาครัฐฯโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันมีค่าบริการอยู่ที่ 8 เซนต์ต่อเอกสาร 1 แผ่น

รายที่ 4 คือบริษัท Shweeb ซึ่งได้รับเงินไป 1 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อโครงการนวัตกรรมขับขี่สาธารณะ โดยได้พัฒนายานที่มีลักษณะคล้ายรถราง monorail ที่มีระบบจักรยานให้ผู้ขับขี่ปั่นอยู่ภายใน และรายที่ 5 คือสถาบัน African Institute for Mathematical Sciences รับงบประมาณไป 2 ล้านเหรียญเพื่อการให้การศึกษาแก่เยาวชนในแอฟริกา จุดประสงค์หลักคือ AIMS ต้องการผลักดันให้นักศึกษาที่มีผลการเรียนดีได้รับโอกาสศึกษาคณิตศาสตร์ขั้นสูงขึ้น

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เคส iPad รูปแบบ Etch A Sketch จาก Headcase

เคส iPad รูปแบบ Etch A Sketch จาก Headcase Headcase จับความงามแบบคลาสสิค และความสนุกสนาน ของ Etch A Sketch อุปกรณ์วาดรูปลายเส้นโดยการควบคุมทิศทางวาดเส้นจากปุ่มสองปุ่มด้านล่าง มาในรูปแบบ case เพื่อการปกป้อง iPad โดยเฉพาะ ทำจากวัสดุพลาสติกที่มีความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทก รองพื้นภายในด้วยแผ่นยางให้สัมผัสนุ่มต่อ iPad ช่องสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกต่างๆ หรือปุ่มกด จัดวางในตำแหน่งที่พอดี และมีขนาดลงตัว พร้อมขาตั้ง วางจำหน่ายแล้วในราคา 1,199 บาท
ที่มา siamphone

ลือว่า HTC tablet Android 3.0 จะปรากฏตัวต้นปีหน้า


ลือว่า HTC tablet Android 3.0 จะปรากฏตัวต้นปีหน้า แม้ทาง HTC จะยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับรายละเอียดของ HTC tablet ระบบปฏิบัติการ Android ว่าจะออกมาในรูปแบบใด แต่ล่าสุดก็มีข่าวลือแจ้งว่าจะได้เห็นตัวจริงของ HTC tablet ในต้นปีหน้านี้ พร้อมทั้งเผยข้อมูลเบื้องต้นคร่าวๆ HTC tablet ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 3.0 Gingerbread ใช้หน่วยประมวลผล NVIDIA Tegra 2 หน้าจอสัมผัส ความละเอียด 1280 × 720 พิกเซล RAM 2GB, SSD 32 GB สนับสนุนการเชื่อมต่อ W-Fi, Bluetooth รองรับ GPS คาดว่าราคาเปิดตัวจะอยู่ที่ประมาณ 789.75 ดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา siamphone

ฟูจิตสึเผยโฉมดีไซน์ใหม่ LIFEBOOK SH530V

ฟูจิตสึเผยโฉมดีไซน์ใหม่ LIFEBOOK SH530V พบกับ Fujitsu LIFEBOOK SH530V โน้ตบุ๊คระดับพรีเมี่ยมในตระกูล S-Series ที่ดีไซน์เทรนด์ใหม่ ฝาพับแบบอลูมิเนียมที่แข็งแรงทนต่อแรงกดหรือแรงกระแทกพร้อมโลโก้ Infinity สไตล์ไดมอนด์คัท อัดแน่นด้วย Technology เต็มรูปแบบ คุ้มค่า ประสิทธิภาพเกินราคา ในเครื่องเดียว Fujitsu LIFEBOOK SH530V แรงด้วยซีพียูประสิทธิภาพสูง Intel Core i5-460M : 2.53GHz ที่มีเทคโนโลยี Intel Turbo Boost up to 2.8GHz ที่มาพร้อมการ์ดจอ ATI HD 5430 512MB ที่สนับสนุนมัลติมีเดียเต็มรูปแบบ รองรับ Direct X11 ภาพกราฟิค 3D และเสียงสมจริงเหนือใคร ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows7 แบบ 64 bit จอภาพขนาด 13.3” ชนิด HD Super Fine Backlit LED ความสว่างสูง 200nits ความละเอียด 1366 x 768 pixel พร้อมคีย์บอร์ดกันน้ำ และ Dual Layer DVD Super Multi Writer ใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 4.3 ชั่วโมง น้ำหนักเบาเพียง 1.99 kg. แรมขนาด 2 GB DDR3 สามารถเพิ่มแรมสูงสุดได้ถึง 8 GB ฮาร์ดดิสก์ขนาด 500 GB พอร์ตการใช้งานครบครับพร้อมด้วยพอร์ต HDMI และ e-SATA โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยเต็มรูปแบบ เช่น Bios lock, HDD lock และ Anti-theft lock เชื่อมต่อสมบูรณ์แบบ
ที่มา igadgety

iPad ขายดีจัด ส่งผลให้ LG ผลิตจอไม่ทัน

iPad ขายดีจัด ส่งผลให้ LG ผลิตจอไม่ทัน บริษัท LG ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตหน้าจอ IPS ขนาด 9.7 นิ้วให้กับ iPad นั้นได้บอกว่าพวกเขาผลิตหน้าจอได้ไม่ทันกับความต้องการของตลาดKwon Young-soo ซึ่งเป็นบอสใหญ่ของ LG ได้บอกว่า "Apple ได้ทำการสั่งหน้าจอมากขึ้นมากขึ้น เพราะว่าความต้องการของตัวสินค้า iPad นั้นสูงมาก แต่โชคร้ายที่เราผลิตไม่ทัน"นอกจากนี้ LG ยังได้บอกอีกว่าพวกเขานั้นได้ลงทุนจำนวน 512 ล้านดอลลาร์เพื่อเปิดโรงงานสำหรับผลิตหน้าจอขนาดเล็กสำหรับใช้กับอุปกรณ์ตัว ตระกูล i (iDevices) ของ Apple โดยเฉพาะปัญหาเรื่องจอภาพดูจะกลาย เป็นปัญหาหนักสำหรับวงการอุปกรณ์พกพาไปเสียแล้ว ซึ่งนอกจาก LG จะผลิตหน้าจอให้ iPad ไม่พอแล้ว บริษัทคู่แข่งร่วมสัญชาติอีกรายอย่าง Samsung ก็ยังผลิตจอ AMOLED ไม่ทันเหมือนกัน
ที่มา iSmashPhone ผ่าน Electronista

PlayStation ของ Sony กำลังประกาศหาวิศวกรด้าน Android


PlayStation ของ Sony กำลังประกาศหาวิศวกรด้าน Android เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่เราได้รู้ถึงข่าวลือว่า Sony เตรียมจะผลิต PlayStaion Phone ที่ใช้ Android 3.0 มาจนถึงวันนี้ข่าวลือดังกล่าวเริ่มเข้าเค้าความจริงมากขึ้น เพราะว่าแผนก PlayStation ของ Sony นั้นกำลังรับสมัครวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษทางด้านมือถือ โดยเฉพาะระบบ Android จะพิจารณาเป็นพิเศษ และต้องมีความรู้ด้านเกมออนไลน์อีกด้วย
ดูเหมือนว่า PlayStation Phone จะเริ่มเป็นจริงเสียแล้ว เร็วๆนี้เราอาจจะได้เห็นก็ได้
ที่มา : Phonemove

เรื่องไร้สาระ (แต่น่ารู้) ของ iPhone 4

เรื่องไร้สาระ (แต่น่ารู้) ของ iPhone 4 หลายครั้งที่เรื่องไร้สาระกลายเป็นเรื่องที่คนอยากรู้มากที่สุด ต่อไปนี้คือเรื่องเล่าที่หาสาระไม่ค่อยได้ของปรากฏการณ์ iPhone 4 ที่เกิดขึ้นในเมืองไทยช่วง 1 สัปดาห์ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งไม่แน่ว่าใครที่พลาดบทความนี้อาจจะ"เมาท์"กับเพื่อนไม่รู้เรื่องในวันรุ่งขึ้นก็ได้

****

ทุกคนเทคะแนนให้การเปิดตัวสมาร์ทโฟนยอดฮิตจากค่ายผลไม้อย่าง iPhone 4 (ซึ่งจะเกิดขึ้นในไม่กี่วันนับจากนี้) เป็นการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยที่น่าจับตามองที่สุด ตั้งแต่แอปเปิลเริ่มเข้ามาทำตลาดในไทย เพราะโอเปอเรเตอร์ทุกรายทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ ล้วนลงมาคลุกวงในนำเสนอไอโฟน 4 ให้กับผู้บริโภคบนเครือข่ายของตน

ผู้ที่เคลื่อนไหวคนแรกคือทรูมูฟซึ่งเป็นรายแรกที่ประเดิมทำตลาดไอโฟนในประเทศไทย โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถลงชื่อเพื่อรับข้อมูลการวางจำหน่ายของไอโฟน 4 ผ่านทรูช็อปตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อน จากนั้นเมื่อวันพุธ (15ก.ย.) ที่ผ่านมาทรูมูฟก็ติดประกาศป้ายโฆษณาเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของไอโฟน 4 ภายในช็อปว่า "iPhone4 Midnight Launch, Thursday 23 from 10.00pm @ Royal Paragon Hall, Siam Paragon"

แต่ปรากฏว่าวันต่อมา ป้ายดังกล่าวก็ถูกถอนออกไปจากช็อปทรูมูฟ

ความน่ารู้อยู่ตรงนี้ เพราะมีข่าวลือลอยมาตามสายลมว่าเหตุที่ทรูมูฟต้องถอนป้ายโฆษณาดังกล่าวออก เป็นเพราะได้รับคำเตือนจากแอปเปิล ส่งผลให้ต้องเสียค่าปรับเป็นการใหญ่ เนื่องจากทรูมูฟทำผิดสัญญาที่ทำร่วมกันไว้กับแอปเปิลเกี่ยวกับข้อตกลงในการให้ข้อมูลการเปิดตัวไอโฟน 4 ในเมืองไทย

กระทั่ง 17 กันยายน 53 ทรูมูฟร่อนจดหมายเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมงานแถลงข่าวกลุ่มย่อย/พบปะพูดคุยเรื่อง "ศักยภาพเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงของทรูมูฟ พร้อมรองรับสุดยอดสมาร์ทโฟน iPhone 4...แล้วจะรู้ว่าทำไมต้องทรูมูฟ" สุดท้ายก็ต้องยกเลิกไปโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นเหตุผลเดียวกับที่กล่าวไปเบื้องต้น

****

ค่ายใบพัดสีฟ้าอย่างดีแทคก็มีเรื่องน่าเมาท์ เพราะการหวั่นค่าปรับหรือไม่ก็ไม่ทราบได้ทำให้ดีแทคมีเพียงส่งข่าวประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่สนใจลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของวันที่ 16-17 กันยายน เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิเป็นเจ้าของไอโฟน 4 ก่อนใคร ข่าวลือลอยลมแว่วมาว่า iPhone 4 By Dtac นั้นมียอดจองครบจำนวนที่ดีแทคตั้งไว้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่ 16 กันยายน 53

โอโห ขายดีเหมือนแจกฟรี

หลังจากนั้น 17 กันยายน 53 ดีแทคจึงส่งจดหมายเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมงานแถลงข่าว “เปิดตัว iPhone 4 จากดีแทค” ในวันพุธที่ 22 กันยายน 2553 กระทั่งในวันที่ 20 กันยายน คอลล์เซ็นเตอร์ดีแทคได้โทรแจ้งสิทธิไปยังลูกค้าว่าสามารถซื้อไอโฟน 4 ล็อตแรก ในงานเปิดตัวที่ตึกจามจุรีสแควร์ ตั้งแต่วันที่ 24 - 26 กันยานี้ โดยกำหนดเป็น 3 ช่วงเวลา ช่วงละ 150 เครื่อง

ซึ่งเมื่อสอบถามไปถึงเรื่องราคาจำหน่าย ทางคอลล์เซ็นเตอร์ก็ยังปกปิดราคาเหมือนกลัวว่าจะมีใครแอบลอกข้อสอบ โดยให้ข้อมูลแค่ว่า "ราคาของเครื่องรุ่น 16GB อยู่ในช่วงเดียวกับกับราคาของ iPhone 3Gs ส่วนรุ่นความจุ 32GB อยู่ประมาณ 25,000 บาทขึ้นไป" เมื่อสอบถามถึงการจำหน่ายล็อตต่อไป ทางคอลล์เซ็นเตอร์ยังไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้

****

ปิดท้ายที่เอไอเอส หมากตัวสำคัญที่ทำให้เกมการแข่งขันนี้สนุกสนานขึ้น แม้ว่าจะค่อนข้างเสียเปรียบกว่ารายอื่น เนื่องจากเอไอเอสนั้นเพิ่งจะทำสัญญากับแอปเปิลเพื่อจำหน่ายไอโฟน 4 เป็นครั้งแรก ทำให้ต้องเดินเกมส์ล่าช้ากว่ารายอื่น ตามกฏระเบียบที่ค่ายผลไม้จอมเฮี้ยบวางไว้

ที่ผ่านมาเอไอเอสทำได้เพียงส่งจดหมายประชาสัมพันธ์ ใจความระบุว่า "บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กำลังจะ Launch ไอโฟน 4 สุดยอดสมาร์ทโฟนที่บาง และมีหน้าจอที่คมชัดที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมวางตลาดเร็วๆ นี้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.co.th สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับไอโฟน 4 ติดตามได้ที่www.apple.com/iphone"

จนเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ย.) ที่ผ่านมามีกระแสข่าวลือออกมาว่า เอสไอเอสนั้นเตรียมจะเปิดตัวไอโฟน 4 และรับเครื่องตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 23 ไปจนถึงวันที่ 26 กันยายน ที่สกาย ฮอลล์ เซ็นทรัลลาดพร้าว

ทันทีที่ได้ทราบข้อมูล ทางทีมงานได้ติดต่อไปยังประชาสัมพันธ์เอไอเอสเพื่อสอบถามข้อมูลในประเด็นดังกล่าว ได้คำตอบกลับมาว่า "ไม่ทราบว่าข้อมูลดังกล่าวมาจากที่ใด แต่ทางเอไอเอสยังไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน" ซึ่งคาดการณ์ว่าการปิดปากเงียบนี้ เป็นผลมาจากสัญญาที่เอไอเอสได้ทำไว้ร่วมกับแอปเปิล

****

ทั้งหมดนี้คือความเคลื่อนไหวของ 3 ค่ายผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย กับกระแสข่าวการเปิดตัวไอโฟน 4 ที่เหล่าสาวกรอคอย ซึ่งเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนหลายยี่ห้อ ก็ต้องยอมรับว่า "ทาสรักของแอปเปิล" นั้นมีอิทธิพลต่อตลาดอย่างมากเนื่องจากทุกครั้งที่ 3 ค่ายนี้เริ่มก้าวขาเดินหมาก ก็จะกลายเป็นประเด็นข่าว ที่ได้รับการจับตามองอย่างใจจดใจจ่อ

เหตุผลหนึ่งที่พอจะอธิบายได้ คือสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการปลุกกระแสการขายสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่ง ที่แต่ละค่ายมองว่าจะเป็นตัวแปรสำคัญในการผลักดันการใช้งานดาต้าในระบบให้สูงขึ้น โดยมีจำนวนผู้บริโภคเป็นเดิมพัน

เพราะเรื่องน่ารู้อีกเรื่องของ iPhone 4 คือ ข่าวลือเรื่องโอเปอเรเตอร์ยักษ์ใหญ่ของไทยทั้ง 3 รายกำลังถูกมัดด้วยข้อตกลงสุดโหดว่า "ใครกระจายของได้เร็วที่สุด ได้ของล็อตต่อไปมาขายเพิ่มแน่นอน"

อีกหน่อย ชาวไอทีอาจจะต้องเลืยนแบบวัยรุ่นไทย ที่มีคำอุทานติดปากว่า "พระเจ้าจอร์จ" แต่เปลี่ยนมาเป็น "พระเจ้าจ็อบส์" แทน.
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ลือแอปเปิลเล็งผุดแอปหนังสือพิมพ์-นิตยสารแบบแยกเดี่ยว


ลือแอปเปิลเล็งผุดแอปหนังสือพิมพ์-นิตยสารแบบแยกเดี่ยว ระบุว่าแอปเปิลกำลังอยู่ระหว่างการซุ่มสร้างร้านให้บริการดาวน์โหลดหนังสือพิมพ์และนิตยสารดิจิตอลเพื่อให้ชาวไอแพด (iPad) ได้ดาวน์โหลดแบบสะดวกสบาย เชื่อจะมีลักษณะเดียวกับร้าน iBooks ซึ่งแอปเปิลสร้างขึ้นเพื่อให้บริการดาวน์โหลดหนังสือเล่ม แต่จะแยกเดี่ยวออกมาเป็นแอปพลิเคชัน standalone ซึ่งไม่ติดกับแหล่งดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของแอปเปิลอย่าง App Store รวมถึงบริการหนังสือดิจิตอลที่แอปเปิลมีอยู่แล้วอย่าง iBooks

สำนักข่าว Bloomberg ระบุว่าโครงการนี้ของแอปเปิลกำลังอยู่ในช่วงการวางแผนเริ่มต้น โดยที่ผ่านมา แอปเปิลได้เปิดการเจรจากับสำนักพิมพ์รายใหญ่ของสหรัฐฯมาระยะหนึ่งแล้ว และยังดำเนินต่อไปในขณะนี้

จุดประสงค์ในการสร้างร้านดาวน์โหลดหนังสือพิมพ์และนิตยสารของแอปเปิลนั้นถูกมองว่าคือหนึ่งในกลยุทธ์ขยายอาณาจักรไอแพด เพราะคอนเทนต์น่าสนใจของนิตยสารและหนังสือพิมพ์จะทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับไอแพดมากขึ้น ขณะเดียวกัน ค่ายสำนักพิมพ์ก็จะสามารถขยายผลการสมัครสมาชิกได้มากขึ้น ซึ่งจะดีกว่าการให้บริการเป็นแอปพ่วงใน iBooks

นอกจากนี้ ร้านใหม่ของแอปเปิลยังมีส่วนช่วยให้ค่ายสำนักพิมพ์สามารถสร้างนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ฉบับดิจิตอลได้ง่ายขึ้นในงบประมาณไม่บานปลาย จุดนี้ Bloomberg นั้นให้รายละเอียดว่าในเบื้องต้น แอปเปิลนั้นตกลงให้สำนักพิมพ์สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกได้ด้วย (เฉพาะกลุ่มที่ยินยอม) ซึ่งจะทำให้สำนักพิมพ์สามารถแบ่งปันข้อมูลกับนักโฆษณาได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือค่ายสำนักพิมพ์จะพากันเทความสนใจให้กับร้านนี้มากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

รายงานย้ำว่า สื่อยักษ์ใหญ่ที่จะร่วมเป็นพันธมิตรกับแอปเปิลในขณะนี้ได้แก่ Time Warner Inc., Conde Nast, Hearst Corp. และ News Corp. โดยสนนราคาสมาชิกนั้นยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนในขณะนี้ ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดตัวบริการในไม่กี่เดือนข้างหน้า

Bloomberg นั้นโยงบริการนี้เข้ากับข่าวลือเรื่องการเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ซึ่งเชื่อกันว่าจะปรากฏสู่สายตาสาธารณชนในช่วงต้นปี 2011 โดยคาดว่าแอปเปิลจะเปิดตัวบริการนี้ในช่วงไล่เลี่ยกับการเปิดตัวไอแพดยุคหน้า ทั้งหมดนี้ต้องลุ้นกันต่อไปเพราะแอปเปิลนั้นมักทำอะไรให้ชาวโลกเซอร์ไพรส์กันอยู่เสมอ
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ของเล่นไฮเทค เฮลิคอปเตอร์ ควบคุมผ่านไอโฟน


ของเล่นไฮเทค...เฮนรี่ เซย์โดว์ ซีอีโอเฟรนซ์ ออโต อิเล็กทรอนิกส์ สาธิตการควบคุมเครื่องเล่นเฮลิคอปเตอร์แบบ 4 ใบพัด หรือ เออาร์โดรน ซึ่งควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่นไวไฟบนไอโฟน บินได้นาน 12 นาที จะวางขายในญี่ปุ่นภายในเดือนกันยายนนี้

กูเกิล อินสแตนท์...เซอเก บริน หนึ่งในผู้ก่อตั้งกูเกิล กำลังทดลองใช้งาน กูเกิล อินสแตนท์ บริการค้นหาข้อมูลที่รวดเร็ว แค่พิมพ์อักษรตัวแรกก็แสดงผลลัพธ์ทันที เปิดตัวเป็นครั้งแรกในซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย ช่วงแรกจะใช้ได้เฉพาะในพื้นที่สหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นจะขยายไปยังประเทศอื่นๆ
ที่มา เดลินิวส์

เปิดตัว โปรเจคเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด “เบนคิว เอ็มพี 780 เอสที

โปรเจคเตอร์รุ่นล่าสุด เบนคิว เปิดตัว โปรเจคเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด “เบนคิว เอ็มพี 780 เอสที” เป็นโปรเจคเตอร์ประเภทฉายภาพระยะสั้น ทำให้ได้ ภาพขนาด 81 นิ้วที่ระยะฉายเพียง 1 เมตร รองรับการฉายภาพผ่านระบบแลนด้วยโน้ตบุ๊กที่ต่อเชื่อมพร้อมกันสูงสุด 8 เครื่อง

นวัตกรรมใหม่ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท โรแลนด์ รุ่น เวอร์ซ่า ซีเอเอ็มเอ็ม วีเอส-640 (Versa CAMM VS-640) เป็นนวัตกรรมใหม่สามารถปริ้นต์สีเงิน และพิมพ์ได้ถึง 512 สี มีฟังก์ชันเลือกชุดหมึกที่ต้องการ และถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โนเกียเวิลด์ โทรศัพท์มือถือ อี 7 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของโนเกีย เปิด ตัวในงานโนเกียเวิลด์ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้ผลิตมือถือเบอร์หนึ่งของโลกกำลังพยายามปรับปรุงองค์กรทั้งการบริหารและการจัดการ เพื่อพยายามชิงตลาดคืนจากไอโฟนและแบล็คเบอร์รี่

เอ็นเอ็กซ์100 ซัมซุง เอ็นเอ็กซ์ 100 (NX 100) กล้องถ่ายภาพดิจิทัลคอมแพคแบบเปลี่ยนเลนส์ได้เลนส์แบบ ไอ-ฟังก์ชัน (i-Function) รุ่นแรกของโลก จออะโมเลต ขนาด 3 นิ้ว สามารถบันทึกเสียงในขณะ ถ่ายภาพ
ที่มา เดลินิวส์

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น...จากซัมซุง

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น...ซัมซุง สาธิตการทำงานของนาวิบ็อต หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ภายในงาน IFA 2010 กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี มีชิปสั่งงานสองส่วนทำให้เห็นและจำตำแหน่งสิ่งของและจุดชาร์ตไฟได้เอง ติดตั้งกล้องไว้ภายในสามารถสร้างแผนผังและกำหนดตำแหน่งวางเฟอร์นิเจอร์ มีเซ็นเซอร์ติดไว้รอบตัวเครื่องถึง 38 จุด เลือกระบบการทำงานได้ถึง 5 แบบ

อี-รีดเดอร์...เครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-รีดเดอร์ของโซนี่ รุ่น ทัช อิดิทชั่น จอระบบสัมผัส คม ชัดและใช้งานง่าย จอขนาด 6 นิ้ว เทคโนโลยีหมึกแบบอี-อิงค์ ทำให้ตัวหนังสือคมชัดและไม่รบกวนสายตา น้ำหนัก 215 กรัม บรรจุเนื้อหาได้มากถึง 1,200 เล่ม โชว์ตัวในงาน IFA 2010 กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี

ที่มา เดลินิวส์

ผู้พัฒนาเกมส์ Mortal Kombat ได้สัมผัส PSP2 ก่อนใครเพื่อน


ผู้พัฒนาเกมส์ Mortal Kombat ได้สัมผัส PSP2 ก่อนใครเพื่อน บริษัท Netherrealm ผู้พัฒนาเกมส์ Mortal Kombat เวอร์ชันรีเมกได้ออกมาสร้างกระแสให้แฟนเครื่องเกมส์พกพา PlayStation Portable ได้ตื่นเต้นกันอีกครั้ง หลังจากออกโรงยืนยันว่าทางทีมงานได้มีโอกาสทดลองเกมส์ของตัวเองกับเครื่อง PSP2 ตัวใหม่แล้ว

ทางด้านของ Shaun Himmerick โปรดิวเซอร์ระดับสูงของ Netherrealm ยอมรับว่าทีมงานของเขาได้ตัวเครื่อง PSP2 รุ่นโปรโตไทป์มาไว้ในครอบครองแล้วและมันก็ “เป็นเครื่องเล่นเกมส์พกพาที่ทรงพลังสุดๆด้วยระดับเฟรมเรตสูงถึง 60FPS ทีเดียว”

โดยก่อนหน้านี้ทาง Sony การันตีเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าทางบริษัทจะยังไม่เริ่มพัฒนา PSP2 ในอนาคตอันใกล้นี้ แต่มาในระยะหลังนี้เองที่ข่าวลือของเครื่องเล่นเกมส์พกพาตัวใหม่จาก Sony เริ่มหนาหูขึ้น ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการที่ยอดขายเกมส์ของ PSP ถูกเครื่อง NDS ของ Nintendo และ iPhone/iPod จาก Apple เข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาดไปหมด

ยังไม่นับรวมกับการที่เครื่องเล่นเกมส์ 3 มิติ 3DS เตรียมที่จะเปิดตัวในปลายปีนี้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ความนิยมของเครื่อง PSP ที่ยังคงพึ่งพาแผ่น UMD ที่อ่านข้อมูลได้ช้าและมีราคาแพงยิ่งตกลงไปอีก

ที่มา: electronista,TechXcite

HTC เปิดตัว Android ตระกูล Desire สองรุ่น

HTC เปิดตัว Android ตระกูล Desire สองรุ่น HTC เผยโฉมสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ซีรี่ย์ Desire สองรุ่นพร้อมกัน ได้แก่ Desire HD และ Desire Z โดยใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 2.2 Froyo ทั้งสองรุ่น บันทึกวีดีโอความละเอียดระดับ HD รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11n, HSPA+ พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ในการใช้งาน HTC Sense รูปแบบใหม่ และบริการออนไลน์ HTCsense.com

HTC Desire HD มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 4.3 นิ้ว วัสดุตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียม ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ หน่วยประมวลผล Qualcomm 8255 Snapdragon ความเร็ว 1GHz กล้องถ่ายรูปความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED สองดวง บันทึกวีดีโอคุณภาพระดับความละเอียด 720p ระบบเสียง Dolby Mobile สนับสนุนการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11n, HSPA+
HTC Desire Z สมาร์ทโฟนพร้อมแป้นพิมพ์แบบ QWERTY ให้กดพิมพ์ข้อความสะดวก พร้อมปุ่มทางลัดเปิดแอปพิเคชั่นโปรดได้อย่างรวดเร็ว จอแสดงผลระบบสัมผัส 3.7 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm MSM7230 ความเร็ว 800MHz กล้องถ่ายรูปความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช บันทึกวีดีโอความละเอียด HD สนับสนุนการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11n, HSPA+
HTC Desire HD และ HTC Desire Z จะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรป และเอเชีย เดือนตุลาคมนี้
HTC เปิดตัว Android ตระกูล Desire สองรุ่น
ที่มา siamphone

“Nokia” เปิดตัว 4 สมาร์ทโฟนขายปลายปีนี้

“Nokia” เปิดตัว 4 สมาร์ทโฟนขายปลายปีนี้ วันนี้โนเกียไม่ทำให้ใครผิดหวัง ด้วยการเปิดตัว 3 รุ่นใหม่ “N8,C6,C7 และ E7″ ในงาน “Nokia World 2010″ ที่จัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน โดยแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติเด่นดังนี้ครับ

Nokia N8-00

คิดว่าคงเห็นกันจนเบื่อแล้วสำหรับรุ่นนี้ “N8-00″ เป็นมือถือทัชสกรีนรุ่นท็อปในตระกูล N-Series จุดเด่นอยู่ที่กล้องความละเอียด 12 ล้านพิคเซลพร้อมแฟลชซีนอน, บอดี้อลูมิเนียมชิ้นเดียว (Unibody) และหน้าจอ AMOLED ClearBlack 3.5 นิ้ว มีให้เลือกหลายสีครับ คาดว่าจะขายในไทยช่วงปลายเดือนนี้ในราคาราวๆ 17000-18000 บาท
Nokia C6-01

หากคุณไม่มีงบพอที่จะซื้อ N8-00 หรือ C7-00 รุ่นนี้ก็น่าจะเหมาะกับคุณครับ “C6-01″ มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ClearBlack 3.2 นิ้ว, ระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยน^3, กล้อง 8 ล้านพิคเซล-บันทึกวิดิโอ HD720p คาดว่าราคาน่าจะอยู่ราวๆ 12000 บาทครับ

Nokia C7-00

สำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนบางเฉียบ “C7-00″ ไม่ทำให้คุณผิดหวัง ด้วยความบางเพียง 10.5 มิลลิเมตร, บลูทูธ 3.0, กล้อง 8 ล้านพิคเซล พร้อมอัดวิดิโอ HD720p รุ่นนี้น่าจะเคยเห็นกันบ้างแล้ว เพราะมีหลุดภาพออกมาก่อนหน้านี้แล้วล่ะ
Nokia E7-00

ปิดท้ายด้วยสมาร์ทโฟนเรือธงประจำงานนี้ “E7-00″ ออกแบบมาเพื่อใช้งานในด้าน Business โดยเฉพาะ ด้วยหน้าจอ AMOLED ClearBlack 4.0 นิ้ว, บอดี้อลูมิเนียมสวยงาม, รองรับระบบมัลติทัช, คีย์บอร์ด QWERTY สไลด์ข้าง และกล้อง 8MP+AF อัดวิดิโอ HD720p ได้เลย ราคาน่าจะแพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

สำหรับหน้าจอแบบใหม่ “Nokia ClearBlack Display” แม้จะยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคออกมา แต่แน่นอนว่ามันเป็นจอ AMOLED ที่โนเกียพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติมอีกที ขอบอกว่าแจ่มเอาเรื่อง !! ชนกับ Retina Display ของไอโฟนได้เลย
ที่มา i3

ซัมซุงลุยทีวีแอนดรอยด์


ซัมซุงลุยทีวีแอนดรอยด์ ซัมซุง (Samsung) ยักษ์ใหญ่กิมจิเปิดแผนลุยผลิตทีวีระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แย้มต้องการผลิตทีวีอัจฉริยะความละเอียดสูงเพื่อการออนไลน์ที่ง่ายและเสรียิ่งขึ้น ยังไม่ระบุเวลาเปิดตัวแต่คาดว่าจะอยู่ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับการเปิดตลาดทีวีแอนดรอยด์ของโซนี่และกูเกิลในชื่อ Google TV

Yoon Boo Keun ประธานฝ่ายทีวีของซัมซุงให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีใต้ว่า ซัมซุงมีแผนเสริมความแข็งแกร่งในตลาดทีวีความละเอียดสูงด้วยการนำระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิลมาติดตั้งในผลิตภัณฑ์ทีวีซัมซุง หลังจากที่ผ่านมา ซัมซุงเลือกใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเองในผลิตภัณฑ์ทีวีความละเอียดสูงมาตลอด โดยเฉพาะทีวีอินเทอร์เน็ตสามมิติซึ่งซัมซุงวางจำหน่ายมาระยะหนึ่งแล้ว

ความเคลื่อนไหวนี้ไม่น่าแปลกใจ เนื่องจากผู้ผลิตทีวีออนไลน์อย่างซัมซุงจะต้องหาทางพัฒนาเพื่อสร้างจุดขายในตลาดทีวีอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า ตลาดทีวีอินเทอร์เน็ตนั้นจะขยายตัวเต็มที่ในปี 2012 คาดว่าทีวีออนไลน์จะมียอดจำหน่าย 87.6 ล้านเครื่องในปี 2013 คิดเป็นสัดส่วนสูงกว่าปัจจุบันราว 6 เท่าตัว

การติดระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ลงในทีวีนั้นจะทำให้ผู้ให้บริการคอนเทนต์สามารถนำเสนอคอนเทนต์ทั้งภาพยนตร์ รายการทีวี รวมถึงแอปพลิเคชันสู่คอหนังได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา แอนดรอยด์ถือเป็นระบบปฏิบัติการคู่บุญของซัมซุงอยู่แล้ว โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนซัมซุงที่ใช้แอนดรอยด์อย่าง Galaxy นั้นขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

สำหรับกรณีของทีวี ทีวีออนไลน์รุ่นล่าสุดของซัมซุงนั้นวางจำหน่ายพร้อมชุดแอปพลิเคชัน Samsung Apps ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถชมภาพยนตร์จากยูทูบ รับและส่งข้อความทวิตเตอร์ และสามารถโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตโดยใช้บริการ Skype ได้ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและออกแบบทีวีบางเฉียบของซัมซุง โดยปัจจุบันซัมซุงมีส่วนแบ่งตลาดทีวีออนไลน์ในสหรัฐฯ ราว 19.7%
แม้ซัมซุงจะไม่เปิดเผยรายละเอียดแผนสร้างทีวีแอนดรอยด์เพิ่มเติม แต่เชื่อกันว่าผู้ใช้จะไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมใดๆก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและใช้บริการออนไลน์ได้สะดวกและง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม ทีวีแอนดรอยด์ยังมีจุดอ่อนใหญ่ที่สำคัญ นั่นคือกูเกิล (Google) ผู้พัฒนาแอนดรอยด์นั้นยังไม่ได้มีการทำข้อตกลงกับบริษัทสื่อผู้ผลิตคอนเทนท์อย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดที่ทำให้ทีวีแอนดรอยด์ด้อยกว่าคู่แข่งก็ได้
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ยูทูบทดลองถ่ายทอดสด


ยูทูบทดลองถ่ายทอดสด เว็บไซต์วิดีโอออนไลน์ยอดนิยมของกูเกิลอย่างยูทูบ (YouTube) ประกาศทดสอบบริการ Webcasts เพื่อถ่ายทอดสดโดยใช้เทคโนโลยีของตัวเองเป็นเวลา 2 วันก่อนเปิดให้ใช้งานจริง เอาใจผู้ใช้ที่มีอยู่มากกว่า 143 ล้านยูนีคไอพีให้สามารถรับความบันเทิงได้เต็มที่ยิ่งขึ้น

Webcasts นั้นมีลักษณะบริการคล้ายกับเว็บไซต์ทีวี เป็นการส่งข้อมูลวิดีโอในรูปแพ็คเก็จข้อมูลขนาดเล็กอย่างต่อเนื่องเพื่อไปแสดงผลที่ปลายทาง ความพิเศษคือ Webcasts จะสามารถแสดงผลไปขณะที่ข้อมูลถูกส่งไปด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นการถ่ายทอดสดที่สามารถนำมาใช้ในการสร้างช่องทีวีผ่านหน้าเว็บไซต์ ในช่วงทดสอบ ยูทูบจะถ่ายทอดรายการจาก Young Hollywood, Next New Networks, Howcast และ Rocketboom ของสหรัฐฯ โดยจะนำผลการทดสอบไปวิเคราะห์เพื่อหาทางขยายบริการถ่ายทอดสดในวงกว้างต่อไป

นักลงทุนตอบรับความเคลื่อนไหวนี้ของยูทูบในแง่บวก ส่งให้มูลค่าหุ้นของกูเกิลเพิ่มขึ้นอีก 1.3% เป็น 482.27 เหรียญสหรัฐ
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ฟูจิตสึ(Fujitsu Laboratories)พร้อมออกที่ชาร์จไร้สายปี 2012

ฟูจิตสึ(Fujitsu Laboratories)พร้อมออกที่ชาร์จไร้สายปี 2012 ใครที่เบื่อกับความยุ่งยากในการพกสายชาร์จโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์พกพาดีใจได้แล้ว เพราะศูนย์วิจัยฟูจิตสึ (Fujitsu Laboratories) หน่วยงานศึกษาวิจัยของผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สัญชาติญี่ปุ่นประกาศว่าจะพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายภายในปี 2012 โดยพัฒนาในรูปแท่นชาร์จรับส่งพลังงานขนาดกระทัดรัด ซึ่งไม่เพียงแค่โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก แต่ฟูจิตสึเตรียมพัฒนาไปใช้กับอุปกรณ์ขนาดใหญ่เช่นในรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

ความลับของแท่นชาร์จพลังงานไร้สายนี้คือการใช้สนามแม่เหล็กในการส่งถ่ายพลังงานจากระยะไกล แทนที่จะใช้การเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าในการชาร์จปกติ โดยจะใช้ขดลวดและส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่าตัวเก็บประจุ เพื่อสร้างสนามแม่เหล็กซึ่งจะสะท้อนพลังงานระหว่างตัวสร้างพลังงานต้นทางและอุปกรณ์รับพลังงานปลายทาง วิธีการนี้ฟูจิตสึระบุว่าสามารถลดเวลาในการออกแบบระบบและเพิ่มความเสถียรในการรับส่งพลังงานได้มาก ทำให้การถ่ายโอนพลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม 85%

ศูนย์วิจัยฟูจิตสึนำเสนอรายละเอียดของเทคโนโลยีนี้ในงานประชุมสถาบันวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์สารสนเทศและการสื่อสาร Institute of Electronics, Information, and Communication Engineers (IEICE 2010) ที่มหาวิทยาลัยโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น คาดว่าจะมีรายละเอียดตามมาอีกในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เดลล์ผุด"แท็บเล็ตเน็ตบุ๊ก" 2 อย่างในร่างเดียว

เดลล์ผุด"แท็บเล็ตเน็ตบุ๊ก" 2 อย่างในร่างเดียว เดลล์ใช้เวที Intel Developer Forum โชว์ตัวคอมพิวเตอร์พกพาขนาด 10 นิ้วที่สามารถ"พลิกหน้าจอ"เพื่อแปลงร่างไปมาระหว่างคอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊กและแท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสได้ตามต้องการ ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลคุณสมบัติที่ครบถ้วนในขณะนี้ มีเพียงชื่อรุ่น Inspiron Duo เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นคอมพิวเตอร์ลูกผสม 2 สายพันธุ์

ผู้บริหารเดลล์ที่เปิดตัวต้นแบบคอมพิวเตอร์พลิกหน้าจอได้ Inspiron Duo นี้คือ Dave Zavelson ขึ้นเวทีร่วมให้ข้อมูลพร้อมกับ Doug Davis ผู้บริหารอินเทล โดยก่อนหน้านี้ ข่าวลือว่าเดลล์กำลังซุ่มพัฒนาคอมพิวเตอร์ลูกผสมเน็ตบุ๊กแท็บเล็ตนั้นแพร่สะพัดทั่วโลกออนไลน์มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งร่ำลือกันว่าอาจจะใช้ชื่อโค้ดเนมว่า Sparta

ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า Inspiron Duo จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 7 Home Premium ขุมพลังชิปอินเทลอะตอมดูอัลคอร์ N550 ผู้ใช้สามารถเปิดฝาพับเครื่องแล้วใช้งานคีย์บอร์ดในรูปคอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊กปกติ หรืออาจพลิกกลับด้านหน้าจอเพื่อใช้งานในรูปแท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสก็ได้ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ต่างกัน

แท็บเล็ตนั้นได้รับการยกย่องว่าเหมาะสมกับการใช้งานเพื่อการท่องอินเทอร์เน็ต Inspiron Duo ในรูปแท็บเล็ตจึงถูกนำมาสาธิตการเรียกชมภาพถ่ายในเฟสบุ๊ก (Facebook) ว่าสามารถทำงานได้สะดวกสบายเพียงไร นอกจากนี้ยังสามารถเป็นเครื่องเล่นมัลติมีเดีย ผู้ใช้สามารถฟังวิทยุออนไลน์ รวมถึงเล่นเกมออนไลน์ได้ดี แต่ขณะเดียวกัน Inspiron Duo ก็สามารถเป็นเครื่องมือในการทำงานได้ เพราะสามารถใช้งานคีย์บอร์ดในรูปเน็ตบุ๊ก ถือเป็นส่วนผสมลงตัวที่เดลล์เชื่อว่าจะถูกใจผู้บริโภค

ยังไม่มีรายละเอียดคุณสมบัติของเครื่อง ทั้งขนาดความหนาตัวเครื่อง หรือมีกล้องดิจิตอลหรือไม่ รวมถึงกำหนดการวางจำหน่ายในอนาคต

ขอบคุณภาพจากซีเน็ต
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

อุปกรณ์เสริมใช้งาน iPhone4 ได้นานขึ้น 2 เท่า ด้วย Juice Pack Air

อุปกรณ์เสริมใช้งาน iPhone4 ได้นานขึ้น 2 เท่า ด้วย Juice Pack Air Mophie แนะนำ Juice Pack Air เคสพร้อมแบตเตอรี่ในตัว สำหรับสมาร์ทโฟน iPhone4 ช่วยให้คุณใช้งานได้นานขึ้น 2 เท่า ออกแบบมาให้มีความบาง และน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ สามารถเชื่อมต่อ iPhone 4 กับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างปกติ โดยไม่จำเป็นต้องถอดเคสออก และมีหลอดไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน ราคาประมาณ 2,480 บาท
คุณสมบัติ Mophie Juice Pack Air

ขนาด 128.79 x 63.75 x 17.27 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 70.87 กรัม
แบตเตอรี่ 1500 mAh
เปิดรอรับสาย นานสูงสุด 270 ชั่วโมง
สนทนา นานสูงสุด 12 ชั่วโมง สำหรับเครือข่าย 2G (หรือ 6 ชั่วโมง สำหรับเครือข่าย 3G)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต นานสูงสุด 9 ชั่วโมง สำหรับเครือข่าย Wi-Fi (หรือ 5 ชั่วโมง สำหรับเครือข่าย 3G)
ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 9 ชั่วโมง (Video playback)
ฟังเพลงนานต่อเนื่อง 36 ชั่วโมง (Audio playback)
ที่มา Siamphone

แอนดรอยด์โฟน Huawei U8800 อวดโฉมในงาน IFA

แอนดรอยด์โฟน Huawei U8800 อวดโฉมในงาน IFA Huawei เผยโฉมสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Huawei U8800 ในงานแสดงสินค้าไอที IFA 2010 เน้นจอแสดงผลขนาดใหญ่ 3.8 นิ้ว ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล ระบบสัมผัส Capacitive รูปแบบการแสดงผล 3 มิติ รองรับเครือข่าย GSM Quad-band (EDGE/GPRS), WCDMA 900/2100 MHz} สนับสนุนเทคโนโลยีการรับ-ส่งข้อมูลความเร็วสูง HSPA+ 14 Mbps กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส และรองรับแอปพลิเคชั่น Google Maps, Google Search, Google Mail

ที่มา siamphone

กล้องถ่ายรูป 3D ของเล่นราคาถูก

กล้องถ่ายรูป 3D ของเล่นราคาถูก และแล้วเทคโนโลยีสามมิติ หรือ 3D ก็ได้ลามเข้าไปในตลาดของเล่นอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อหลายสิบปีก่อนมีของเล่นเป็นกล้องสองเลนส์สามารถมองภาพ 2 ภาพพร้อมกันทำให้เห็นเป็นภาพสามมิติได้ Takara Tomy จับกระแสความสนใจในเทคโนโลยีนี้ด้วยการพัฒนาของเล่นเป็นกล้องถ่ายรูป 3D ที่ภาพถ่ายสามารถมองเห็นเป็นสามมิติได้ เมื่อมองผ่านอุปกรณ์พิเศษที่ทำจากกระดาษ

3D Shot Cam เป็นกล้องถ่ายรูปสามมิติสำหรับเด็ก 12 ขวบขึ้นไป โดยหลักการก็คือ กล้องรุ่นนี้จะมาพร้อมกับเลนส์คู่ (อารมณ์ประมาณ FinePix REAL 3D W3 เวอร์ชันของเล่น) สามารถถ่ายภาพออกมาได้พร้อมกัน 2 มุมมอง หลังจากนั้นพิมพ์ภาพถ่ายออกมา เพื่อนำไปมองผ่านด้วย Viewer ภาพที่เห็นก็จะปรากฎเป็นสามมิติ สำหรับ Viewer จะทำจากกระดาษลักษณะคล้ายของเล่นสมัยก่อน

สังเกตว่า ภาพถ่ายที่พิมพ์ออกมาจากกล้อง 3D จะมีสองภาพที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกับช่องมองเห็นด้วย Viewer พอดี สำหรับ 3D Shot Cam จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ถ่ายภาพที่ความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล สล็อตใส่การ์ดหน่วยความจำ SD รองรับสูงสุด 8GB ขนาดของกล้องเล็กกะทัดรัด และมีน้ำหนักเบาแค่ 100 กรัมเท่านั้น ในชุดสินค้าจะมีวิวเวอร์ 3D ให้ 2 อัน (ดูแล้วถ้าหากมันเสียหายก็น่าจะทำเองใหม่ได้) 3D Shot Cam จะวางตลาดในญี่ปุ่นปลายปีนี้ สนนราคาอยู่ที่ 70 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,200 บาท ทางบริษัทคาดว่าจะขายได้ 50,000 ตัวในญี่ปุ่นภายในหนึ่งปี แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยถึงแผนการว่าจะวางตลาดไปทั่วโลกด้วย หรือไม่
ที่มา http://www.igadgety.com/?p=2821

เปิดตัว Google Instant “ไม่ทันพิมพ์เสร็จก็เห็นผลเสิร์ช”

เปิดตัว Google Instant “ไม่ทันพิมพ์เสร็จก็เห็นผลเสิร์ช” Google เปิดตัวบริการค้นหาหรือเสิร์ชข้อมูลออนไลน์ทันใจเพื่อช่วยผู้ใช้ประหยัดเวลา มาในชื่อ Google Instant ซึ่งจะแสดงผลการค้นหาขณะที่พิมพ์คีย์เวิร์ด เร็วกว่าเดิมที่ผลเสิร์ชจะแสดงหลังผู้ใช้พิมพ์คีย์เวิร์ดเสร็จแล้วและกดปุ่ม Enter หรือคลิกเมาส์เพื่อยืนยันการค้นหาเท่านั้น

Google Instant เปิดให้ใช้งานแล้วในสหรัฐฯเป็นที่แรก ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่ในประเทศอื่นๆ หลักการทำงานของ Google Instant คือการเสนอลิงก์ข้อมูลแบบคาดเดาว่าผู้ใช้จะค้นหาอะไรในแต่ละอักษรคีย์เวิร์ด ที่พิมพ์ลงไปในกล่องค้นหาของกูเกิล เช่น เมื่อผู้ใช้พิมพ์อักษร “w” กูเกิลจะแสดงผลเสิร์ชเกี่ยวกับพยากรณ์อากาศหรือ weather ทันที และที่พิเศษคือจะเป็นข้อมูลพยากรณ์อากาศตามท้องถิ่นที่เสิร์ชด้วย หากผู้ใช้ไม่ได้ต้องการผลเสิร์ชพยากรณ์อากาศ ก็ไม่ต้องคลิกลิงก์ใดๆ และสามารถพิมพ์อักษรเพิ่มต่อไปจนกระทั่งพบลิงก์ที่ต้องการ ถือเป็นความสามารถเพิ่มเติมจากการคาดเดาคีย์เวิร์ดขณะพิมพ์ที่กูเกิลเคยให้ บริการมาก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน หากผู้ใช้ต้องการค้นหาหนังสือยอดนิยมในสหรัฐฯอย่าง The Girl With The Dragon Tattoo เมื่อพิมพ์ถึงอักษร “the girl” กูเกิลก็สามารถแสดงผลเสิร์ชเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ออกมาได้แล้ว เนื่องจากเป็นการประมวลผลสืบค้นตามความนิยมของผู้ใช้กูเกิลในช่วงเวลานั้น

ทันทีที่ Google Instant เปิดตัว หลายคนหวนไปมอง Bing เสิร์ชเอนจิ้นของไมโครซอฟท์ว่าจะทำอย่างไร เพราะบริการ Google Instant นั้นทำให้ Bing ดูช้าลงขึ้นทันตา ซึ่งจุดนี้คาดว่าจะได้เห็นการเปิดตัวคุณสมบัติใหม่ใน Bing ต่อไป

การเปิด Google Instant ยังมีผลต่อบริษัทที่ลงโฆษณาออนไลน์กับกูเกิลด้วย โดยเชื่อว่าในอนาคต บริษัทโฆษณาจะจับตาบริการแนะนำผลสืบค้นแบบทันใจนี้ของกูเกิลมากขึ้น และอาจทำให้เกิดโมเดลแสดงโฆษณา”ขณะพิมพ์”เช่นกัน
ที่มา Manager

ASUS N53JN และ N73JN ครบเครื่องเรื่อง Multimedia

ASUS N53JN และ N73JN ครบเครื่องเรื่อง Multimedia สำหรับ ASUS ที่อังกฤษก็ได้ฤกษ์วางจำหน่ายสองพี่น้องตระกูล N กันแล้ว โดยตัวแรกนั้นจะได้แก่ ASUS N53JN ซึ่งจะมี Spec ที่ประกอบไปด้วย CPU จาก Intel Core i5-520M และ Core i3-370M ทางด้าน GPU นั้นจะเลือกใช้งานเป็น nVidia GeForce GT325 และรุ่น 415M ถัดมาจะเป็น RAM ขนาด 4GB แบบ DDR3, Hard Disk ขนาดa 320 และ 500GB, Blu-Ray combo drive, หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียดแบบ HD 1366×768 pixels และ Windows 7 Home Premium

อีกรุ่นจะได้แก่ ASUS N73JN ซึ่งเลือกใช้งาน CPU เป็น Intel Core i5-520M, GPU จาก nVidia GeForce GT325M, RAM ขนาด 4GB แบบ DDR3, Hard Disk ขนาด 640GB (2x320GB), Blu-Ray Combo Drive, หน้าจอขนาด 17.3″ ความละเอียดแบบ HD+ 1600×900 pixels และ Windows 7 Home Premium

นอกจากนี้ทั้งคู่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีอย่าง ASUS SonicMaster/ Bang & Olufsen ICEpower audio และ nVidia Optimus อีกด้วยครับ สำหรับราคาของ ASUS N53JN กับ N73JN นั้นจะอยู่ที่ £649.99 หรือประมาณ 26,000 บาทและ £1,099 หรือประมาณ 44,000 บาท ตามลำดับ
ที่มา notebook888

Samsung เปิดตัว Nori F มือถือฝาพับลูกเล่นไฟ LED

Samsung เปิดตัว Nori F มือถือฝาพับลูกเล่นไฟ LED Samsung ประกาศเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ Nori F (SHW-A200) รูปทรงฝาพับ สีสันสดใส วางจำหน่ายผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย SKT, LG U+ และ KT ในเกาหลีใต้
Samsung Nori F โดดเด่นด้วยลูกเล่นแสงไฟจากหลอด LED บริเวณด้านหน้าโทรศัพท์ที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมโดนใจตามสไตล์ของผู้ใช้ ได้ จอแสดงผลความละเอียด 240×400 พิกเซล กว้าง 2.8 นิ้ว รองรับเครือข่าย 3G, เทคโนโลยี T-DMB กล้องถ่ายรูปความละเอียด 3 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล การเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับการ์ดหน่วยความจำ MicroSD สูงสุด 16 GB แบตเตอรี่ขนาด 880 mAh ราคาจำหน่ายประมาณ 13,300 บาท
ที่มา Samsung

LG ชิงเปิดตัวสมาร์ทโฟน WP7 รุ่นแรก “Optimus 7″ ชูจุดขายแชร์ไฟล์ผ่าน DLNA

LG ชิงเปิดตัวสมาร์ทโฟน WP7 รุ่นแรก “Optimus 7″ ชูจุดขายแชร์ไฟล์ผ่าน DLNA
LG รุกหนักเปิดตัว “Optimus 7″ หรือ E900 กลางงาน IFA2010 ชูจุดเด่น “แชร์ทุกอย่างผ่าน WiFi” หรือ DLNA ผู้ใช้สามารถถ่ายโอนไฟล์มีเดียผ่าน WiFi กับอุปกรณ์ที่รองรับได้เลยจาก Gallery โดยตรง อย่างไรก็ดี คุณสมบัติเครื่อง-กำหนดวางขายยังไม่เผยในตอนนี้ แต่ที่แน่ๆ ขายก่อนสิ้นปีนี้ชัวร์ครับ ส่วนถ้าใครอยากเล่น เชิญไปที่งาน IFA2010 ที่กรุงเบอร์ลิน

นอกจาก “Optimus 7″ แล้ว ยังมีอีกหนึ่งรุ่นที่ออกมาพร้อมๆ กันคือ LG C900 แต่รุ่นนั้นขายผ่าน AT&T อย่างเดียว น่าสนใจครับ เพราะ LG ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า ขอลุย WP7 หมดหน้าตักกันเลยทีเดียว
ที่มา i3

Sharp ต้นแบบแท็บเล็ต 3D ไม่ใช้แว่นตา


Sharp ต้นแบบแท็บเล็ต 3D ไม่ใช้แว่นตา Sharp บริษัทผู้นำเทคโนโลยี 3D ทีไม่ต้องสวมใส่แว่นตาเวลารับชม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทีได้มีการเปิดตัวไปก่อนหน้านี้อย่าง Nintendo 3DS ทีใช้เทคโนโลยีของ Sharp ล่าสุดทางบริษัทได้ออกมาโชว์ต้นแบบอุปกรณ์ที่มีหน้าจอแสดงผล 3D ชนิดไม่ใช้แว่นตาทีสะท้อนให้เห็นแนวโน้มว่า แก็ดเจ็ตพกพาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต มือถือ หรือกล้องดิจิตอลจะเข้าสู่ยุค 3D แล้ว

สำหรับต้นแบบที่ทางบริษัทได้นำออกมาโชว์นั้นจะใช้เทคโนโลยีการแสดงผล 3D ที่เรียกว่า Parallex barrier ซึ่งปิดทับไปบนหน้าจอแสดงผล โดยผู้ใข้จะสามารถเห็นเอฟเฟกต์สามมิติได้ก็ต่อเมื่อมองห่างจากหน้าจอประมาณ 30 ซม. (ประมาณ 1 ฟุต) ดังนั้นเทคโนโลยีนี้นอกจากจะเหมาะกับเครื่องเล่นเกมส์พกพาแล้ว มันยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ที่มีหน้าจออย่างมือถือ และกล้องถ่ายรูปดิจิตอลได้อีกด้วย

และต้นแบบชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ ก็คือ แท็บเล็ตทีมีหน้าจอขนาด 7 นิ้ว สามารถแสดงผล 2D ที่ความละเอียด 800 x 400 และ 400×480 เมื่อแสดงผลแบบ 3D (ความละเอียดลดลงครึ่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นการซ้อนภาพ 2 ภาพ) ซึ่งต้นแบบที่นำออกมาโชว์ได้รับการกล่าวขวัญอย่างประทับใจว่า มันสามารถแสดงภาพเคลื่อนไหว 3D ได้อย่างน่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีต้นแบบอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับจอ 3D ขนาดเล็กกว่าประมาณ 3.5 นิ้ว ซึ่งเหมาะมากสำหรับมือถือ ผู้ทดสอบกล่าวว่า แม้จะมีบางครั้งที่เขามองดูจอในระยะที่ห่าง หรือใกล้เกินไป หรือลองเปลียนมุมมอง ภาพลวงตา 3D ที่เห็นจะมีการแตกเป็นสองภาพเหลื่อมกันเล็กน้อย แต่กระนั้นมันก็ยังให้คุณภาพของการรับชมภาพ 3D ที่ไม่ต้องใส่แว่นตาได้อย่างน่าประทับใจอยู่ดี Sharp กล่าวว่า ทางบริษัทกำลังมีแผนจะพัฒนาหน้าจอใหญ่ 9.7 นิ้ว เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดด้วย ซึ่งเป็นหน้าจอที่เท่ากับ iPad พอดี หรือว่า iPad รุ่นต่อไปจะใช้จอสามมิติ?
ที่มา Arip

มาแล้วมือถือแบบจอ 3 มิติ 3 Dเครื่องแรกของโลก

มาแล้วมือถือแบบจอ 3 มิติ 3 Dเครื่องแรกของโลก ได้ยินข่าวที่ตื่นเต้นมาหลายเดือนว่า “ชาร์ป” จะปฏิวัติวงการมือถืออีกครั้งด้วยการผลิตมือถือที่มีจอสัมผัสแบบ 3 มิติ (แบบไม่ต้องใส่แว่นดู) เป็นรายแรกของโลกภายในปีนี้
และยังไม่ทันก้าวขึ้นไตรมาสที่ 4 ชาร์ปก็รักษาสัญญาด้วยการโชว์ต้นแบบมือถือสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ที่มาพร้อม กับจอสัมผัสแบบ 3 มิติขนาด 3.7 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 พิกเซล (เหมือนที่ใช้กับเครื่องเล่นเกม นินเทนโด 3DS) และยังมีกล้องถ่ายภาพ 3 มิติที่ด้านหลังเครื่องอีกด้วย รวมทั้งช่อง HDMI สำหรับการโอนไฟล์วิดีโอ 3 มิติ จากมือถือมาดูบนจอบิ้กเบ้มของทีวี 3 มิติได้
ที่มา whatphone

Sonyไม่ยอมแพ้ เปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ๊ก 3G พร้อมจอสัมผัส

"Pocket Edition" เครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นล่าสุดจากโซนี ที่มีหน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว และใช้เทคโนโลยี eInk วางจำหน่ายในราคา179.99 เหรียญฯ หรือประมาณ 5,800 บาท
Sony ไม่ยอมแพ้ เปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ๊ก 3G พร้อมจอสัมผัส
Sony เปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นใหม่ล่าสุด ที่รองรับระบบ 3G มีตัวเครื่องบางลง และมีหน้าจอแบบสัมผัส หวังกระตุ้นยอดขายก่อนสิ้นปี

Steve Haber ประธานฝ่ายธุรกิจเครื่องอ่านดิจิตอล บริษัทโซนี กล่าวว่า โซนีได้มีการเปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นใหม่ล่าสุด 3 ตัวคือ Pocket Edition, Touch Editon และ Daily Edition โดยได้มีการปรับปรุงหน้าจอให้เป็นแบบทัชสกีน มีความคมชัดมากขึ้น และมีขนาดที่บางลง

สำหรับรุ่น Pocket Edition นั้นมีหน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว และใช้เทคโนโลยี e-Ink เหมือนกับ Kindle ของ Amazon โดยจะวางจำหน่ายในราคา 179.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 5,800 บาท

ในส่วนของ Touch Editon จะมีหน้าจอแบบสัมผัสขนาดกว้าง 6 นิ้ว และมีช่องใส่การ์ดความจำ วางจำหน่ายในราคา 229 เหรียญ หรือประมาณ 7,500 บาท และรุ่น Daily Edition ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น และรองรับการเชื่อมต่อ 3G ไวไฟ วางจำหน่ายในราคา 299 เหรียญ หรือประมาณ 9,900บาท

โดยเครื่องอ่านอีบุ๊กทั้ง 3 รุ่นนี้ใช้หน้าจอแสดงผลแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Peral e-Ink ซึ่งมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับไฟล์อีบุ๊กฟอร์แมต ePub และ PDF และมีช่องเอสดีการ์ด และเมมโมรีการ์ด

นักวิเคราะห์ระบุว่า โซนีนั้นเริ่มทำตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กมาตั้งแต่ปี 2006 แล้ว แต่ยังไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งอย่าง อะเมซอน คินเดิล ซึ่งเป็นผู้นำตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กในตอนนี้ได้ และถึงแม้ว่าโซนีจะพยายามอย่างหนักในการบุกตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊ก แต่ก็ไม่เคยออกมาลดราคาสินค้าอย่างที่ค่ายอะเมซอน และบอร์เดอร์ทำ โดย Haber ระบุว่า การประกาศลดราคาสินค้าไม่ใช่นโยบายของบริษัท เราเชื่อว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่ ต้องการสินค้าที่มีประสิทธิภาพการใช้งานสูงขึ้น แม้จะต้องเสียเงินเพิ่มอีกเล็กน้อยก็ตาม

"เทคโนโลยีในปัจจุบันส่งผลให้ผู้บริโภคมองหาอุปกรณ์ที่มีหน้าจอแบบสัมผัสมากยิ่งขึ้น ผู้บริโภครายหลายยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้น 100 เหรียญเพื่อแลกกับหน้าจอแบบสัมผัส"

สำหรับการเปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นล่าสุดนี้ โซนีเชื่อว่าจะเป็นการตอบสนองการใช้งานในทุกกลุ่มลูกค้า ซึ่งจุดนี้จะช่วยทำให้โซนีสามารถแข่งขันกับคู่ต่อสู้บนท้องตลาด อย่างคินเดิลจากอะเมซอน, Barnes & Noble และไอแพ็ดจากแอปเปิลได้

ล่าสุด โซนียังมีแผนจะเปิดแอปพลิเคชันอีบุ๊กบนไอโฟน และแอนดรอยด์โฟน ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านอีบุ๊กของโซนีได้จากสมาร์ทโฟนที่ตนมีอยู่
Company Related Link : Sony

Philips LED TV ใหม่ ซีรี่ส์ 6000 ดื่มด่ำไปกับความคมชัด

Philips LED TV ใหม่ ซีรี่ส์ 6000 ดื่มด่ำไปกับความคมชัด บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ขอแนะนำแอลอีดีทีวี 2 รุ่น ใหม่ ในขนาด 40 และ 46 นิ้ว ในรุ่น Philips LED TV 40PFL6605 และ46PFL6605 ใหม่ ที่มาพร้อมกับจอภาพเทคโนโลยี LED backlighting สร้างภาพทั้งจอด้วยแอลอีดีแบบ direct และสุดยอดเทคโนโลยี Pixel Precise HD ให้ความคมชัดของภาพระดับ High Definition ทำให้คุณภาพของภาพจากแอลซีดี ทีวีฟิลิปส์ สมบูรณ์สูงสุดในท้องตลาดปัจจุบัน

เทคโนโลยี Direct LED Backlighting คือหลอด LED จะถูกติดตั้งไว้เต็มแผงจอ ซึ่งสามารถทำ Local Dimming ได้อย่างเป็นอิสระ เช่น ฉากหนังด้านซ้ายเป็นสีดำ ด้านขวาเป็นสีขาว เทคโนโลยี Direct LED Backlight จะทำให้บริเวณด้านซ้ายปิดเพื่อทำให้สีดำบริเวณด้านซ้ายดำสนิท และกลุ่ม Direct LED Backlight ด้านขวาก็จะเปิดเพื่อให้แสงสามารถลอดออกมาเป็นสีขาว ทำให้ได้ภาพที่คมชัดสูงสุด

Philips LED TV 40PFL6605 และ46PFL6605 ให้ความคมชัดของภาพระดับ High Definition กับความละเอียดของภาพ 1920x1080p มาพร้อมกับเทคโนโลยี Pixel Plus HD ช่วยเพิ่มความละเอียดและความคมชัดให้กับภาพและช่วยเพิ่มความเป็นธรรมชาติสม จริงและเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลแม้จะเป็นภาพที่เคลื่อนไหวเร็วที่สุดก็ตาม พร้อมมีฟังก์ชั่น HD Natural Motion ที่มีประสิทธิภาพทำให้ภาพที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนจอภาพมีชีวิตชีวาสมจริง อย่างเป็นธรรมชาติปราศจากอาการกระตุกแบบที่เห็นบนจอแอลซีดีทีวีเครื่องอื่นๆ มาพร้อมกับระบบ 100 Hz Clear LCD TV ที่ช่วยเพิ่มความละเอียดและความคมชัดให้กับภาพและช่วยเพิ่มความเป็นธรรมชาติ สมจริงและเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลแม้จะเป็นภาพที่เคลื่อนไหวเร็วที่สุดก็ตาม ด้วยค่าการตอบสนองภาพ (Response time) เพียง 2 มิลลิวินาที ระบบ Dynamic Contrast ยังช่วยเพิ่มระดับความแตกต่างระหว่างส่วนมืดและสว่างได้ในอัตราส่วนถึง 500,000:1 และมีความสว่าง 450 cd/m2
ระบบเสียงของ Philips LED TV 40PFL6605 และ46PFL6605 ได้รับการพัฒนาให้มีพลังเสียง 40 วัตต์ ให้เสียงที่คมชัดทุกรายละเอียดด้วยเทคโนโลยี Clear Sound ที่ช่วยเพิ่มระดับเสียงให้คุณได้ยินทุกๆคำพูด ผสานกับลำโพงทวีตเตอร์ เสริมพลังให้เสียงให้ก้องกระหึ่ม สำหรับผู้บริโภคที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าในระบบ HDMI จะสามารถเลือกการต่อเชื่อมกับอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างหลากหลายเพราะมีช่องต่อ แบบ HDMI ถึง 3 ช่อง

Philips LED TV 40PFL6605 และ46PFL6605 เทคโนโลยี Ambilight Spectra 2 ลิขสิทธ์เฉพาะฟิลิปส์ โดย ระบบ Ambilight จะส่องแสงจากหลอดไฟ LED ออกรอบข้างโทรทัศน์ ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เพื่อสร้างบรรยากาศให้ผู้ชมเสมือนเข้าไปอยู่ในภาพยนตร์ที่กำลังรับชมอยู่

Philips LED TV 40PFL6605 ราคา 53,990 บาท และ 46PFL6605 ราคา 69,990 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ข้อมูลผู้บริโภคฟิลิปส์ โทร. 02-652-8652
ที่มา http://www.igadgety.com/?p=2358

Ricoh G700 กันน้ำน้ำ กันฝุ่น


Ricoh G700 กันน้ำน้ำ กันฝุ่น Ricoh ประกาศเปิดตัวกล้อง G700 กล้องคอมแพคดิจิตอลสำหรับงานนอกสถานที่ ด้วยตัวกล้องที่ทนทาน ปรับปรุงความสามารถในการป้องกันการกระแทก น้ำ รวมถึงสารเคมีต่างๆ พร้อมด้วยระบบเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลในตัวกล้อง

กล้องดิจิตอลคอมแพครุ่นใหม่ G700 มาพร้อมความสามารถในการป้องกันน้ำและฝุ่น เพื่อการใช้งานในที่ทุรกันดารหรือสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากกล้องรุ่น G600 ที่วางจำหน่ายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2008 และได้รับการตอบรับที่ดี กล้อง G700 รุ่นใหม่นี้ป้องกันการตกกระแทกจากที่สูงได้ถึง 2 เมตร ( หรือ 1.5 เมตร เมื่อประกอบเลนส์เสริมมุมกว้างเข้ากับตัวกล้อง ) โดยการทดสอบตามมาตรฐานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา รวมถึงความสามารถในการใช้งานใต้น้ำลึก 5 เมตร ได้นานถึง 2 ชั่วโมง พร้อมด้วยความสามารถใหม่ของ G700 ที่สามารถทนทานต่อสารเคมีอย่างเอทานอลและกรดไฮโปคลอรัสได้ นอกจากนี้ยังมีระบบเพื่อความปลอดภัยในข้อมูลและการใช้งานกล้อง อย่างเช่น การใส่รหัสผ่านเพื่อเปิดใช้งานกล้อง เป็นต้น

กล้อง G700 ยังคงใช้เลนส์ซูมคุณภาพสูง กำลังซูม 5 เท่า ทางยาวโฟกัส 28-140 มม. ( เทียบเท่ากล้อง 35 มม. ) และมีระยะยิงแฟลชได้ไกลมากถึง 10 เมตร ด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและความทนทาน กล้อง G700 จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมอย่างเช่น ในสถานที่ก่อสร้าง โรงงาน สถานที่ประสบภัยพิบัติ แท่นขุดเจาะปิโตรเลียม ทะเลทราย ห้องทดลองต่างๆ รวมถึงการใช้งานของนักสำรวจและผจญภัย
ที่มา http://www.igadgety.com/?p=2362

Samsung ออกเครื่องเล่นเพลงใหม่ YP-U6

Samsung ออกเครื่องเล่นเพลงใหม่ YP-U6 หลังจากปล่อยให้ตลาดเครื่องเล่นเพลง MP3 ซบเซาไป ทาง Samsung ก็เดินหน้าเตรียมปล่อยเครื่องเล่นเพลงออกมาอีก ซึ่งมีด้วยกันสองรุ่น สำหรับรุ่นนี้คือ Samsung YP-U6 รูปแบบดีไซน์คล้ายกับ iPod Shuffle รุ่นเก่า ผสมผสานกับ USB Flashdrive เป็นทรงแท่งที่มีหน้าจอแสดงผลเล็กๆ คาดว่าจะได้รู้รายละเอียดเพิ่มเติมเร็วๆ นี้ ตอนนี้ดูรูปกันไปพลางๆ ก่อน
ที่มา http://www.igadgety.com/?p=2403

iPod touch 4G มาพร้อมจอ Retina Display และ FaceTime


iPod touch 4G มาพร้อมจอ Retina Display และ FaceTime Apple เปิดตัว iPod touch 4 รุ่นใหม่ ซึ่งจะมีฟีเจอร์ใหม่ดังต่อไปนี้
มาพร้อมจอ 3.5 นิ้ว Retina Display
ใช้ cpu Apple A4 (แต่ไม่ได้บอกความเร็วสัญญาณนาฬิกามา)
Gyro scope 3 แกน
รันด้วยระบบ iOS 4.1 ซึ่งมี Game Center
กล้องด้านหน้า ทำให้สามารถใช้งาน FaceTime ผ่าน WiFi ได้ ซึ่งแน่นอนว่าสามารถใช้งาน FaceTime ร่วมกับ iPhone 4 ได้
กล้องด้านหลัง ไม่มีแฟลช ถ่ายวีดีโอ HD 720p ได้ 30 fps ความละเอียด 960×720 (น้อยกว่า iPhone 4)
สามารถใช้งานฟังเพลงได้ 40 ชั่วโมง และเล่นวีดีโอได้ 7 ชั่วโมง
ซึ่ง iPod touch 4 นี้จะมาพร้อม 3 ความจุ 8GB 229 ดอลลาร์, 32GB 299 ดอลลาร์, 64GB 399 ดอลลาร์ (ซึ่งราคาในไทยก็คงจะเท่าเดิมคือ 7,900/10,400 และ 13,900 ตามลำดับ )
ซึ่งดูแล้ว iPod touch 4 นี่คุ้มเลยทีเดียว และแน่นอนว่าสามารถใช้งาน iMovie ได้อย่างแน่นอน
ที่มา phonemove

“Viewsonic” โดดทำแท็ปเล็ตกับเค้าด้วย ! ประเดิมจอ 7 นิ้วแอนดรอยด์ 2.2

“Viewsonic” โดดทำแท็ปเล็ตกับเค้าด้วย ! ประเดิมจอ 7 นิ้วแอนดรอยด์ 2.2 ส่วนใหญ่จะรู้จักแบรนด์ “Viewsonic” ในเรื่องของจอภาพ จอคอมพิวเตอร์กันซะมากกว่า แต่ในเร็วๆ นี้จะมีแท็ปเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีชื่อรุ่นคือ “ViewPad” แท็ปเล็ตแอนดรอยด์ 2.2 หน้าจอ 7.0 นิ้ว พร้อมรองรับระบบมัลติทัชเต็มรูปแบบ, กล้องหลัง 3MP+กล้องหน้าสำหรับ Video Calling, เชื่อมต่อ WiFi+3G+GPS ครบเครื่อง และแน่นอน มันโทรออกได้ !!
นอกจากนี้ Viewsonic ยังกำลังพัฒนาแท็ปเล็ตจอ 10.1 นิ้ว สามารถรันได้ทั้ง Windows/Android (DualBoot) ในเครื่องเดียว ส่วนรายละเอียดอื่นๆ คาดว่าในงาน IFA 2010 น่าจะรู้กัน
ที่มา i3

i-Station ไม่ยอมน้อยหน้า ออกของเทพ 3D Android Tablet

i-Station ไม่ยอมน้อยหน้า ออกของเทพ 3D Android Tablet เกาะกระแส Tablet กันหน่อยนะครับช่วงนี้ เนื่องด้วยตลาด Tablet ในตอนนี้ถือว่ากำลังคึกคักมากเลย แต่ละค่าย ต่างซุ่มปล่อยของกันเป็นว่าเล่น ผมก็เลยจับมาเป็นประเด็นให้เพื่อนๆ น้ำลายไหลกันเล่นดีกว่ากับ Tablet สัญชาติเกาหลี ที่ชื่อ i-Station
i-Station เดิมทีเป็นเครื่องมัลติมีเดียที่ใช้ดูหนังฟังเพลง วันนี้มาโชว์ความเทพไม่ให้น้อยหน้าใครๆด้วยรุ่น i-Station Z3D หน้าจอขนาด 7 นิ้ว (800×480) 3D ควบ ระบบปฏิบัติการ Android 2.1 , 802.11b/g WiFi , Bluetooth 2.0 , FM Radio , 5000mAh high capacity battery , DMB television , รองรับวิดีโอ 1080p มีความจุให้เลือก 2 แบบคือ 32 GB กับ 64 GB ซึ่งแน่นอน แค่เห็นสเป็ค ผมเองยังตาโตเลย และต้องทำตาโตๆ ขึ้นอีกเพราะมันเป็น Tablet ที่เป็น หน้าจอ 3D อีก (ต้องสวมแว่น 3D ที่ให้มาด้วย) : สนนราคาเปิดตัวเป็นเงินเกาหลี 600,000 วอน หรือ $500 โดยจะออกวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ที่มา i3

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์