ค่ายคอมพ์เสกคาถา ปั่นกระแส "โน้ตบุ๊ก"

ค่ายคอมพ์เสกคาถา ปั่นกระแส "โน้ตบุ๊ก"
ศักราชใหม่ "โน้ตบุ๊ก" เริ่มขึ้นแล้วกับสังเวียนการแข่งขันที่สุดเร่าร้อนและเร้าใจ เมื่อทุกค่ายต่างพยายามที่จะยกระดับผลิตภัณฑ์อัดฟีเจอร์พร้อมเทคโนโลยีใหม่สู่ตลาด รวมถึงการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป จนกลายเป็นการปั่นกระแส "โน้ตบุ๊ก" ให้ตลาดตื่นตัวอีกครั้ง
ด้วยตัวเลขการคาดการณ์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่รายงานแนวโน้มมูลค่าตลาดคอมพิวเตอร์ในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 53,290-57,290 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 8.1-16.3 ตัวเลขดังกล่าวส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากตลาดโน้ตบุ๊กเป็นหลัก ส่งผลให้ค่ายคอมพิวเตอร์แต่ละแห่งต้องพยายามเสกคาถาเกมการตลาด กลยุทธ์ใหม่ที่มาพร้อมกับโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ เพื่อให้ชนะผู้บริโภคยุคปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดนี้ให้เพิ่มขึ้น

"เราเชื่อว่าตลาดไอทีในปีนี้จะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด"

เป็นคำกล่าวของ แฮรี่ หยาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด

เมื่อเอเซอร์มีความเชื่อดังกล่าวจึงได้มีการเตรียมความพร้อมที่จะไปสู่เป้าหมายการเติบโตทางด้านรายได้ในปี 2553 ที่ 30% โดยเอเซอร์เน้นการสานต่อกลยุทธ์มัลติแบรนด์ด้วยผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เอเซอร์ที่เน้นจุดเด่นความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ส่วนเกตเวย์เน้นเจาะกลุ่มแฟชั่นและความมีเอกลักษณ์ด้านดีไซน์ และอีแมชชีนเหมาะกับผู้ให้ความสำคัญกับเรื่องของราคา

ในส่วนพันธมิตรทางการค้านั้น เอเซอร์ยังคงดำเนินนโยบายการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย พร้อมเสริมสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของคอนซูเมอร์ รวมถึงการพัฒนาการให้บริการหลังการขายอย่างครบวงจร

ล่าสุดเอเซอร์ได้มีการเปิดตัวโน้ตบุ๊กและพีซีรุ่นใหม่รวม 12 ซีรีส์ กว่า 30 รุ่น ทั้งในตระกูลแอสไปร์ เวอริตอน และอีแมชชีน ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ ให้ผู้ใช้ในระดับราคาที่ไม่สูงมากนัก ทั้งนี้ เอเซอร์เชื่อมั่นว่าภายในสิ้นปีนี้เอเซอร์จะมีส่วนแบ่งการตลาดคอมพิวเตอร์โดยรวมได้ถึง 1.1 ล้านเครื่อง โดยมีส่วนแบ่งตลาดโน้ตบุ๊ก 8 แสนเครื่อง หรือมากกว่า 40% และส่วนแบ่งของตลาดพีซี 3 แสนเครื่อง หรือคิดเป็น 25%

จากผลการสำรวจของการ์ตเนอร์ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 ระบุว่าเอเซอร์ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดอันดับ 2 ของโลก ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 15.4% เพิ่มขึ้น 5% จากปี 2551 และมียอดจำหน่ายโน้ตบุ๊กทะลุเป้าถึง 10.96 ล้านเครื่อง ทำให้มียอดการเติบโตดีที่สุดถึง 25.6% ทำให้เอเซอร์ตั้งเป้าเป็นอันดับหนึ่งของตลาดโน้ตบุ๊กในระดับโลกให้ได้ภายในสิ้นปีนี้

เลอโนโวขายเทคโนโลยี
เจาะกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มบี

เลอโนโวเดินเกมต้นปี 2553 ด้วยการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าไปสู่ตลาดองค์กรธุรกิจและกลุ่มเอสเอ็มบี โดยเน้นการนำเสนอเรื่องของเทคโนโลยีที่มีอยู่หลากหลาย ที่สามารถช่วยองค์กรประหยัดต้นทุนในการดำเนินกิจการได้ และไม่เน้นการทำตลาดที่ต้องอาศัยราคาเป็นจุดแข็งแกร่งในตลาดนี้

"จากการรับฟังจากผู้ใช้เลอโนโวและการสังเกตแนวโน้มของตลาด เราเห็นโอกาสจะสร้าผลิตภัณฑ์รูปแบบโน้ตบุ๊กที่พกพาสะดวก เหมาะสำหรับการใช้งานทางธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กหรือเอสเอ็มบี" จีรวุฒิ วงศ์พิมลพร ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษัท เลอโนโว ประเทศไทย จำกัด กล่าว

หลังจากสำรวจความต้องการดังกล่าว เลอโนโวได้มีการเปิดตัวโน้ตบุ๊กตระกูล ThinkPad Edge หน้าจอกว้าง 13 นิ้ว 14 นิ้ว และ 15 นิ้ว ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับเอสเอ็มบี ทั้งนี้ ผู้ใช้สามารถเลือกได้ทั้งหน่วยประมวลผลเอเอ็มดีและอินเทล โดยโน้ตบุ๊กรุ่นหน้าจอกว้าง 13 นิ้ว เปรียบเสมือนโน้ตบุ๊กรุ่นแรกของธิงค์แพดที่ใช้เทคโนโลยีประมวลผลดูอัลคอร์จากเอเอ็มดีและมาพร้อมเทคโนโลยี VISION Pro

นอกจากนี้ เลอโนโวยังได้นำโน้ตบุ๊กธิงค์แพดขนาดพกพา ThinkPad X100e ซึ่งถือเป็นโน้ตบุ๊กระดับมืออาชีพเครื่องแรกที่บางเบาเหมาะแก่การพกพามาเปิดตัว โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือเอสเอ็มบี

พีซีมือถือฟูจิตสึ
มัลติทัชเล็กที่สุด

สีสันโน้ตบุ๊กใหม่จากฟูจิตสึกับการเปิดตัวไลฟ์บุ๊ก UH900 น่าจะถือเป็นความแปลกใหม่ที่สุดในตลาดโน้ตบุ๊กของเมืองไทยในช่วงต้นปีนี้ เนื่องจาก UH900 ถือเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีมือถือที่พกพาง่ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวงการคอมพิวเตอร์ โดยมีน้ำหนักน้อยกว่า 500 กรัม มีความหนาน้อยกว่า 1 นิ้ว หรือมีขนาดเท่ากับกระเป๋าสตางค์ ซึ่งสามารถที่จะใส่ในกระเป๋าถือหรือกระเป๋าเสื้อได้อย่างสบาย รวมทั้งมอบประสบการณ์การมองเห็นที่คมชัดในทุกมุมภาพทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง ตั้งแต่การชมภาพยนตร์ไปจนถึงการเปิดดูข้อมูลต่างๆ สามารถเปิดหน้าเว็บเพจได้เต็มหน้าจอ และรองรับการเปิด window-base ต่างๆ ทั้ง flash animation และการกรอกแบบฟอร์มอื่นๆ

ฟูจิตสึยังมีการออกแบบปุ่มควบคุมถึง 5 ปุ่ม ซึ่งสามารถใช้งาน UH900 ด้วยนิ้วหัวแม่มือบริเวณด้านข้างของหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น การปรับ Resolution, ปุ่ม ECO mode เพื่อยืดระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ยาวนานถึง 3 ชั่วโมง และปุ่มสำหรับควบคุมการใช้งานด้านความบันเทิง หรือยังสามารถตั้งค่าปุ่มทั้ง 3 ปุ่มให้ตรงตามความต้องการและการใช้งานของผู้ใช้ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีปุ่มสำหรับควบคุมการเลื่อนหน้าจอขึ้น-ลงผ่านปุ่มเพียงปุ่มเดียวเท่านั้น และการทำงานยังรองรับการใช้ external mouse รวมถึงรองรับระบบ multi-touch ที่สามารถสั่งงานด้วย 2 นิ้ว หรือจะใช้ปากกาเพื่อการบันทึกข้อมูลที่ต้องการความละเอียดได้

นอกจากนี้ UH900 ยังมาพร้อมกับ Intel Atom Z530 processor และโปรแกรม ThinkFree Mobile Office เพื่อการใช้งานที่ง่ายและสะดวกในการปรับแต่ง presentation, word และ spreadsheets นอกจากนี้ LifeBook UH900 ยังทำให้การเชื่อมต่อทุกที่ทุกเวลาเป็นเรื่องง่าย เนื่องจาก LifeBook UH900 มาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบไวร์เลสอย่างเต็มรูปแบบ และเครื่องมือที่ช่วยในการติดต่อสื่อสาร เช่น บลูทูธ กล้องเว็บแคมและสเตอริโอไมโครโฟนในตัว ไม่เพียงเท่านั้นยังมีแอปพลิเคชั่นการแชร์ DVD ด้วยการใช้งานแบบไวร์เลสกับเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีเครื่องอื่นๆ ทำให้การแชร์ DVD เป็นเรื่องง่ายและไม่เปลืองพื้นที่การจัดเก็บบน LifeBook UH900

โทโมกิ ทาคาฮาชิ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ฟูจิตสึ พีซี เอเชีย แปซิฟิก จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์การตลาดว่าฟูจิตสึยังเน้นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อนำเสนอสู่ตลาดโน้ตบุ๊ก เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้ฟูจิตสึจะคำนึงถึงคุณภาพสินค้าและการให้บริการหลังการขายเป็นหลัก อย่างไรก็ตามเพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่น ฟูจิตสึจึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผู้ใช้โน้ตบุ๊กไทยจะสามารถจับต้องได้ อย่างเช่นรุ่นที่กำลังจะนำเข้ามาทำตลาดในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ อย่าง ฟูจิตสึไลฟ์บุ๊ก LH700

ด้านส่วนแบ่งทางการตลาด ฟูจิตสึตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2% สำหรับปี 2553 นี้ น่าจะทำให้ฟูจิตสึสามารถก้าวเข้ามาอยู่ใน 10 อันดับแรกของตลาดโน้ตบุ๊กได้

ซัมซุงพาเหรด
เน็ตบุ๊กลงตลาด

ค่ายเกาหลีอย่างซัมซุงเตรียมปูพรมส่งเน็ตบุ๊กรุ่นใหม่ลงตลาด ทั้งซัมซุง N210 N220 N150 และ NB30 ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่ยาวนานกว่า โดยซัมซุง N210 และ N220 สามารถใช้งานแบบไร้สายได้นานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมง นอกจากนี้ซัมซุงยังเน้นเรื่องของดีไซน์หรูแบบคริสตัลดีไซน์

เน็ตบุ๊กของซัมซุงยังมาพร้อมกับหน้าจอ LED ขนาด 10.1 นิ้ว มีระบบช่วยลดการสะท้อนแสงแม้ทำงานอยู่ภายใต้แสงจ้า พร้อมกล้องดิจิตอล ไลฟ์แคม สำหรับวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เซ็นเซอร์ป้องกันการตกหล่น และระบบกันน้ำ ทั้งมีแอปพลิเคชั่นต่างๆ จากซัมซุงที่พัฒนาขึ้นเพื่อความสะดวกในการใช้งานโดยเฉพาะ และยังมี Phonenix HyperSpace Tool ของซัมซุง N210 และ N220 ที่ช่วยให้สามารถเปิดเครื่องและออนไลน์ได้ทันใจ โดยไม่ต้องบูทวินโดวส์อีกต่อไป และยังมี Phonenix Failsafe Software ช่วยให้สามารถติดตามเครื่องได้แม้สูญหายหรือถูกขโมย


ที่มาโดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์/http://www.managerweekly.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์