ซิสโกขอแจม ส่งแท็บเลตบุกนักธุรกิจ

ซิสโกขอแจม ส่งแท็บเลตบุกนักธุรกิจ ซิสโก (Cisco) ตามเทรนด์โลก แจ้งเกิดคอมพิวเตอร์แท็บเลตขนาดเล็กน้ำหนักเบากว่าไอแพด (iPad) เพื่อบุกตลาดผู้ใช้นักธุรกิจ ถือเป็นการขยายอาณานิคมออกจากยุทธจักรธุรกิจเครือข่ายข้อมูล มาสู่ธุรกิจฮาร์ดแวร์อุปกรณ์พกพา ทำให้ซิสโกตกที่นั่งเป็นคู่แข่งของแอปเปิล (Apple) ไปโดยปริยายซิสโกให้ชื่อคอมพิวเตอร์แท็บเลตนี้ว่าซิสโกซีอัส (Cisco Cius) ใช้ระบบปฏิบัติการมาตรฐานเปิดแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิล การันตีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง คาดว่าจะเริ่มเปิดให้ทดลองใช้งานได้ภายในปีนี้ ก่อนจะทำตลาดในเชิงพาณิชย์ช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า

ข้อมูลระบุว่า ซีอัสมีน้ำหนักตัวเครื่อง 1.15 ปอนด์ (ราว 0.52 กิโลกรัม) ถือเป็นน้ำหนักที่เบากว่า 1.5 ปอนด์ของไอแพด (ราว 0.68 กิโลกรัม) หน้าจอขนาด 7 นิ้ว (17.8 เซนติเมตร) เล็กกว่าไอแพดซึ่งมีหน้าจอ 9.7 นิ้ว (24.6 เซนติเมตร)

สิ่งสำคัญที่ซีอัสต่างจากไอแพดคือกล้องดิจิตอล ไอแพดนั้นไม่มีกล้องดิจิตอลเลย แต่ซีอัสมีกล้องดิจิตอลความละเอียดสูงด้านหน้า-หลังซึ่งสามารถสตรีมมิ่งวิดีโอเอชดี (HD) แบบเรียลไทม์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการการประชุมทางไกลในกลุ่มธุรกิจ

นอกจากวิดีโอคอลล์ ซีอัสถูกการันตีว่ามีความปลอดภัยสูง เพื่อให้องค์กรวางใจให้พนักงานรับ-ส่งอีเมล, ข้อความสนทนา และเปิดเว็บไซต์ผ่านเครือข่าย Wi-Fi และ 4G ได้แบบไม่มีความเสี่ยง รวมถึงการสร้าง แก้ไข และแบ่งปันข้อมูลภายในเครือข่ายองค์กรหรือในเครือข่ายเปิดอย่างอินเทอร์เน็ต เท่ากับเป็นการเติมเต็มแนวทางการสื่อสารไร้รอยต่อหรือ UC ที่ซิสโกดำเนินมาโดยตลอด

"อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้พนักงานองค์กรสามารถเข้าถึงและแชร์คอนเทนต์ที่ต้องการได้จากทุกเครือข่าย ระบบนี้จะปฏิวัติการดูแลติดตามผู้ป่วยของแพทย์พยาบาลมืออาชีพด้านสุขภาพ, การให้บริการลูกค้าของบริษัทค้าปลีก หรือการเรียนการสอนของโรงเรียนและมหาวิทยาลัย"

นี่ถือเป็นคอมพิวเตอร์แท็บเลตอีกรุ่นที่ถูกวางตัวมาเพื่อแข่งขันกับไอแพด โดยเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่อย่างเดลล์ (Dell) ได้ออกมาเปิดตัวแท็บเลตในชื่อ "Streak" ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เช่นกัน

สำหรับแอปเปิล สัปดาห์ที่แล้วค่ายไอทีผลไม้ยักษ์ใหญ่เพิ่มออกมาประกาศว่าสามารถจำหน่ายไอแพดได้มากกว่า 3 ล้านเครื่องแล้ว ในระยะเวลาเพียง 3 เดือน (นับตั้งแต่วันวางจำหน่ายวันแรกคือ 3 เมษายน 2553)
Cisco Cius


ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

iPhone 4 สุดหรู พิเศษสุดจาก Gresso


iPhone 4 สุดหรู พิเศษสุดจาก Gresso
Gresso ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือในระดับหรูหรา เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษ โดยการนำ iPhone 4 มาเปลี่ยนเคสด้านหลัง เสริมความหรูหรามากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า โดยฝาหลังทำจากไม้ African Blackwood อายุ 200 ปี ซึ่งถือว่าเป็นวัสดุที่หายาก แต่มีความทนทานเป็นพิเศษ ประดับด้วยโลโก้ Apple ที่ทำจากทองคำ 18 กะรัต

ที่มา siamphone

เสาอากาศ iPhone 4 ดีกว่าไอโฟนทุกรุ่น?

เสาอากาศ iPhone 4 ดีกว่าไอโฟนทุกรุ่น?
รายงานข่าวล่าสุด แอปเปิ้ล (Apple) เปิดแผนสำหรับการจัดการกับเสียงบ่นเรื่องเสาอากาศของ iPhone 4 และชัดเจนว่า ทางบริษัทไม่มีนโยบายให้ฟรีขอบยางกันชน (Bumper) ที่มีราคา 29 เหรียญฯ (ประมาณ 1,000 บาท) สำหรับ iPhone 4 เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
มีการเปิดเผยข้อมูลที่อ้างว่า เป็นขั้นตอนในการตอบคำถามกับลูกค้า iPhone 4 โดยข้อมูลที่รั่วออกมานี้ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ Boy Genius Report ซึ่งตัวแทนของ AppleCare จะยึดขั้นตอนนี้เป็นบรรทัดฐานในการตอบปัญหากับลูกค้า iPhone 4 โดยเฉพาะ ทั้งนี้การตอบคำถามจะต้องเป็นไปโดยละมุมละม่อม และชัดเจนในจดยืน

ตัวอย่างคำชี้แจงที่ใช้กับลูกค้า iPhone 4 ก็เช่น ประสิทธิภาพการทำงานไร้สายของ iPhone 4 ดีที่สุดเท่าทีเราเคยทำมา ผลการทดสอบของเราแสดงให้เห็นว่า ประสิทธิภาพเสาอากาศโดยรวมของ iPhone 4 ดีกว่า iPhone 3GS การจับมือถือในบางตำแหน่งที่แน่นอนจะลดทอนสัญญาณ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับ iPhone 4 และ iPhone 3GS รวมถึงมือถือรุ่นอื่นๆ ที่เราได้เคยทดสอบ มันเป็นข้อเท็จจริงของชีวิตในโลกไร้สาย และหากคุณเคยประสบปัญหานี้กับ 3GS ควรหลีกเลี่ยงการใช้อุ้งมือกระชับเข้าทีมุมล่างขวาของเครื่อง แต่ถ้าเป็น iPhone 4 ให้ระวังมือไปปิดโดนแถบสีดำที่อยู่มุมล่างซ้ายของแถบโลหะข้างตัวเครื่อง การใช้ซอง หรือกันกระแทกที่ทำจากยาง หรือพลาสติกอาจช่วยให้ประสิทธิภาพการเชื่อมต่อไร้สายดีขึ้น เนื่องจากมันทำให้มือของผู้ใช้ไม่ได้สัมผัสกับบริเวณดังกล่าวโดยตรง


ประเด็นที่เกิดขึ้นไม่เกียวกับเรื่องของการให้บริการเกี่ยวกับประกันต่างๆ โดยพนักงานให้บริการของแอปเปิ้ลจะต้องพยายามชี้แจงด้วยเหตุผลที่ชัดเจนมากกว่าให้ความสำคัญกับคำบ่น หรือข้อกังวลของลูกค้า ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องพิสูจน์ได้ ถ้าลูกค้าบอกว่า ปัญหาเกิดขึ้นแม้จะมือถือจะวางอยู่บนโต๊ะเฉยๆ แสดงว่า มันไม่ได้เกิดจากตัวเครื่อง (แต่อาจะเป็นจุดอับของสัญญาณ) ซึ่งแอปเปิ้ลไม่สามารถแก้ปัญหานี้ให้ได้ และประเด็นสุดท้าย พนักงานให้บริการจะไม่เสนอ หรือให้สัญญากับลูกค้าว่า จะให้แถบยางกันกระแทก (เส้นละ 29 เหรียญฯ) ฟรีกับลูกค้าเด็ดขาด!!!

อย่างไรก็ตาม ทางแอปเปิ้ลได้รับทราบถึงการเปิดเผยข้อมูลข้างต้นนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีออกมาแต่อย่างใด สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แอปเปิ้ลกำลังพยายามแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการอัพเดต iOS 4.0.1 ในขณะเดียวกันก็แนะนำให้ลูกค้าลองใช้ Bumper ซองใส่กันชนของแอปเปิ้ล หรือผู้ขายเจ้าอื่นๆ

ข้อมูลจาก: boygeniousreport

ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

ครบรอบ 5 ขวบ เกมส์คอนโซล Xbox


ครบรอบ 5 ขวบ เกมส์คอนโซล Xbox
รู้มั้ยว่า เดือนพฤศจิกายนนี้ เกมส์คอนโซลยอดนิยมอย่าง Xbox360 จะมีอายุครบรอบห้าขวบแล้ว ซึ่งบริษัทที่ให้กำเนิดมัน ก็หวังที่จะให้ปีนี้กลายเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ เพราะเจ้า XBox เดินทางผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนถึงช่วงกลางของชีวิตมันแล้ว ...Chris Lewis ผู้บริหารไมโครซอฟท์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับแพลตฟอร์มนี้น่าจะยังได้รับความนิยมอยู่อย่างน้อยต่อไปอีกประมาณห้าปี กับการที่ XBox ได้ด้ถูกออกแบบใหม่ และการวางจำหน่ายเครื่อง Kinect จะแสดงให้เห็นว่า บริษัทมีความสุขกับการพัฒนาที่ไม่เคยหยุดนิ่งเพื่อที่จะนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับชาวเกมส์เมอร์ และพร้อมที่จะพัฒนาตัวเกมส์ให้มากขึ้นเพื่อที่จะให้เหล่าผู้เล่นของXbox 25 ล้านคนมีความสุข Lewis ยังได้ชี้แจงถึงกรณีที่มีข่าวว่าไมโครซอฟท์จะละทิ้งตลาดเกมส์แนวฮาร์ดคอร์ หลังจากที่วางจำหน่ายเครื่อง Kinect ซึ่งเขาได้บอกว่า ไมโครซอฟท์ยังคงที่จะรักษาสัญญากับผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมส์ฮาร์ดคอร์อยู่ เพียงแต่เราก็ต้องทำการตลาดในส่วนเกมส์ทั่วไปด้วย ซึ่งถ้าหากเราขาดลูกค้าส่วนสำคัญไป เราก็ไม่สามารถที่จะทำมันได้
ที่มา : Techsport , Pantip

ปัญหา iPhone 4 เกิดขึ้นแล้ว หลังจากเริ่มวางจำหน่าย


How to hold the iPhone 4 right (Antenna Problems) Vuvuzela Version by Neil Curtis
ปัญหา iPhone 4 เกิดขึ้นแล้ว หลังจากเริ่มวางจำหน่าย
หลังจาก iPhone 4 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการและมีลูกค้าได้รับเครื่องกลับไปใช้งานอย่างสมใจ ก็ปรากฏว่ามีลูกค้าหลายรายพบความผิดปกติของ iPhone 4 โดยเฉพาะการแสดงผลของสีที่ผิดเพี้ยงตรงมุมล่างของจอแสดงผล และเรื่องสัญญาณโทรศัพท์ที่ค่อยๆ ลดลง หลังจากลูกค้าได้ร้องเรียนไปยัง Apple เกี่ยวกับความผิดปกติของตัวเครื่อง กลับได้คำตอบว่าลูกค้านั้นถือ iPhone 4 อย่างผิดวิธี เนื่องจากตัวรับสัญญาณโทรศัพท์ซ่อนอยู่ตรงส่วนขอบของตัวเครื่อง เมื่อผู้ใช้ถืออย่างผิดวิธีอาจส่งผลให้ไปบังสัญญาณได้ แต่ทว่าลูกค้าหรือผู้ใช้ไอโฟน ส่วนใหญ่ ก็ถือตัวเครื่องแบบเดียวกับสตีฟ จ็อบส์ รวมไปถึงภาพยนตร์โฆษณาต่างๆ ก็ถือตัวเครื่องแบบผิดวิธีเช่นกัน เรื่องปัญหาของ iPhone 4 คงจะไม่จบลงง่ายๆ เสียแล้ว

ที่มา siamphone

เผยภาพหลุด Nokia N9 มากับโอเอส Symbian ^3


เผยภาพหลุด Nokia N9 มากับโอเอส Symbian ^3
Nokia N8 ยังไม่ทันวางขาย ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับ Nokia N9 ออกมาอยู่เรื่อยๆ ถึงขนาดมีภาพเคลื่อนไหวหลุดออกมาทางยูทู๊ป แต่ก็มีหลายเสียงยืนยันว่าเป็นของปลอม มาคราวนี้เป็นภาพนิ่ง ถ่ายให้ดูกันแบบชัดๆ ลักษณะเหมือน Nokia N8 ที่มีแผงคีย์บอร์ด QWERTY เลื่อนใช้งานจากด้านข้างคล้ายตระกูล N97 มีกล้องถ่ายรูปความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED สองดวง

คุณสมบัติอื่นที่คาดว่า Nokia N9 จะต้องมีก็คือใช้ระบบปฏิบัติการ Symbian ^3 จอแสดงผลระบบสัมผัส ความละเอียด 360 x 640 พิกเซล กว้าง 3.5 นิ้ว รองรับเครือข่าย 3G, HSDPA การเชื่อมต่อ Wi-Fi และ GPS อย่างไรก็ตามขอย้ำกันอีกทีว่านี่เป็นเพียงแค่ข่าวลือ
ที่มา simphone

Lenovo ThinkPad Edge 14 เตรียมพร้อมอัพเกรดด้วย Intel Core i7 ส่วน Edge 15 รอไปก่อน


Lenovo ThinkPad Edge 14 เตรียมพร้อมอัพเกรดด้วย Intel Core i7 ส่วน Edge 15 รอไปก่อน ได้เวลาเดินหน้าเสียที พวก Edge 14 Core i3 ก็หลบไปเลย

ตอนนี้เป็นเวลาสำหรับของแรง แต่ก็ดูเหมือนว่าทาง Lenovo เองก็ยังคงเก็บทั้ง i3 และ i5 เอาไว้อยู่ดี แต่ตอนนี้มีอะไรดีๆมาให้ชมกันกับของแรงด้วย Core i7-620M อัพเกรดล่าสุด บน ThinkPad Edge 14 ต้องบวกเพิ่มราคาประมาณ 350 เหรียญจากราคาเดิมๆของตัว i3-330M อาจจะดูโหดไปหน่อยแต่สามารถเพิ่มความแรงด้วย Turbo Boost อัพไปถึง 3.33 GHz ส่วน 2.66 GHz สำหรับความเร็วปกติ พร้อม Cache 4 MB ส่วน Edge 15 รุ่นคู่แฝด แต่ใหญ่กว่าเล็กน้อย ยังไม่มีข่าวคราวการอัพเกรดในครั้งนี้ แต่คาดว่าคงอีกไม่นาน รอฟังข่าวดีจากได้เลย

ที่มา : shop.lenovo.com

ผู้ซื้อ iPhone 4 ส่วนใหญ่อัพเกรดไอโฟน

ผู้ซื้อ iPhone 4 ส่วนใหญ่อัพเกรดไอโฟน ผลวิจัยโดย Piper Jaffray ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ประมาณ 77% ของผู้ที่เข้ามายืนต่อแถวรอซื้อ iPhone 4 มีความต้องการอัพเกรดมือถือของตนที่เริ่มตกรุ่น ซึ่งทางบริษัทยังได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ด้วยว่า แอปเปิ้ล (Apple) จะสามารถขายไอโฟนได้ 1 - 1.5 ล้านเครื่องภายใน 3 วันแรก (ตัวเลขนี้รวมยอดสั่งจองล่วงหน้าแล้ว)
Piper Jaffray ได้สำรวจข้อมูลจากผู้ใช้ที่มายืนต่อแถวที่หน้าร้านแอปเปิ้ลสโตร์ (Apple Store) ในวันพฤหัสบดีในซานฟรานซิสโก มิเนอาโพลิส และนิวยอร์ก โดยพบว่า 77% ของผู้ซื้อเหล่านี้กำลังเปลียนจาก iPhone เครื่องเก่า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2009 ที่ประมาณ 56% ต้องการเปลี่ยนจาก iPhone หรือ iPhone 3G เป็น 3GS "แอปเปิ้ลประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สำหรับการสร้างรายได้อีกครั้งจากการอัพเกรดของผู้ใช้ไอโฟนที่ต้องการรุ่นใหม่ล่าสุดของทางบริษัทในทุกๆ 1 ถึง 2 ปี" Gene Munster นักวิเคราะห์ ได้บันทึกไว้รายงานเกียวกับผู้บริโภค "แอปเปิ้ลสามารถได้ใจลูกค้าไปครอง ในขณะที่ผู้ผลิตมือถือรายอื่นไม่อาจทำได้" อย่างไรก็ตาม Munster คาดว่า อัตราการอัพเกรดจะลดลง หากแอปเปิ้ลแนะนำไอโฟนรุ่นใหม่ในปีหน้า

นอกจากตัวเลขเปอร์เซนต์ดังกล่าวแล้ว ประมาณ 16% ยกเลิกการใช้บริการเครือข่าย AT&T ซึ่งลดลงจาก 28% ในระหว่างที่เปิดตัว 3GS และประมาณ 6% เปลี่ยนใจจาก BlackBerry มาใช้ iPhone 4 ในขณะที่ 3% เป็นกลุ่มผู้ใช้ทีเปลี่ยนจาก Android นักวิเคราะห์ยังพบว่า 54% ของผู้ซื้อเลือก iPhone 4 32GB แทนที่จะเป็น 16GB เทียบกับ 43% ของผู้ที่เคยซื้อ iPhone 3GS 32GB ในปีที่แล้ว นอกจากนี้ 28% ของผู้ซื่อที่ยืนรออยู่ในแถวเป็นเจ้าของ iPad แล้วอีกด้วย ขณะที่ 39% ตอบว่าจะซ์้อ iPad ในปีหน้า และในจำนวนผู้ซื้อที่ต่อแถวรออยู่นี้ 65% เป็นเจ้าของเครื่อง Mac โดยรวม Munster คาดว่ายอดขายของ iPhone 4 ใน 3 วันแรกน่าจะอยู่ระหว่าง 1 - 1.5 ล้านเครื่อง ซึ่งตัวเลขนี้รวม 600,000 เครื่องทีได้มีการสั่งจองล่วงหน้าแล้ว
iPhone4 Store Line


ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

Android Robo ตัวน้อย น่ารักจริงๆ


Android Robo ตัวน้อย น่ารักจริงๆ
เจ้าหุ่นยนต์สีเขียวแอนดรอยด์นั้นเป็นสัญลักษณ์ของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ซึ่งใครๆก็รู้กัน โดยวันนี้นั้นเราจะพามาให้รู้จักกับความน่ารักของเจ้าหุ่นแอนดรอยด์ซึ่งเป็นผลงานของ Hideyuki Takei และ Reo Matsumura ซึ่งหุ่นแอนดรอยด์ตัวนี้ก็ถูกบังคับจากระบบแอนดรอยด์อีกที โดยผ่านจากการสั่งการการควบคุมโดยบลูทุธครับ

ที่มา : phonemove

Apple ปรับปรุงบริการ MobileMe Mail


Apple ปรับปรุงบริการ MobileMe Mail
Apple ได้ทำการปรับปรุงบริการรับ-ส่งข้อความหรือ MobileMe Mail ให้ผู้ใช้ได้ใช้งานได้อย่างเต็มพลัง...บริการ MobileMe Mail นี้ เป็นบริการรับ-ส่งข้อความอีเมลใหม่ที่เริ่มเปิดให้บริการในเวอร์ชั่นทดลองมาตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเข้าไปใช้บริการได้ที่ me.com ซึ่งล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ทางทีมผู้พัฒนาของ Apple ก็ได้ทำการปรับปรุงบริการนี้ใหม่ โดยมีการเพิ่มความสามารถให้ใช้งานในโหมดวายสกรีนได้และสามารถวิวในรูปแบบ compact, มีการเข้าใช้งานได้ง่าย แค่เพียง 1 คลิ๊ก, มีการป้องกันรูปแบบ SSL และ มีระบบการป้องกันอีเมลขยะที่ดีขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังจะสามารถใช้บริการ MobileMe ในการอ่านอีเมลจากอีเมลแอดเดรสอื่นได้อีกด้วย ซึ่งบริการ MobileMe Mail นี้ จะสามารถใช้งานได้เฉพาะเวบบราวน์เซอร์ที่รองรับ อันได้แก่ Safari, Firefox และ IE8 เท่านั้น สำหรับเวบบราวน์เซอร์ IE เวอร์ชั่นต่ำกว่า 8, Chrome และ Opera ไม่สามารถใช้บริการนี้ได้

ที่มา : Cnet , Pantip

Q8 นาฬิกามือถือ รองรับ 2 ซิมการ์ด


Q8 นาฬิกามือถือ รองรับ 2 ซิมการ์ด
Q8 นาฬิกาโทรศัพท์มือถือรองรับการทำงาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันในระบบ GSM Quadband หน้าจอสัมผัส 1.33 นิ้ว สนับสนุนการเชื่อมต่อบลูทูธ รองรับมัลติมีเดีย เครื่องเล่นเพลง MP3 เครื่องเล่นวีดีโอ กล้องถ่ายรูปความละเอียด 2 ล้านพิกเซล บันทึกได้ทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอ เพิ่มเติมหน่วยความจำ MicroSD สูงสุด 2 GB ใช้งานรับส่งข้อความ SMS, MMS สนับสนุนภาษา จีน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, อิตาลี,เยอรมัน และอื่นๆ สนทนาต่อเนื่อง ประมาณ 5 ชั่วโมง และเปิดรอรับสายประมาณ 300 ชั่วโมง ราคาประมาณ 4,130 บาท

Q8 นาฬิกามือถือ รองรับ 2 ซิมการ์ด

Q8 นาฬิกามือถือ รองรับ 2 ซิมการ์ด

Q8 นาฬิกามือถือ รองรับ 2 ซิมการ์ด
ที่มา SIAMPHONE

ป้องกัน iPad ของคุณด้วย iBallz


ป้องกัน iPad ของคุณด้วย iBallz iBallz เป็นอุปกรณ์เสริมที่มีแนวคิดที่เรียบง่าย แต่ใช้ได้จริง ซึ่งการทำงานของมันนั้นแทบจะไม่มีอะไรเลยครับ นอกเสียจากการป้องกันการกระแทกของ iPad ซึ่งจะมีลักษณะเป็นลูกบอลเหมือนกับชื่อ ที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับแรงกระแทก มีการยืดหยุ่นน้ำหนัก เมื่อเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย

สำหรับ iBallz นี้ไม่ได้มีไว้ใช้กับ iPad อย่างเดียวนะครับ เราสามารถที่จะนำไปใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกเช่น Nook ,Kindel เป็ฯต้น สำหรับการใช้งานนั้นสามารถดูได้ที่คลิบวีดีโอตัวอย่างนี้ได้เลย แต่สำหรับราคานั้น เปิดตัวอยู่ที่ $19.99 (ประมาณ 700 บาท)
iBallz / iPad Drop, in the kitchen!

ที่มา http://techxcite.com/2010/view/2951

VDO Apple's iOS 4 4.0 เปิดให้บริการแล้ววันนี้

VDO Apple's iOS 4 4.0 เปิดให้บริการแล้ววันนี้

iOS 4.0 เป็นระบบปฏิบัติการของ iPhone ตัวใหม่ล่าสุดของ Apple ที่ให้สิทธิในการอัพเกรดคือ iPhone 3G, 3GS, 4 และ iPod Touch ซึ่งมีคุณสมบัติมากมายที่มาพร้อมกับระบบใหม่นี้อย่างเช่น Multitastking

คุณสมบัติใหม่ใน iOS 4.0 นี้ มีหลักๆ เด่นก็คือ Camera and Video ที่เป็นสิทธิพิเศษสำหรับผู้ใช้ iPhone 4.0 เท่านั้น ที่จะสามารถบันทึกวีดีโอที่มีความละเอียด 720p และความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นต่างๆ ในการตกแต่งวีดีโอของคุณให้เด่นไม่เหมือนใครอีกด้วย

Search ที่ Apple ได้นำ Bing เข้ามาเป็นเสิร์จเอนจิ้นของ Safari แทน Google จากแต่ก่อน แต่ผู้ใช้ก็สามารถที่จะเลือกใช้บริการ google ,Yahoo หรือ Bing ก็ได้ครับ

iBooks เป็นตลาด iBooks ของ Apple ที่มีการนำไฟล์ PDF Reader เข้ามาให้ใช้งานแสดงผลผ่าน iPhone ได้ โดย iBookStore จะเป็นเสมือนคลังหนังสืออนไลน์ ซึ่งผู้ใช้สามารถซื้อและดาวน์โหลดมาอ่านได้ครับ

iAd เป็นคุณสมบัติใหม่ที่จะมาแทน AdMob ที่เพิ่งโดน Google ซื้อไป ทำให้ Apple ต้องหันมาพัฒนาสร้างขึ้นเองโดยใช้ชื่อว่า iAd ที่มีกำหนดการใช้งานพร้อมกันในวันที่ 1 กรกฏาคมนี้ครับ
ที่มา : Apple ,http://techxcite.com/2010/view/2952

ดาวน์โหลดไฟล์อัพเดต iOS4 กันเถอะ

i - Mo ลำโพงดีไซน์น่ารักแถมครบครันไปด้วยฟังก์ชัน


i - Mo ลำโพงดีไซน์น่ารักแถมครบครันไปด้วยฟังก์ชัน
i - Mo ลำโพงดีไซน์น่ารักที่มาพร้อมกับฟังก์ชันอย่างเล่น MP3, วิทยุ FM และช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm หากคุณต้องการเปลียนเพลงหรือระดับเสียงเพียงแค่คุณกระดิกเขาของ i - Mo และให้คุณฟังเพลงโปรดจากหน่วยความจำภายใน 2 GB หรือคุณจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Gadgat อื่นๆอย่าง MP3, MP4, โทรศัพท์มือถือ iPhone, iPod, iPad, PSP, NDS หรืออุปกรณ์เสียงอื่น ๆ พร้อมทั้งสามารถค้นหาและวิทยุ FM ในสถานีที่คุณต้องการอย่างสะดวก ลำโพง i -Mo Resonance เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่น ห้องนอน เดสก์ทอปสำนักงาน ลำโพงดีไซน์น่ารักที่มาพร้อมกับการใช้งานที่ครบครันตัวนี้มีราคาอยู่ที่ 45.12 เหรียญสหรัฐ
สรุปเกี่ยวกับ i -Mo
สะท้อนซ้ำ (สั่นสะเทือน - based) ลำโพง
3.5 mm สัญญาณเสียง
12W audio output
หน่วยความจำภายใน 2 GB
Built - in MP3 Player
วิทยุ FM
ที่มา : mirakar

Sony VAIO Y และ Z Series เตรียมเสริมด้วยฟีเจอร์พิเศษ Share My Connection เชื่อมต่อผ่านทั้งโลกโน้ตบุ๊กและสมาร์ทโฟน


Sony VAIO Y และ Z Series เตรียมเสริมด้วยฟีเจอร์พิเศษ Share My Connection เชื่อมต่อผ่านทั้งโลกโน้ตบุ๊กและสมาร์ทโฟน อันนี้นับว่าเป็นประโยชน์มากสำหรับโน้ตบุ๊กทั่วๆไป เหมือนกันกับพวกสมาร์ทโฟนต่างๆ อย่าง Palm Pre และอื่นๆ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มในส่วนของฟีเจอร์ Share My Connect (SMC) เข้ามาทั้ง Sony VAIO รุ่น Z และ Y ซึ่งก็คาดว่าน่าจะพอเดากันออกนะ ด้วยเพียงการเชื่อมต่อ WiFi ก็จะสามารถทำให้ใช้ฟีเจอร์นี้ได้ ในอเมริกานั้น จะขายพวกโน้ตบุ๊กอัลตร้าพอร์ตเทเบิลพร้อมกับสัญญาณโทรศัพท์มือถือจากเครือข่ายของ Verizon อยู่แล้ว โดยจะสามารถแชร์ได้สูงสุดถึง 5 เครื่องด้วยกัน แต่ยังไม่มีการเปิดเผยในส่วนของราคาสำหรับฟีเจอร์นี้ว่าต้องเพิ่มเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่แพงมากและสามารถแชร์กับพวก Gadget อื่นๆได้ด้วยเพียงใช้บอร์ดแบรนด์ของโทรศัพท์มือถือก็น่าสนใจอยู่ แต่สำหรับเรื่อง OS นั้นไม่มีปัญหาเพราะทั้ง Mac และ Windows ได้รองรับฟีเจอร์นี้มานานมากๆแล้ว ทาง Sony เองก็ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายที่สุดอยู่แล้ว และตอนนี้ก็มีข่าวอัพเดทเกี่ยวกับรุ่น Sony VAIO Y Series ที่เพิ่มทั้งสีสันมากมายและอัพเกรด CPU ใหม่ล่าสุดจาก Intel Core i3 และ i5 ULV ส่วนรุ่น VAIO Z ยังไม่มีข่าวคราว ชทรูปด้านล่างได้เลย

ที่มา notebookspec

มือถือ Samsung One TV ไม่พลาดบอลโลกทุกนัดสำคัญ


มือถือ Samsung One TV ไม่พลาดบอลโลกทุกนัดสำคัญ
ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก จะมีอะไรดีไปกว่าการที่เราสามารถดูฟุตบอลนัดสำคัญได้ในทุกๆ ที่ที่เราเดินทาง...วันนี้ซัมซุงจึงปล่อยซัมซุง วัน ทีวี โทรศัพท์มือถือดูทีวีได้ออกสู่ตลาด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่ไม่ต้องการพลาดดูฟุตบอลแมทช์สำคัญ ไม่ว่าคุณจะรถติดอยู่บนท้องถนน หรือนั่งเครียดอยู่ในห้องประชุม

และเนื่องจากว่าชื่อรุ่น Samsung One TV เป็นรุ่นน้องต่อยอดของ Samsung Oneที่เปิดตัวไปตอนนี้ปีที่ผ่าน เลยทำให้สเปกการใช้งานต่างๆ ไม่มีความแตกต่างกันเลย นอกเหนือไปจากฟังก์ชันดูทีวีได้ และความจุแบตเตอรีที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการรับชมทีวี
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าซัมซุง วัน ทีวี เป็นรุ่นน้องของซัมซุง วันดังนั้นอินเตอร์เฟสที่ใช้จึงเป็นตัว TouchWiz UI รุ่นเก่า ที่มีแถบวิตเจ็ทซ่อนอยู่ด้านซ้ายมือของหน้าจอ การปลดล็อกหน้าจอทำได้โดยกดปุ่มปลดล็อกบนหน้าจอ หรือกดปุ่มปลดล็อกด้านขวามือค้างไว้

ซัมซุง วัน ทีวี นั้นมีดีไซน์โค้งมน และมีสีดำรอบตัวเครื่อง พื้นผิวด้านหลังมีพื้นผิวที่ไม่เรียบ ซึ่งจะช่วยป้องการการลื่นหลุดมือ โดยมีขนาดตัวเครื่อง 103.8 x 56 x 12.8 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 91 กรัม

ด้านหน้า - ยังคงมีดีไซน์เหมือนซัมซุง วันราวกับแกะ แต่ต่างกันที่ซัมซุง วัน ทีวี มีโลโก้ Samsung อยู่ด้านบน ใกล้ลำโพงสนทนา และมีโลโก้ Mobile TV อยู่ด้านล่างหน้าจอ โดยหน้าจอที่ใช้เป็นหน้าจอ TFT-LCD แบบสัมผัส ขนาดกว้าง 2.8 นิ้ว ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล

Pantech Ease ทัชโฟนสำหรับคนชอบแชท


Pantech Ease ทัชโฟนสำหรับคนชอบแชท
แพนเทคเปิดตัว Pantech Ease โทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัส พร้อมแผงแป้นพิมพ์ QWERTY ใช้งานโดยการเลื่อนออกทางด้านข้าง เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการโทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัส แต่พิมพ์ข้อความได้สะดวก Pantech Ease รองรับเครือข่าย HSDPA 7.2 Mbps จอแสดงผล กว้าง 3.2 นิ้ว การเชื่อมต่อ Bluetooth ระบบนำทาง A-GPS กล้องถ่ายรูป 2 ล้านพิกเซล และ รองรับการ์ดหน่วยความจำ microSD (โทรศัพท์มือถือ Pantech Ease วางจำหน่ายในอเมริกา สำหรับลูกค้า AT&T)

ที่มา siamphon

Samsung เผยโฉม กรอบรูปดิจิตอลพร้อมโทรศัพท์บ้านไร้สายในตัว SP


Samsung เผยโฉม กรอบรูปดิจิตอลพร้อมโทรศัพท์บ้านไร้สายในตัว SP - M100 ใช้หน้าจอแสดงผล LCD ระบบสัมผัส กว้าง 7 นิ้ว SP-M100 ไม่เพียงแค่โชว์ภาพให้เห็นเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีลูกเล่นความสามารถมากกว่านั้น สร้างรายชื่อ เบอร์โทร และรูปภาพผู้ติดต่อให้สะดวกต่อการใช้งานโทรออกเพียงแค่แตะไปที่ภาพบุคคลนั้นๆ รองรับไฟล์ MP3 ให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินกับเพลงโปรด มีหน่วยความจำภายใน 2 GB และเพิ่มเติมหน่วยความจำด้วยการ์ด SD มีช่องเสียบ USB

SP - M100 วางจำหน่ายในเกาหลี มีให้เลือก 2 สี คือ สีขาว และสีดำ ในราคา 289,000 วอน หรือ ประมาณ 7,745 บาท

ที่มา siamphon

เผยสเปก iPhone 4 มาพร้อมแรมขนาดเพิ่มขึ้นเท่าตัว


เผยสเปก iPhone 4 มาพร้อมแรมขนาดเพิ่มขึ้นเท่าตัว
โทรศัพท์มือถือ iPhone รุ่นล่าสุดที่กำลังจะเปิดจำหน่ายวันพฤหัสบดีหน้านี้ จะมาพร้อมแรมขนาด 512MB หรือมากกว่า iPhone 3GS และ iPad เท่าตัวเลยทีเดียว...เป็นที่ทราบกันดีว่า สตีฟ จ๊อบส์ นั้น มักจะไม่ค่อยลงรายละเอียดลึกเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ของตนสักเท่าไหร่ แต่ล่าสุดบรรดาเหล่านักพัฒนาได้ออกมากล่าวเพิ่มเติมให้รายละเอียดเกี่ยวกับ iPhone 4 ที่กำลังจะเปิดจำหน่ายแล้ว โดยควันหลงในส่วนของการพูดคุยของเหล่านักพัฒนาเมื่องาน WWDC 2010 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดของ iPhone 4 ที่ลงลึกกว่าเดิม โดย iPhone 4 ที่จะเปิดจำหน่ายในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ จะมีแรมขนาด 512MB หรือ 2 เท่าของขนาดแรมที่ใช้ใน iPhone รุ่นก่อนหน้า หรือ iPhone 3GS และ Tablet ล่าสุด iPad ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ 3 เดือนก่อน ซึ่งทั้งคู่จะมีขนาดแรมแค่เพียง 256MB เท่านั้น และยังมากกว่า iPhone รุ่นดั้งเดิม และ iPhone 3G ถึง 4 เท่าด้วยกัน ซึ่งทั้งสองโมเดลมีขนาดแรมเพียง 128MB เท่านั้น นอกจากนี้ iPhone 4 ยังมีขนาดเมมโมรี่ที่เพิ่มขึ้น และยังจะเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกที่จะรองรับการใช้งาน multitasking ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์หลักของระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดอย่าง iOS 4 ที่จะมาพร้อม iPhone 4 อีกด้วย

ที่มา : Cnet , Pantip

Youtube เพิ่มบริการ ตัดต่อวีดีโอออนไลน์ !!!

Youtube เพิ่มบริการ ตัดต่อวีดีโอออนไลน์ !!!
โปรแกรมตัดต่อวีดีโอบนเว็บนั้นได้อยู่ในระบบการทำงานของYoutube ซึ่งผู้พัฒนาได้ใช้ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ Java Script ที่ได้ผลลัพธ์ออกมาเรียบง่ายและดูดีเป็นอย่างมาก

ช่วยในการตัดต่อวีดีโอแบบพื้นฐานที่สามารถเพิ่มรสชาติในการดูวีดีโอได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย
YouTube Video Editor Tutorial

คุณสมบัติที่ทีมงานพัฒนาระบบการตัดต่อวีดีโอนั้นจะดีอย่างไร เพื่อนๆ สามารถเข้าไปทดลองใช้งานได้ที่ Editor จาก Link นี้ได้เลยครับ ซึ่งผู้ใช้บริการจะต้องทำการ Login เพื่อใช้บริการก่อนนะครับ

ที่มา : mashable

iPhone 4 แรงจนหยุดไม่อยู่ ยอดสั่งจองวันแรกทะลุ 600,000 เครื่อง


iPhone 4 แรงจนหยุดไม่อยู่ ยอดสั่งจองวันแรกทะลุ 600,000 เครื่อง
ความแรงของ iPhone 4 ยังคงแรงไม่มีท่าทีลดลงเลย จนล่าสุดผลออกมาว่าหลังจากที่ Apple และ AT&T ได้เปิดให้บริการในการสั่งจองผ่านทางอินเทอร์เน็ต ภายในวันเดียวก็พบว่ามียอดการสั่งจองสูงถึง 600,000 (หกแสน)เครื่องเลยทีเดียว

ซึ่งพบว่ามียอดการสั่งจองมากกว่าการเปิดตัวของ iPhone 3GS ถึง 10 เท่าเลยทีเดียว ซึ่งเพียงแค่ตัวเลขนี้ก็สามารถสรุปผลได้เลยว่า iPhone 4 เป็นมือถือสมาร์ทโฟนที่แรงที่สุดในรอบปีนี้เลยก็ว่าได้ครับ

ถึงแม้ว่าในการเปิดสั่งจองในครั้งนี้จะพบกับปัญหาของผู้ที่สนใจสั่งจองอย่างมากมายทำให้ระบบล่มกันเป็นครั้งคร่าว แต่ก็สามารถแก้ไขและให้บริการได้ปกติตามเดิมครับ
Phone 4 แรงจนหยุดไม่อยู่ ยอดสั่งจองวันแรกทะลุ 600,000 เครื่อง
ที่มา http://techxcite.com/2010/view/2924

ASUS Eee Pad แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดจาก ASUS


ASUS Eee Pad EP101TC จอ 10 นิ้ว

ASUS Eee Pad EP121 จอ 12 นิ้ว ระบบปฏิบัติการ Windows 7 Home Premium

ASUS Eee Tablet อุปกรณ์พกพาสไตล์เครื่องอ่านอีบุ๊กที่ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถจดบันทึกแบบดิจิตอลได้

ตารางราคา iPad ในวันเปิดตัว ซึ่งแสดงไว้บนเวทีพร้อมสตีฟ จ็อบส์
ASUS Eee Pad แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดจาก ASUS
อัสซุส (Asustek Computer) เปิดตัว 3 อุปกรณ์หน้าจอสัมผัสตระกูล Eee รุ่นใหม่ สองรุ่นเป็น "Eee Pad" ที่มาพร้อมซอฟต์แวร์วินโดวส์ (Windows) อีกหนึ่งเป็น "Eee Tablet" แท็บเล็ตขาวดำสไตล์เครื่องอ่านอีบุ๊กหรือ e-reader ที่มาพร้อมฟังก์ชันจดบันทึก หวังบุกตลาดกลุ่มนักเรียนเป็นหลัก
Eee Pad มาพร้อมหน้าจอ 2 ขนาดคือ 10 นิ้วและ 12 นิ้ว โดยรุ่น 12 นิ้วมีชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการว่า Eee Pad EP121 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 7 Home Premium ภายในติดตั้งชิป Intel Core 2 Duo จุดประสงค์คือการใช้งานอินเทอร์เน็ต ชมวิดีโอ ใช้งานมัลติมีเดีย และงานคำนวณเล็กน้อย

รายงานระบุว่า ผู้ใช้สามารถป้อนข้อมูลเข้าสู่อุปกรณ์ได้โดยการใช้ซอฟต์แวร์คีย์บอร์ดที่ผู้ใช้จะสามารถจรดนิ้วลงบนหน้าจอสัมผัสได้เลย หรือที่เรียกว่า on-screen keyboard รวมถึงสามารถพิมพ์ได้บนคีย์บอร์ดเสริมที่เชื่อมต่อกับ Eee Pad ได้ไม่ต่างจากไอแพด (iPad) แท็บเล็ตของแอปเปิล

ที่สำคัญ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ Eee Pad ยังนานต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง ไม่แพ้ไอแพดเช่นกัน

สำหรับรุ่น 10 นิ้ว อัสซุสใช้ชื่อรุ่นว่า ASUS Eee Pad EP101TC ยังไม่มีคุณสมบัติเครื่องที่แน่นอนแต่ข้อมูลเบื้องต้นยืนยันว่าหนาเพียง 12.2 มม. น่้ำหนัก 675 กรัม มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows Embedded Compact 7 ออกแบบมาเพื่อการใช้งานนอกพื้นที่ ซึ่งเน้นความบางและเบาเป็นพิเศษ

รุ่นสุดท้ายที่อัสซุสเรียกเสียงฮือฮาในครั้งนี้คือ Eee Tablet อุปกรณ์พกพาสไตล์เครื่องอ่านอีบุ๊กที่ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถจดบันทึกแบบดิจิตอลได้นอกเหนือจากการอ่าน โดยอัสซุสตั้งใจพัฒนาให้มีความพิเศษกว่าการเป็นเครื่องมือเพื่อการศึกษาธรรมดาทั่วไป ด้วยการเพิ่มกล้องดิจิตอลความละเอียด 2 ล้านพิกเซลเพื่อให้เยาวชนนักศึกษาสามารถถ่ายภาพประกอบการจดบันทึก เช่น สไลด์ในห้องเรียน เป็นต้น

ASUS Eee Tablet สามารถเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้ผ่านพอร์ท USB หรือการ์ดหน่วยความจำ Micro SD โดยนักเรียนจะสามารถใช้ปากกาสไตลัส (stylus) เพื่อจดโน้ตแบบดิจิตอลลงบนหน้าจอสัมผัสได้เลย ซึ่งอัสซุสการันตีว่าออกแบบมาให้ผู้ใช้มีความรู้สึกเหมือนได้เขียนบนกระดาษจริงๆ

ASUS Eee Tablet มีกำหนดการวางตลาดเดือนกันยายนปี 2010 สนนราคาระหว่าง 199 และ 299 เหรียญสหรัฐ ชิงวางตลาดก่อน ASUS Eee Pad ที่มีคิวบุกตลาดไตรมาสแรกปี 2011 สนนราคาระหว่าง 399 และ 499 เหรียญสหรัฐ
ASUS Eee Pad แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดจาก ASUS
ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

โตชิบาปูทางแจ้งเกิดโทรศัพท์มือถือความจุ 128GB

โตชิบาปูทางแจ้งเกิดโทรศัพท์มือถือความจุ 128GB อุปกรณ์เคลื่อนที่นานาชนิดทั้งสมาร์ทโฟน กล้องดิจิตอล และอุปกรณ์มัลติมีเดียพกพากำลังจะมีโอกาสเพิ่มความจุเป็น 128GB แล้วเมื่อโตชิบาประเทศญี่ปุ่น (Toshiba Japan) ประกาศแผนเปิดตัวแนนแฟลชเมมโมรี (NAND Flash memory) ความจุ 128GB เตรียมชิมลางตลาดญี่ปุ่นก่อนใคร
ปัจจุบัน สมาร์ทโฟนยอดฮิตอย่างไอโฟนนั้นมีหน่วยความจำสูงสุด 32GB เท่านั้น และความจุ 128GB นั้นเป็นจำนวนความจุที่มากกว่าคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าบางรุ่นเสียอีก

สื่อมวลชนวงการไอทียกให้โตชิบาเป็นเจ้าของสถิติแนนแฟลชเมมโมรี่ที่มีความจุสูงที่สุดในโลกด้วยตัวเลข 128GB ข้อมูลระบุว่าแนนแฟลชเมมโมรี่ขนาด 128GB นี้ประกอบด้วยชิปแนนแฟลช 64Gbit (8 GB) จำนวน 16 ตัว ใช้เทคโนโลยีการผลิต 32 นาโนเมตร ขนาดชิปคือ 17×22x1.4 มม.

โตชิบาประกาศว่า ผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่ใช้หน่วยความจำ 128GB นี้จะเริ่มปรากฏตัวให้เห็นในเดือนกันยายน คาดว่าการผลิตเต็มรูปแบบหรือ mass production จะเริ่มขึ้นได้ในไตรมาส 4 ของปี 2010

นอกจาก 128GB โตชิบายังมีแผนเปิดตัวต้นแบบโทรศัพท์มือถือที่ใช้แนนแฟลชความจุ 64GB ในเดือนสิงหาคมด้วย

ชิปหน่วยความจำแนนแฟลชเมมโมรี่ คือหน่วยความจำที่นิยมใช้ในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคทั้งกล้องดิจิตอล สมาร์ทโฟน เครื่องเล่นมัลติมีเดียพกพา การสำรวจของบริษัทไอซัปพลาย (iSuppli Corp) บริษัทวิจัยตลาดของสหรัฐฯสามารถยืนยันได้ว่า ชิปแนนแฟลชเมมโมรี่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากผลการสำรวจที่ระบุตัวเลขการขยายตัวของตลาดในปี 2009 อยู่ที่ 64 เปอร์เซ็นต์ มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1.08 หมื่นล้านดอลลาร์

นี่คือความเคลื่อนไหวล่าสุดของยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์แดนอาทิตย์อุทัยอย่างโตชิบาหลังจากประกาศลดกำลังการผลิตชิปหน่วยความจำแนนแฟลชลง เพื่อสางปัญหาสินค้าล้นตลาดที่เกิดบนภาวะเศรษฐกิจซบเซา วิกฤติความต้องการในตลาดที่ชะลอตัว และพิษราคาชิปหน่วยความจำตกต่ำ ทั้งที่โตชิบาได้ชื่อว่าผู้ผลิตชิปหน่วยความจำแนนแฟลชแถวหน้าของโลก และได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายการผลิตให้รองรับความต้องการมหาศาลในตลาด

ครั้งนั้นโตชิบาระบุว่าจะลดกำลังการผลิตชิปหน่วยความจำลงราว 30 เปอร์เซ็นต์ โดยจะลดการผลิตที่โรงงานใหญ่ของโตชิบา ขณะเดียวกันก็จะหยุดการผลิตในโรงงานผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์แห่งอื่นๆลงชั่วคราว พร้อมกับลอยแพพนักงานชั่วคราว 160 ตำแหน่งในโรงงานบนเกาะคิวชูตอนใต้ด้วย

คู่แข่งตัวฉกาจของโตชิบาคือซัมซุง ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สัญชาติเกาหลีใต้

Company Related Links :
Toshiba
ที่มา http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9530000084311

HD ปฏิวัติวงการทีวีไทยรอบใหม่ พลิกโฉมวงการทีวี สะเทือนถึงวงการโฆษณา

HD ปฏิวัติวงการทีวีไทยรอบใหม่ พลิกโฉมวงการทีวี สะเทือนถึงวงการโฆษณา
จ้องมองทีวีจอตู้ของคุณไว้ อีกไม่นานจะกลายเป็นของโบราณ

* โลกแห่งความคมชัด High Definition เคลื่อนเข้าปฏิวัติทุกจอสี่เหลี่ยม

* พลิกโฉมไล่ตั้งแต่วงการ AV สถานีโทรทัศน์ ผู้ผลิตรายการทีวี ไปจนถึงวงการโฆษณา

* ค่ายเกาหลีชิงพื้นที่ ส่ง LED TV ปฏิวัติ TV ดิจิตอล ไล่ตามโซนี่ที่บุกเบิก HD World ไปก่อนหน้า

นับตั้งแต่โทรทัศน์เริ่มออกอากาศครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อกลางปี พ.ศ.2498 สื่อสาระและบันเทิงจอตู้ได้กลายเป็นสื่อทรงอิทธิพลที่สุดกับวงการบันเทิง และการเมือง ต่อเนื่องมาจนถึงปี พ.ศ.2517 เกิดการปฏิวัติวงการโทรทัศน์ครั้งใหญ่ เมื่อภาพที่เคยออกอากาศในระบบขาว-ดำ ถูกยกระดับขึ้นเป็นการออกอากาศระบบสี อิทธิพลที่มีอยู่ในวงการบันเทิง และการเมือง จึงถูกขยายไปสู่การสร้างประสิทธิภาพในด้านการตลาดให้กับสินค้าต่างๆ

แต่นับจากนี้ วงการโทรทัศน์ กำลังก้าวสู่การปฏิวัติครั้งใหญ่ จากทีวีระบบอะนาล็อก ที่มีจำนวนน้อยช่อง ให้ภาพชัดอยู่ในระดับธรรมดาๆ มาเป็นทีวีระบบดิจิตอล ที่สามารถรองรับช่องรายการนับร้อยช่อง และให้ภาพที่คมชัดสุดๆ ที่เรียกว่า High Definition หรือ HD

มติจากการประชุม Asian Digital Broadcast (ADB) ที่มีสมาชิกคือประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมถึงประเทศไทย เกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อพัฒนา Digital Terrestrial Broadcasting ในกลุ่มประเทศอาเซียน เมื่อครั้งการประชุม Ninth Conference of the ASEAN Ministers Responsible for Information (การประชุม AMRI ครั้งที่ 9) เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2550 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย มีประเด็นหลักของการประชุม ได้แก่ การหารือความร่วมมือด้านการกระจายเสียงและภาพระบบดิจิตอล (ASEAN Digital Broadcasting Cooperation) ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอในการปรับเปลี่ยนสู่การกระจายเสียงและภาพระบบดิจิตอลสำหรับภูมิภาคอาเซียนในภาพรวม โดยใช้ระบบ DVB-T เป็นระบบมาตรฐานดิจิตอลของอาเซียน และรับทราบกำหนดวันหยุดออกอากาศด้วยระบบอะนาล็อก ในปี ค.ศ.2015 หรือปี พ.ศ.2558

เขมทัตต์ พลเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายการตลาด บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เวลานี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงการตื่นตัวกับเทคโนโลยี High Definition หรือ HDโดยส่วนที่มีความตื่นตัวมากคือตัวโปรดักส์ ที่สินค้าที่เป็นเทคโนโลยี HD ออกวางตลาดมากมาย ทั้งโทรทัศน์ กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ ที่พัฒนาไปถึงระดับ Full HD เครื่องเล่นดีวีดีบลูเรย์ จนถึงโทรศัพท์มือถือที่มีจอภาพเป็น Full HD แล้ว เหลือเพียงในส่วนของระบบการออกอากาศเท่านั้น ที่ยังไม่เป็น HD อย่างเต็มตัว แต่เชื่อว่าผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ทุกราย และสถานีโทรทัศน์ทุกช่องกำลังเตรียมการอยู่ เนื่องจากต้องรองรับช่วงเวลาในอีก 5 ปีข้างหน้า ที่อาเซียนจะเปลี่ยนจากระบบ Territorial การออกอากาศจากสถานีภาคพื้น มาเป็นระบบดิจิตอลทั้งหมด ซึ่งก็จะไปสัมพันธ์กับวงการเทเลคอม ที่จะก้าวสู่ระบบเครือข่าย 3.9G หรือ 4G ตามที่ กทช. ได้วางแผนไว้

'หากวงการโทรทัศน์เปลี่ยนระบบเป็นดิจิตอล HD เชื่อว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มอีกมหาศาล นอกจากเครื่องรับโทรทัศน์ที่ต้องมีการเปลี่ยนจากจอตู้มาเป็นจอแอลซีดี หรือแอลอีดี อีกส่วนสำคัญคือวงการโฆษณา บรรดาเอเยนซีโฆษณา ทำโฆษณาขายสินค้า จะต้องทำงานที่คุณภาพมากขึ้น เพราะต่อไปต้องถ่ายทำด้วยระบบ HD ภาพที่ออกมาจะชัดเจนสมจริง ดึงดูดใจผู้บริโภคได้มากขึ้น สร้างมูลค่าเพิ่มในวงการโฆษณา สินค้าสามารถสร้างยอดขายได้มากขึ้น ซึ่งหากวงการโทรทัศน์เข้ามาสู่โลก HD ต่อไปธุรกิจอื่นๆ ก็จะมาเป็น HD กันทั้งหมด วันนี้ในร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ามีสินค้า HD วางขายมากมาย กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ แม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือยังเป็น HD สิ่งเหล่านี้เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต เทคโนโลยี DVB-T ที่จะเป็นระบบมาตรฐานของอาเซียน ทำให้เราสามารถดูโทรทัศน์ที่ใดก็มีความชัดเจนสมจริงเหมือนกัน ไม่ว่าจะในรถยนต์ หรือทีวีโมบาย ทุกอย่างจะคมชัดหมด'

ทรูวิชั่นส์ชิงออกตัวช่อง HD
มุ่งครองเจ้าทีวีดิจิตอลเมืองไทยใน 3 ปี

ในส่วนของเจ้าของสถานีโทรทัศน์ แม้วันนี้สถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี จะอยู่ในช่วงการเตรียมตัวพัฒนาสู่การออกอากาศในระบบดิจิตอล แต่ค่ายโทรทัศน์บอกรับสมาชิกรายใหญ่ ทรูวิชั่นส์ ที่มีพื้นฐานในการออกอากาศด้วยระบบดิจิตอลผ่านดาวเทียมอยู่ก่อนแล้ว ก็ก้าวไปสู่เทคโนโลยีดิจิตอล High Definition เป็นรายแรก

ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงเทคโนโลยีการรับชมใหม่ล่าสุด TrueVisions High Definition หรือ TrueVisions HD ที่เปิดให้บริการ เพื่อเจาะกลุ่มสมาชิกระดับบน แพลทินัม และโกลด์ แพกเกจ โดยเฉพาะว่า เป็นระบบการออกอากาศและรับสัญญาณภาพช่องรายการแบบ HD 1080 ที่ให้ความละเอียดคมชัดเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง ส่งสัญญาณภาพออกอากาศแบบ Wide Screen เพิ่มพื้นที่ภาพเพื่อการรับชมที่เต็มตา พร้อมระบบเสียงคุณภาพรอบทิศทาง โดยทรูวิชั่นส์จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน 2 ช่องรายการในหมวดที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ TrueSport HD ช่อง 111 และ HBO HD ช่อง 112

ศุภชัยเชื่อมั่นว่าในอนาคต ระบบ HD จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในประเทศไทยไปอย่างสิ้นเชิง คาดว่าภายใน 5-8 ปี ช่องรายการโทรทัศน์ในประเทศไทย 90% จะเปลี่ยนเป็นการออกอากาศด้วยระบบ HD

TrueVisions HD ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานในการเข้ายึดครองตลาดทีวีดิจิตอลเมืองไทยในอนาคต เพราะสัญญาสัมปทานโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ที่ทรูวิชั่นส์มีกับ อสมท จะหมดลงในปี พ.ศ.2557 แม้ในส่วนของสัญญาสัมปทานเคเบิลทีวียังอยู่ แต่ทรูวิชั่นส์ดูเหมือนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทำตลาดในส่วนเคเบิลตามสายเท่าไรนัก แต่กลับมาโฟกัสที่ธุรกิจจานดาวเทียม ออกจานแดงมาจำหน่าย ได้สมาชิกเพิ่มขึ้นรวดเร็ว แต่ในเร็วๆ นี้ ก็เตรียมจะเปิดให้บริการฟรีทูแอร์ ที่จะเพิ่มช่องออกเป็น 30-40 ช่อง เท่ากับทรูวิชั่นส์จะเป็นเจ้าตลาดทีวีช่องใหม่ในอีก 3-4 ปี เมื่อหมดสัญญากับ อสมท ก็ขยับจากสัมปทาน อสมท ไปสู่การให้บริการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม กลายเป็นสถานีโทรทัศน์ดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเวลานี้สามารถสร้างรายได้มากกว่าเคเบิล เพราะสามารถขยายสมาชิกได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ช่อง 3 ช่อง 7 หรือโมเดิร์นไนน์ แม้จะมีการปรับการออกอากาศเป็นดิจิตอล แต่ก็มีอยู่ช่องเดียว ขณะที่ทรูวิชั่นส์ทำล่วงหน้ามาแล้ว หลายปี ขณะนี้ทรูวิชั่นส์ เปิดช่อง HD 2 ช่อง กีฬากับ HBO ต่อไปอาจจะเปิดอีกก็ได้ เพราะมีความพร้อมตั้งแต่ระดับไฮเอนด์ไปจนถึงรากหญ้า นี่คือการวางแผนของทรูวิชั่นส์ ที่นำเรื่องเทคนิคมาผสมผสานกับการตลาด และผสมผสานกับธุรกิจของตน

โซนี่ สร้างภาพผู้นำ
บุกเบิกอาณาจักร HD TV

ปัจจุบัน HD TV เป็นที่แพร่หลายในประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะประเทศที่มีการส่งสัญญาณทีวีในระบบดิจิตอล Full HD เช่นที่สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ซึ่งประชาชนที่ใช้ HD TV เท่านั้นที่จะได้รับสัญญาณภาพแบบ Full HD ซึ่งให้รายละเอียดความคมชัดสมจริง ส่วนทีวีรุ่นเก่าที่มีความละเอียดไม่ถึงระดับ Full HD ก็ไม่ได้รับความนิยม และค่อยๆ หายไปจากตลาด ทั้งนี้เป็นผลจากการที่สัญญาณไฮเดฟฟินิชั่นเป็นระบบ 16:9 หรือไวด์สกรีน และเมื่อใช้ทีวีรุ่นเก่าซึ่งเป็นระบบ 4:3 จะทำให้ภาพด้านบนและด้านล่างถูกบีบ สัญญาณภาพที่ได้จึงมีขนาดเล็กลง

สำหรับตลาดเมืองไทย การที่จะให้แต่ละสถานีมีการส่งสัญญาณดิจิตอลในระดับ Full HD ได้นั้นจะต้องรอท่าทีการสนับสนุนจาก กสช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ) ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา อีกทั้งปัญหาบ้านเมืองทำให้ภารกิจหลักของ กสช.ชุดที่จะเกิดขึ้นต้องมาตามสะสางและจัดระเบียบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ให้ถูกต้องตามระเบียบ เช่น เรื่องของทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวีที่มีการโฆษณาทำให้ผิดวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งเพื่อเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้ ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่างพม่า เวียดนาม มีการกำหนดท่าทีที่ชัดเจนของการปรับระบบการส่งสัญญาณให้เป็น Full HD ในอนาคต

สำหรับตลาดเมืองไทยต้องถือว่าค่ายโซนี่เป็นค่ายแรกที่พยายามสร้างตลาด HD ให้เกิดขึ้นอย่างจริงจัง โดยนโยบาย HD World ถือเป็นนโยบายที่โซนี่ใช้ทั่วโลกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพื่อแนะนำให้ผู้บริโภคได้เห็น ได้รับรู้ และสัมผัสถึงประสบการณ์ในการรับชมภาพและเสียงแบบ Full HD

แม้ยังไม่เห็นวี่แววว่าประเทศไทยจะมีการส่งสัญญาณในระบบ Full HD เมื่อไร แต่เป็นความจำเป็นของโซนี่ที่จะต้องสร้างตลาด Full HD ให้เกิดขึ้นเสียก่อน เนื่องจากโซนี่ได้สร้างเทคโนโลยีเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์ที่ให้ความละเอียดของภาพในระดับ Full HD แต่ถ้าใช้เครื่องรับสัญญาณที่ไม่รองรับ Full HD ก็ไม่เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังต้องติดตั้งระบบเสียงให้เป็น 5.1 แชนแนลเพื่อการรับฟังเสียงที่สมจริง เพราะฉะนั้นโซนี่จึงต้องทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้ HD TV เสียก่อนที่จะลอนช์เครื่องเล่นบลูเรย์ดิสก์ รวมถึงเกมเพลย์สเตชั่น 3 ซึ่งต้องการทีวีที่รองรับสัญญาณ Full HD เช่นกันจึงจะได้อรรถรสในการชมเพราะถ้าใช้ทีวีรุ่นเก่าก็จะไม่ได้ภาพที่ให้รายละเอียดสมจริง

โซนี่สร้างอาณาจักร HD World ในขณะที่ยังไม่มีการส่งสัญญาณในระบบ Full HD ด้วยการลอนช์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่จะมาเชื่อมต่อความเป็น Full HD ตั้งแต่กล้องดิจิตอล กล้องวิดีโอ ล่าสุดโซนี่อีริคสันก็มีการทำโทรศัพท์มือถือที่สามารถบันทึกภาพวิดีโอในระดับ Full HD ได้

โซนี่ยังมีการทำตลาด Full HD ไปสู่กลุ่มโปรเฟสชันนัล เช่น โปรดักชั่นเฮาส์ โรงภาพยนตร์ เพื่อเป็นการรองรับอนาคตเพราะเมื่อใดที่มีการเผยแพร่สัญญาณเป็นระบบไฮเดฟฟินิชั่น ข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในระบบเดิมก็จะใช้ไม่ได้ ทำให้ผู้ผลิตรายการทีวีหลายรายเริ่มหันมาบันทึกข้อมูลด้วยระบบไฮเดฟฟินิชั่นมากขึ้น เช่นค่ายกันตนาซึ่งร่วมกับโซนี่สร้าง HD Training Center เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฮับในการผลิตภาพยนตร์ระดับไฮเดฟฟินิชั่นเพื่อการส่งออก นอกจากนี้ยังมีการจัดสัมมนาเพื่อโน้มน้าวให้สถานีโทรทัศน์และผู้ผลิตรายการหันมาใช้เทคโนโลยีไฮเดฟฟินิชั่นเพื่อรองรับอนาคต โดยมีการชี้ให้เห็นถึงเทรนด์ของตลาดว่าผู้บริโภคมีการรับชมด้วย HD TV มากขึ้น

ค่ายเกาหลีพลิกโฉมสู่ดิจิตอล
ส่ง LED TV ต่อเน็ตได้

การแข่งขันในตลาดทีวีที่รุนแรง ส่งผลให้เทคโนโลยีจอภาพผลัดใบจากทีวีจอแก้วหรือซีอาร์ทีทีวีมาสู่แอลซีดีทีวี ซึ่งมีความละเอียด 2 ระดับคือ HD Ready กับ Full HD ทว่าปัจจุบันเทคโนโลยีจอภาพกำลังเปลี่ยนไปสู่ LED TV ซึ่งมีความละเอียดระดับ Full HD โดยงานนี้ยักษ์แดนโสมอย่างซัมซุงได้ชิงภาพลักษณ์การเป็นผู้นำในการลอนช์ LED TV ก่อนค่ายอื่นๆ ในตลาดเมืองไทย พร้อมอวดโฉมเทคโนโลยีแห่งโลกยุคดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพในการเป็นอินเทอร์เน็ตทีวี

โดยในปีที่ผ่านมาซัมซุงมีการลอนช์ LED TV 3 ซีรีส์ ประกอบด้วย รุ่น B8000 เจาะตลาดพรีเมียม B7000 ชูฟังก์ชั่นในการเชื่อมต่อ และอินเทอร์เน็ตทีวี สุดท้ายรุ่น B6000 มีขนาดหน้าจอ 3 ขนาดคือ 40 นิ้ว 46 นิ้ว และ 50 นิ้ว มีราคาเริ่มต้นที่ 79,990 บาท สูงสุดคือ 174,990 บาท

แม้หลายๆ ค่ายจะมีเทคโนโลยี LED TV แต่ก็ยังไม่มีใครนำเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ซัมซุงซึ่งพยายามสร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำในตลาดพรีเมียมจึงใช้โอกาสดังกล่าวในการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ตัดหน้าคู่แข่ง เหมือนเช่นที่เคยลอนช์เครื่องเล่นบลูเรย์ดิสก์ตัดหน้าโซนี่ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งทำให้ซัมซุงได้ภาพลักษณ์ในเรื่องของการเป็นผู้นำนวัตกรรมใหม่ๆ ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในเมืองไทย

ซัมซุงสร้างความแตกต่างด้วยการบรรจุความบันเทิงไว้ใน LED TV ของซัมซุง ซึ่งประกอบด้วยแกลเลอรีภาพ รายการทำอาหาร สุขภาพ รายการเด็ก และเกม ซึ่งลูกค้าสามารถดาวน์โหลดข้อมูลใส่ทีวีเพิ่มเติมได้ อีกทั้งยังรองรับการเป็นอินเทอร์เน็ตทีวีด้วย เพื่อเพิ่มอรรถรสความบันเทิงให้กับผู้บริโภค ทว่าในช่วงแรกยังจำกัดจำนวนเว็บไซต์ที่จะเข้าไปดู เช่น สามารถดูวิดีโอยูทูบได้ ดูหุ้นบนยาฮูได้ ตรวจสอบการพยากรณ์อากาศได้

นอกจากนี้ซัมซุงยังชูเทคโนโลยี DLNA เพื่อให้อุปกรณ์ความบันเทิงต่างๆสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายวิดีโอ คอมพิวเตอร์ และแฟลตพาแนลของซัมซุง สามารถใช้งานเชื่อมต่อกันได้

LED TV แตกต่างจาก LCD TV ตรงที่การใช้เทคโนโลยีแสงสว่าง LED TV ใช้หลอด LED ส่วน LCD TV จะใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งให้แสงสว่างที่น้อยกว่า มีอายุการใช้งานที่สั้นกว่า และมีจุดมืดระหว่างหลอดฟลูออเรสเซนต์ ในขณะที่ LED TV นอกจากจะมีคุณสมบัติเหนือกว่า LCD TV แล้ว ยังรวมเอาจุดเด่นของพลาสม่าทีวีมาไว้ด้วยกันโดยเฉพาะในส่วนของเฉดสีมืด และความคมชัดของภาพเคลื่อนไหว หรือ Motion Picture

ทั้งนี้ LED TV ยังแบ่งย่อยได้เป็น 2 แบบ คือ Edge LED และ Full LED มีความแตกต่างกันตรงที่การเรียงหลอดแอลอีดี โดย เอดจ์ แอลอีดี จะเรียงหลอดแอลอีดีที่ขอบทีวีเท่านั้น ส่วน ฟูลแอลอีดี จะเรียงเม็ดหลอดแอลอีดีตรงกลางจอด้วย ซึ่งแอลอีดีทีวีที่เข้าสู่ตลาดในช่วงแรกจะเป็น เอดจ์ แอลอีดี ต่อมาจึงมีการนำ ฟูลแอลอีดี ทีวี เข้ามา โดยแอลจีเคลมว่าตัวเองเป็นเจ้าแรกที่นำฟูลแอลอีดีเข้ามาทำตลาด

ล่าสุด แอลจี เปิดตัว INFINIA LIVE BORDERLESS ซึ่งมีทั้งแอลซีดีทีวี และฟูลแอลอีดีทีวีสลิม รวมถึงเทคโนโลยีที่รองรับภาพ 3 มิติ โดยในส่วนของแอลอีดีทีวี มีการแบ่งเซกเมนต์ออกเป็น 3 ส่วนเพื่อรองรับทุกความต้องการของตลาด โดย Full LED เจาะตลาดพรีเมียม LED Plus เจาะตลาดระดับกลาง และ Edge LED เจาะตลาดแมส ทั้งนี้ แอลจีคาดว่าในปีหน้าตลาดแอลอีดีทีวีเจาะเข้าสู่ความเป็นตลาดแมสมากขึ้น ปัจจุบัน ตลาดแอลอีดีทีวีคิดเป็นสัดส่วน 30% ของตลาดแอลซีดีทีวี ที่มีปริมาณความต้องการอยู่ที่ 1.2 ล้านเครื่อง

อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมา LCD TV มีระดับราคาถูกกว่า LED TV 2-3 เท่าตัว ในขณะที่ LED TV ในช่วงแรกจะเจาะไปที่กลุ่ม High Life Seeker ที่สนใจเทคโนโลยี ชอบทดลองเทคโนโลยีใหม่ โดยไม่สนใจว่าราคาจะสูงเพียงใด เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ทว่าปัจจุบัน LED TV มีราคาสูงกว่าแอลซีดีทีวีเพียง 10-20% สามารถหาซื้อได้ในระดับราคา 30,000 กว่าบาท ขณะที่แอลซีดีทีวี ฟูลเอชดี 32 นิ้ว มีราคาเหลือเพียง 16,990 บาท ปัจจัยเหล่านี้ยิ่งผลักดันให้ HD TV ในเมืองไทยขยายฐานกว้างขึ้น ประกอบกับผู้ผลิตรายการ และผู้ให้บริการทีวีดาวเทียมต่างหันมาให้ความสำคัญกับการรับชมภาพในระบบดิจิตอลมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ HD TV เป็นคำตอบเดียวสำหรับตลาดทีวีในบ้านเรา

ทั้งนี้ LED TV ยังมิใช่ที่สุดแห่งจอภาพในปัจจุบัน เพราะยังมีเทคโนโลยีจอแบบ OLED (Organic Light-Emitting Diode) ที่มีความบาง สามารถดัดโค้งได้เหมือนแผ่นกระดาษ ซึ่งปัจจุบันโซนี่กำลังพัฒนาในรูปแบบของ e-Book ทว่ามีราคาที่แพงมากจึงต้องใช้ระยะเวลาอีกยาวนานพอสมควรกว่าจะพัฒนาเข้าสู่ตลาดในเชิงพาณิชย์

นอกจากนี้รัฐบาลญี่ปุ่นจะให้การสนับสนุนบริษัทเอกชนอย่าง โซนี่ ชาร์ป Sumitomo Chemical และ Hitachi Zosen ในการพัฒนา OLED TV โดย องค์การพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและพลังงานทดแทน New Energy and Industrial Technology Development Organization หรือ NEDO ซึ่งเป็นสำนักงานของรัฐบาลญี่ปุ่นที่มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์การทำวิจัยเทคโนโลยีใหม่ในประเทศญี่ปุ่น คาดการณ์ไว้ว่า บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่นจะสามารถผลิตหน้าจอ OLED TV ขนาด 40 นิ้วได้หลังปี 2015 อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้โซนี่ได้พัฒนา OLED TV ความบาง 3 มิลลิเมตร มีขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว จำหน่ายในราคาสูงกว่าจอ LCD ทั่วไปถึง 10 เท่าตัว

ที่มาโดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์

ดีไซน์สวยลงตัวกับ Sony Ericsson Xperia Shakira ( Xperia X8)


ดีไซน์สวยลงตัวกับ Sony Ericsson Xperia Shakira ( Xperia X8)
ด้วยการออกแบบที่สวยงามจากแรงบันดาลใจในความลงตัวของรูปร่างมนุษย์อย่าง Sony Ericsson Xperia Shakira ที่มาพร้อมกับความสวยงามด้วยสีขาวและหน้าจอขนาดใหญ่ ซึ่งภาพหลุดที่นำมาเสนอในวันนี้ทางเว็บไซต์ในเยอรมันบอกว่าภาพหลุดของโทรศัพท์มือถือ Sony Ericsson Xperia Shakira หรือชื่ออีกอย่างว่า Sony Ericsson Xperia X8 นั่นเอง

โดยคาดว่าโทรศัพท์สมาร์ทโฟนดีไซน์สวยตัวนี้จะอยู่ในการใช้งานระดับกลางที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Android และจะมีหน้าจอ interface เหมือนกับ Sony Ericsson Xperia X10 แต่จะมีหน้าจอขนาดที่เล็กกว่า ส่วนคุณสมบัติอื่นๆคงต้องรอติดตามกันต่อไป ตอนนี้ไปชมภาพสวยของ Sony Ericsson Xperia Shakira หรือ Xperia X8 กันก่อนนะคะ
ที่มา : mirakar

แว่น 3 มิติไซส์เล็กสำหรับคุณหนู "RealD" จัดให้


แว่น 3 มิติไซส์เล็กสำหรับคุณหนู "RealD" จัดให้
หากเราไปตามโรงภาพยนตร์ที่ฉายหนัง 3 มิติ มักจะเห็นแว่นที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่มาก ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ใช้งานที่เป็นเด็ก (ลองนึกภาพเด็กใส่แว่นอันใหญ่มากๆ ดู) สำหรับภาพยนตร์ขวัญใจคุณหนู "Toy Story 3" ที่จะได้ฤกษ์ฉายวันที่ 18 นี้ รองรับระบบ 3 มิติ ดังนั้น "RealD" จึงเสนอแว่นสามมิติสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ออกแบบให้มีขนาดเล็กคล้ายแว่นสายตาปกติ เหมาะกับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 8 ปี

ที่มา : i3

LG LB4400 มือถือพร้อมเครื่องเล่นเพลงจาก iRiver

LG LB4400 มือถือพร้อมเครื่องเล่นเพลงจาก iRiver

แอลจีประเทศเกาหลีเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ LG LB4400 เอาใจลูกค้าที่รักในเสียงเพลง โดยมาพร้อมกับเครื่องเล่น MP3 จาก iRiver สามารถฟังเพลงนานต่อเนื่อง สูงสุด 40 ชั่วโมง LG LB4400 ถูกดีไซน์ให้มีรูปร่างคล้ายเครื่องเล่นมีเดียพกพา ควบคุมการเล่นเพลงด้วยปุ่มกดระบบสัมผัสใต้หน้าจอ โดยจะแสดงปุ่มควบคุมด้วยหลอดไฟ LED เพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงกับระบบเสียง Dolby Mobile ของแอลจี ซึ่งมีเสียงอีควอไลเซอร์ให้ปรับแต่งถึง 14 แบบ นอกจากนี้ยังรองรับชุดหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร

คุณสมบัติ โทรศัพท์มือถือ LG LB4400

จอแสดงผล TFT-LCD ความละเอียด 240 x 400 พิกเซล กว้าง 2.8 นิ้ว
มี 3 สี ให้เลือก : สีส้ม, สีขาว และ สีน้ำตาล
ขนาดตัวเครื่อง 114 x 50 x 12.1 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 96 กรัม รวมแบตเตอรี่
หน่วยความจำภายใน 8 GB
การ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD สูงสุด 16 GB
กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล
แบตเตอรี่มาตรฐาน 900 mAh
ฟังเพลงนานสูงสุด 40 ชั่วโมง
ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth 2.1, USB 2.0, ชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และ รับสัญญาณทีวีในระบบ T-DMB
LG LB4400 มือถือพร้อมเครื่องเล่นเพลงจาก iRiver
ที่มา : siamphone

ลุ้น"บีบี"ยุคหน้าเป็นแท็บเล็ต?!

ลุ้น"บีบี"ยุคหน้าเป็นแท็บเล็ต?!
อาร์ไอเอ็ม (Research In Motion) ประกาศว่ากำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาแบล็กเบอรี่รุ่นใหม่ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่กว่าเดิม ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 6.0 คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในปีนี้ ท่ามกลางเสียงลุ้นว่าจะมีลักษณะตัวเครื่องเทียบชั้นคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตอย่างไอแพด (iPad)

แหล่งข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นอลระบุว่า แบล็กเบอรี่รุ่นใหม่หน้าจอทัชสกรีนนี้จะมาพร้อมคีย์บอร์ดสไลด์ข้าง ใช้ระบบปฏิบัติการใหม่ BlackBerry OS 6.0 ที่มีความสามารถคล้าย iOS หลายจุด เช่น การจีบนิ้วมือแล้ววาดออกเพื่อขยายภาพ สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้แต่ไม่ทำงานในรูปแบบสแตนอะโลนแบบไอแพด พร้อมเว็บเบราว์เซอร์เทคโนโลยีใหม่เพื่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น

ประชาสัมพันธ์ของอาร์ไอเอ็มปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆกับรายงานที่เกิดขึ้น โดยระบุเพียงว่าบริษัทมีกำหนดการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการใหม่ในไตรมาส 3 ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนนี้

รายงานระบุว่า แบล็กเบอรี่รุ่นใหม่จะมาพร้อมความจุ 4GB กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล ตัวเบราว์เซอร์สามารถเปิดเว็บได้มากกว่า 1

นี่คือความเคลื่อนไหวล่าสุดของอาร์ไอเอ็ม ที่เกิดขึ้นในขณะที่ยักษ์ใหญ่โลกคอมพิวเตอร์อย่างแอปเปิลและกูเกิลวางยุทธศาสตร์รุกตลาดสมาร์ทโฟนที่อาร์ไอเอ็มครองตลอดอยู่ โดยที่ผ่านมา อาร์ไอเอ็มยังสามารถครองตลาดเบอร์ 1 ในตลาดสหรัฐฯด้วยสัดส่วน 35% นำหน้าแอปเปิลที่มีส่วนแบ่ง 28%

Company Related Links :
RIM
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

โนเกียวางตัว"MeeGo"แข่ง"iPhone4"

โนเกียวางตัว"MeeGo"แข่ง"iPhone4" ผู้บริหารโนเกียเผย ระบบปฏิบัติการที่โนเกียร่วมทุนสร้างกับอินเทลนาม "มีโก (MeeGo)" จะเป็นหนึ่งจุดแข็งเพื่อการต่อสู้กับคู่แข่งกระแสแรงอย่างไอโฟน (iPhone) ในตลาดสมาร์ทโฟน ระบุแม้ระบบปฏิบัติการซิมเบียนรุ่นหน้า "Symbian4" จะมีกำหนดการเปิดตัวช่วงปลายปีนี้แต่โทรศัพท์ระบบปฏิบัติการซิมเบียนรุ่นปัจจุบัน "Symbian3" จะยังวางตลาดอยู่ต่อไปอีก 2 ปี มั่นใจบริการหลากหลายจะยังเป็นหนทางสำคัญให้โนเกียรักษาแชมป์ได้ต่อไป ขีดเส้นไตรมาส 3 ปีนี้พร้อมเดินทัพมือถือใหม่บุกตลาดไทยทั้ง Nokia X5, Nokia X6 8GB และ Nokia N8
โจ ฮาร์โลว์ รองประธานอาวุโสธุรกิจสมาร์ทโฟนของโนเกีย ให้สัมภาษณ์ในงาน Nokia Connection 2010 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่าสิ่งที่โนเกียเตรียมไว้เพื่อดึงผู้บริโภคจากกระแสนิยมไอโฟนคือระบบปฏิบัติการมีโก และการพัฒนาบริการที่สามารถให้ประสบการณ์ยอดเยี่ยมแก่ผู้ใช้ในราคาคุ้มค่า

"มีโกคือตัวหนึ่งที่เราเชื่อว่าจะช่วยชูตลาดระดับไฮเอนด์ได้ ส่วนระดับมิดเดิลเอนด์ เราจะสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมบนยูสเซอร์อินเทอร์เฟสที่ง่าย โนเกียมีแผนสร้างโทรศัพท์บางเฉียบแน่นอน แต่สำหรับการเพิ่มความเร็วซีพียูยังไม่ใช่เรื่องสำคัญ เนื่องจากสมาร์ทโฟนโนเกียขณะนี้สามารถทำงานได้ดีและรวดเร็วอยู่แล้วเพราะการทำงานร่วมกันระหว่างชิปหน่วยประมวลผลและหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิก"

มีโกนั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่โนเกียนำระบบปฏิบัติการมาตรฐานเปิดรุ่นใหญ่นาม "มีโม (Maemo)" ของตัวเองมารวมกับโมบลิน (Moblin) ของอินเทล แจ้งเกิดใหม่ในชื่อมีโกเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น โทรศัพท์มือถือ, เน็ตบุ๊ก, แท็บเล็ต และอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตพกพาหรือ MID ความหลากหลายและความเป็นมาตรฐานเปิดทำให้โนเกียและอินเทลต่างคาดหวังว่ามีโกจะกลายเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานสําหรับอุปกรณ์พกพาในอนาคต

ขณะที่มีโกถูกวางจุดยืนไว้ที่ตลาดไฮเอนด์ ตลาดระดับกลางจะเป็นหน้าที่ของซิมเบียน (เวอร์ชันปัจจุบันคือ Symbian^3) จุดนี้ฮาร์โลว์ยอมรับว่า แม้ซิมเบียนเวอร์ชัน 4 นั้นจะเปิดตัวได้ในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าตลอด 24 เดือนนับจากนี้ตลาดมิดเดิลเอนด์ของโนเกียจะยังมีทั้งกลุ่มซิมเบียน 3 และ 4 ปะปนกัน โดยเวอร์ชัน 3 จะเน้นตอบโจทย์ผู้บริโภคมือใหม่กว่า และ S40 จะเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่โนเกียสร้างสรรค์มาเพื่ออุปกรณ์สำหรับผู้ใช้รายใหม่

"โอกาสเติบโตในตลาดสมาร์ทโฟนเมืองไทยมีอยู่มาก เชื่อว่าโนเกียจะสามารถนำเสนอแอปพลิเคชันและบริการให้คนไทยได้ดี ที่ผ่านมา ประเทศไทยมียอดการดาวน์โหลดแผนที่โอวีแม็ปส์ (OVI Maps) เป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน ขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มการใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง"

จุดนี้ วิล แฮร์ริส หัวหน้าฝ่ายการตลาด โนเกียเอเชียแปซิฟิกตะวันออกเฉียงใต้ ยืนยันว่าการใช้งานคุณสมบัติการแชตและอีเมลในประเทศไทยนั้นเติบโตรวดเร็วกว่าประเทศอื่นๆ แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลจำนวนยอดการใช้งานบริการตระกูลโอวี่ในประเทศไทยขณะนี้ โดยปัจจุบันประชาชนคอฮัลโหลในอาเซียนนั้นสมัครเป็นสมาชิกบริการโอวี่แม็ปส์แล้วถึง 10 ล้านคน และบริการโอวี่เมลล์อีก 2 ล้านคนจากผู้ใช้ 10 ล้านคนทั่วโลก

งานนี้โนเกียนำโทรศัพท์มือถือ 3 รุ่นใหม่มาโชว์ครั้งแรกในภูมิภาค รุ่นราคาสูงที่สุดคือ N8 สมาร์ทโฟนกล้องดิจิตอล 12 ล้านพิกเซลรุ่นแรกที่ใช้ซอฟต์แวร์ซิมเบียน 3 คุณสมบัติเด่นคือคุณสมบัติถ่ายวิดีโอความละเอียด 720p ที่สามารถเชื่อมต่อเครื่องเพื่อชมวิดีโอบนโทรทัศน์ความละเอียดสูงได้ มีโปรแกรมดูทีวี Web TV ซึ่งโนเกียจับมือกับสถานีโทรทัศน์ทั้งระดับโลกและท้องถิ่นให้บริการวิดีโอออนดีมานด์แก่ผู้บริโภค รองรับนานาแอปพลิเคชันจากโอวี่สโตร์ซึ่งมีการร่วมมือกับผู้สร้างซอฟต์แวร์ท้องถิ่นมากขึ้น นอกจากนี้ยังเปิดทางให้ผู้ใช้สามารถลงชื่อใช้งานโอวี่เพื่อดึงข้อความเครือข่ายสังคมทุกสำนักมาไว้บนโฮมสกรีน และเชื่อมต่อข้อความเครือข่ายสังคมเหล่านี้กับบริการอื่นๆของโอวีได้ สนนราคาคาดว่าอยู่ที่ระดับ 17,000-18,000 บาท

รุ่น X5 นั้นเป็นโทรศัพท์มือถือสไลด์พร้อมคีย์บอร์ด QWERTY ซึ่งเมื่อเก็บคีย์บอร์ดจะมีทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสคล้ายตลับแป้งผู้หญิง นอกจากเครือข่ายสังคม แชต และเกม ตัว X5 ยังมีฟีเจอร์สนุกสนานอย่างการหมุนเครื่องลักษณะเดียวกับลูกข่าง เพื่อการเปลี่ยนเพลงแบบไม่ต้องกดปุ่ม สนนราคาเปิดตัว 165 ยูโรหรือประมาณ 6,800 บาท (ไม่รวมภาษี) คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยช่วงไตรมาส 3 ปีนี้

อีกรุ่นคือ X6 8G ซึ่งเป็นการลดความจุโทรศัพท์ตระกูล X6 ลงเหลือ 8GB ให้สามารถตอบโจทย์ตลาดได้มากขึ้น รองรับเพลงเครือข่ายสังคม แชต แบ่งปันข้อมูล และเล่นเกม กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลชคู่ สนนราคาเปิดตัวไม่รวมภาษี 225 ยูโร (ราว 9,300 บาท)

ทั้ง 3 รุ่นคาดว่าจะสามารถวางจำหน่ายในประเทศไทยช่วงไตรมาส 3 ที่จะถึงนี้ ตลาดหลักคือบังกลาเทศ อินเดีย ไทย และเวียดนามซึ่งเป็นพื้นที่ที่การใช้งานเพลง โซเชียลเน็ตเวิร์ก และอีเมลเติบโตสูง

"ต่อไปนี้โนเกียจะนำเสนอโทรศัพท์เป็นแพกเก็จบริการที่ผู้บริโภคจะสามารถใช้งานได้จริง (แทนการใช้ตัวเลขฮาร์ดแวร์เครื่อง) เพื่อนำเสนอโซลูชันที่มีครบทั้งความคุ้มค่าและบริการ ซึ่งไม่มีใครทำได้ครบเหมือนโนเกีย" แฮร์ริสกล่าว

ปัจจุบัน โนเกียมีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟน 44.3% ลดลงจากที่เคยทำได้ 48.8% อันดับที่ 2 คืออาร์ไอเอ็มผู้ผลิตแบล็กเบอร์รี่ที่ครองส่วนแบ่ง 19.4% ระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนยอดฮิตอันดับที่ 3 คือ iPhone OS ครองส่วนแบ่ง 15.4% ตามด้วยแอนดรอยด์มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเป็น 9.6% ต่อท้ายด้วยไมโครซอฟท์ราว 6.8%

Company Related Links :
Nokia
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

BenQ เปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่นล่าสุดมาพร้อมสีสันสุดพิเศษ

BenQ เปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่นล่าสุดมาพร้อมสีสันสุดพิเศษ
Champagne Gold E1250 และ Chocolate Brown E1280

กรุงเทพ - BenQ เปิดตัวกล้องดิจิตัลรุ่นใหม่ ๆ ในตระกูล E Series คือกล้องรุ่น E1250 สีทองแชมเปญ และรุ่น E1280 สีน้ำตาลช็อกโกเลต ทั้งกล้องรุ่น E1250 และรุ่น E1280 ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ 12 เมกะพิกเซลเพื่อให้ภาพที่คมกริบ, อ็อพติคัลซูฒ x 3, หน้าจอ LCD ขนาด 2.7 นิ้ว, ระบบเลือกฉาก (Auto Smart Scene) และเทคโนโลยีจับภาพใบหน้า (Facial Detection) กล้องดิจิตัลรุ่นใหม่ ๆ ที่ประกอบด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าทั้งสองรุ่นนี้ มีกลุ่มเป้าหมายคือผู้บริโภคที่ต้องการกล้องดิจิตัลที่มีคุณสมบัติครบครันและมีราคาประหยัด

ระบบเลือกฉากโดยอัตโนมัติ (Auto Smart Scene) ในกล้องรุ่น E1250 และรุ่น E1280 ใช้เทคโนโลยีตรวจจับฉาก (Scene Detection Technology) เพื่อวิเคราะห์ฉาก และตรวจสอบ ความสว่าง คอนทราสต์ ระยะห่าง และสีสันโดยรวมของวัตถุ หลังจากนั้น กล้องจะเลือกระบบฉากหลังจากที่มีอยู่ทั้งหมดแปดระบบ เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด ระบบฉากหลังทั้งแปดระบบ ได้แก่ ระบบภาพทิวทัศน์(Landscape) ภาพกลางคืน(Night scene) ภาพบุคคลในยามกลางคืน(Night Portrait) ภาพพระอาทิตย์ตก(Sunset) ภาพมาโคร (Macro) ภาพบุคคล(Portrait) ภาพสว่างด้านหลัง (Backlight) และภาพบุคคลที่สว่างจากด้านหลัง(Backlight Portrait) ระบบการทำงานนี้ช่วยขจัดความยุ่งยากจากการที่ต้องคอยเปลี่ยนระบบการถ่ายภาพเอง ดังนั้น ผู้ใช้กล้องจึงพร้อมเสมอที่จะบันทึกช่วงเวลาต่าง ๆ อันน่าประทับใจเป็นภาพที่สวยงาม

กล้องรุ่น E1250 และรุ่น E1280 ทำงานได้ดีเยี่ยมในการถ่ายภาพบุคคล เพราะใช้เทคโนโลยีจับภาพใบหน้า อันได้แก่ “จับรอยยิ้ม” “จับการกระพริบตา” “เพิ่มความงาม” และ “จับภาพ Love Portrait อย่างอัตโนมัติ”
• ระบบการทำงาน “จับรอยยิ้ม (Smile Catch)” ช่วยจับภาพรอยยิ้มได้อย่างอัตโนมัติและรวดเร็ว ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพแคนดิด
• ระบบการทำงาน “จับการกระพริบตา (Blink Detector)” เตือนผู้ใช้เมื่อผู้ที่เป็นแบบกระพริบตา โดยผู้ใช้จะสามารถถ่ายภาพใหม่ได้ทันทีหรือจะเก็บภาพที่แบบกระพริบตาไว้ก็ได้
• ระบบการทำงาน “เพิ่มความงาม(Beauty Enhancer)” เป็นระบบการทำงานอัตโนมัติ ซึ่งปรับสีผิวของแบบให้สวยงามและกำจัดริ้วรอยตำหนิต่าง ๆ โดยผู้ใช้ไม่ต้องยุ่งยากกับการนำภาพไปปรับแก้ในคอมพิวเตอร์เท่าที่ผ่านมา
• ระบบการทำงาน “จับภาพ Love Portrait อย่างอัตโนมัติ(Love Portrait auto capture)” ทำให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องสนุกและง่ายดายยิ่งขึ้น ระบบนี้จะถ่ายภาพอัตโนมัติทันทีที่ใบหน้าของแบบสองคนเข้ามาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในเฟรม ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพตนเองโดยไม่ต้องคาดเดาว่าภาพที่ได้จะเป็นเช่นใด
นอกจากนี้ ยังมีระบบคำสั่ง “จัดภาพล่วงหน้า (Pre-Composition)” อันชาญฉลาดช่วยให้กล้องสามารถประมวลผลภาพถ่าย เพื่อให้ผู้ถ่ายสามารถถ่ายภาพฉากหลังก่อน แล้วจึงถ่ายภาพวัตถุหรือแบบเข้าไปภายหลัง และระบบ “โฟกัสอัจฉริยะ (Smart Focus)” ซึ่งสามารถเปลี่ยนการถ่ายภาพให้เป็นระบบมาโคร (Macro) ได้อัตโนมัติเมื่อต้องการถ่ายภาพโคลสอัพ เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดเสมอ!

กล้องดิจิตัล E1250/E1280 จะวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกในกลางเดือนเมษายน ผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.BenQ.com
ที่มา http://techxcite.com/2010/view/2911

มอนเต้ VS แคนดี้ ไวไฟ

มอนเต้ VS แคนดี้ ไวไฟ แข็งแกร่งดั่งภูผา หรือจะแอบซ่าส์อย่างวัยทีนถูกวางไว้ในตำแหน่งที่เรียกว่า "พรีเมียม" ก็ว่าได้สำหรับ "ซัมซุง มอนเต้ 3 จี" หรือ "เอส 5620" โทรศัพท์มือถือสัญชาติเกาหลี แต่ชื่อฟังแล้วกระเดียดไปทางโซนยุโรปเครื่องนี้

หลังจากออกมาออกมาเฉิดฉายในตลาดได้สักพัก ก็มีกระแสให้ความสนใจเจ้าทัชโฟนเครื่องนี้ไม่น้อย "ไอสไตล์" ฉบับนี้ เลยถือโอกาสนำท่านมาทำความรู้จักกับมอนเต้แบบเจาะลึกถึงเนื้อถึงตัว

เริ่มกันที่รูปร่างหน้าตากันที่หากเปรียบ "มอนเต้" กับหญิงสาวคงต้องบอกว่า แม้จะดูบอบบางอ้อนแอ้น แต่ภายในก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนมอง เมื่อมองแวบแรกทำให้รู้สึกได้ว่าออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่โดยแท้ ด้วยขนาดค่อนข้างบาง ส่วนสีสันของตัวเครื่องเป็นแบบโทนเทาดำ ผสานความแวววาวด้านข้างสะท้อนความเป็น "มอนเต้" ซึ่งให้ความหมายว่า "ภูเขา" ในภาษาสเปน

หน้าจอของมอนเต้เป็นระบบสัมผัสทีเอฟที แอลซีดี 262,144 สี ขนาด 3 นิ้ว มีระบบหมุนภาพหน้าจออัตโนมัติและฟังก์ชัน "Smart Log" สามารถปลดล็อกด้วยการลากนิ้ว โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึงเมนูในหน้าต่างๆ ได้ด้วยการใช้นิ้วสัมผัสบนหน้าจอไว้แล้วเลื่อนซ้ายขวา การควบคุมการทำงาน การเข้าถึงเมนูต่างๆ ทำให้รวดเร็ว ไม่พบอาการหน่วงหรือแฮงค์

พูดถึงระบบภายใน มอนเต้ตอบสนองค่อนข้างดี รองรับการใช้งานพื้นฐาน และลูกเล่นเพื่อความบันเทิงได้ครบถ้วน ยูสเซอร์อินเทอร์เฟซที่นำมาใช้ค่อนข้างสร้างความประทับใจได้เมื่อแรกพบด้วยเวอร์ชั่นใหม่ "Touch Wiz 2.0 Plus" ที่มีความสวยงามกว่า และสามารถเพิ่มวิดเจ็ทได้มากกว่า "Touch Wiz" ตัวเดิม

การตั้งค่าวิดเจ็ทสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้มีวิดเจ็ทอันไหนปรากฏบนหน้าแรกของโทรศัพท์ วิดเจ็ทต่างๆ ถูกซ่อนไว้หากไม่ต้องการใช้งานที่ด้านล่างหน้าจอ ถ้าต้องการเรียกใช้งานก็กดที่ปุ่มวิดเจ็ทด้านบนซ้ายของหน้าจอ แถบวิดเจ็ทที่ซ่อนอยู่ด้านล่างก็จะปรากฏขึ้นมา และแน่นอนว่า ทั้งหลายทั้งมวลนี้ ยังรักษาคอนเซปต์ที่เป็นจุดขายแบบซัมซุงที่พิถีพิถันในการออกแบบรูปร่างหน้าตาทั้งไอคอนและกราฟฟิกที่สวยงามช่วยเสริมความสะดวกสบายต่อการใช้งาน

ใครที่เป็นโรคขาดจากโลกออนไลน์ไม่ได้ คงไม่ผิดหวังกับโทรศัพท์รุ่นนี้ เพราะมอนเต้สร้างฟีเจอร์มาอย่างพร้อมสรรพสำหรับวัยอินเทรนด์ ที่ชอบการเชื่อมต่อกับโซเชียล เน็ตเวิร์คฮอตๆ ทุกรายการ

นอกจากนี้ ยังมีระบบดาวเทียมบอกตำแหน่ง (เอ-จีพีเอส) ผ่านกูเกิลแม็พ เวอร์ชั่น 3.0 โปรแกรมอัพเดทโลเคชันของเพื่อน กูเกิล ละติจูด ที่สามารถแชร์ตำแหน่งที่อยู่ของเราให้เพื่อนๆ และให้เรารู้ตำแหน่งของเพื่อนที่แชร์กับเราได้

ส่วนประกอบอื่นๆ ก็ใส่มาค่อนข้างครบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นเพลง ปฏิทิน กล้องถ่ายรูป หรือวิทยุ พร้อมหน่วยความจำในตัวเครื่อง 227 เมกะไบต์ และช่องให้เพิ่มการ์ดภายนอกแบบไมโครเอสดีส่วนการเชื่อมต่อก็มีทั้งไวไฟ บลูทูธ ทั้ง จีพีอาร์เอส เอดจ์ และที่แน่นอน คือ ระบบ 3 จี เอชเอสดีพีเอ 3.6 เมกะบิตต่อนาที

เสียดายนิดเดียวตรงกล้องที่ติดตั้งมาในเครื่อง ซึ่งมีความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล พอถ่ายออกมาแล้วดูไม่ค่อยชัดเท่าไร คงจะดีไม่น้อยหากรูปออกมาแล้วเห็นความคมชัดที่มากกว่านี้ มิเช่นนั้น คงพูดได้แบบเต็มปากเต็มคำว่า มอนเต้ เป็นอีกหนึ่งฟูลฟังก์ชันทัชโฟนที่ตอบสนองความต้องการไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้แบบครบเครื่อง เอาเป็นว่า รวมๆ แล้วถือว่าสอบผ่านได้เลื่อนชั้น และเมื่อเทียบกับราคาค่างวด 7,990 บาทที่ต้องจ่าย ถือว่าคุ้มค่าไม่น้อย

และหากพูดถึงมือถือในไซส์ใกล้เคียงกัน "ซัมซุง" ก็ยังไม่ลืมตอบโจทย์คอโซเชียลฯ รุ่นเยาว์เช่นกัน โดยส่ง "ซัมซุง แคนดี้ ไวไฟ" ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นมือถือจิ๋ว เน้นสีสันสดใสกระชากใจวัยรุ่นยิ่งนัก

"จุดขาย" ของซัมซุงรุ่นนี้ ก็คือ ความสามารถในการเชื่อมต่อ "ไวไฟ" ที่จับสัญญาณได้ดียังไม่เห็นที่ติ โดยคาดว่าเพื่อตอบสนองการใช้งานในกลุ่มโซเชียล เน็ตเวิร์คกิ้ง และการเชื่อมต่อออนไลน์โดยเฉพาะ โดยมีแอพพลิเคชั่นพรีโหลดมาให้เสร็จสรรพทั้ง "เฟซบุ๊ค" และ "ทวิตเตอร์" เวอร์ชั่นสำหรับใช้งานบนมือถือ ซึ่งจะฟีดข้อความอัพเดทขึ้นมาให้ติดตามได้ตลอด โดยไม่ต้องเปิดหน้าเว็บข้างไว้

อย่างไรก็ตาม ด้วยขีดจำกัดของหน่วยประมวลผล ทำให้การพิมพ์ข้อความโต้ตอบ หรืออัพโหลดภาพยังทำได้ไม่ทันใจนัก แต่ก็ยังอุตส่าห์พกลูกเล่นมาแบบไม่อายใครว่า "ชั้นก็มีนะจ๊ะ" ไม่ว่าจะเป็นระบบสัมผัสแบบทัชวิซ ยูไอ และสามารถปลดล็อกหน้าจอด้วยการลากนิ้ว (Smart Unlock) แทบจะเหมือนกับรุ่นใหญ่กว่าอย่าง "มอนเต้" แถมยังมีระบบ "โมบาย แทรคเกอร์" ที่เครื่องหายไม่ต้องกลัวด้วยระบบติดตามเครื่อง

ส่วนรุ่นไหนจะถูกใจ หรือไม่ถูกใจใครอย่างไร ต้องรบกวนช่วยพิจารณา !!
ที่มาโดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Tags : ซัมซุง • มอนเต้ • แคนดี้ ไวไฟ

Samsung Galaxy Apollo แอนดรอยด์รุ่นใหม่ใน UK


Samsung Galaxy Apollo แอนดรอยด์รุ่นใหม่ใน UK
Samsung Galaxy Apollo แอนดรอยด์รุ่นใหม่ใน UK วันที่ : 14 มิถุนายน 2553 [ ตอบ: 1 อ่าน: 403 ] - รายงานโดย : พิเชษฐ เมฆขาว
ซัมซุงเตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในสหราชอาณาจักร (UK) หลังจากเปิดตัว Samsung Wave และ Samsung Galaxy S รุ่นถัดไปที่สาวกซัมซุงจะได้สัมผัสก็คือ Samsung Galaxy Apollo หรือในรหัสรุ่น i5801 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 2.1 จอแสดงผลระบบสัมผัส Super AMOLED ความละเอียด 480 x 4800 พิกเซล รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร กล้องถ่ายรูป 5 ล้านพิกเซล หน่วยความจำในตัว 8 GB และหน่วยประมวลผลเร็ว 800 MHz
Samsung Galaxy Apollo เคยเปิดตัวมาแล้วในประเทศเกาหลีใต้ เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อ Samsung Galaxy A รหัสรุ่น SHW-M100S ซึ่งจะแตกต่างจาก Samsung Galaxy Apollo ตรงหน่วยประมวลผล, หน่วยความจำในตัว และ รองรับโทรทัศน์ในระบบ T-DMB
ที่มา http://news.siamphone.com/news-02023.html

Nokia N9 ถูกเผยโฉมออกมาเป็นครั้งแรก ในรูปแบบวีดีโอที่มีคนอัพโหลดไว้ใน YouTube

Nokia N9 ถูกเผยโฉมออกมาเป็นครั้งแรก ในรูปแบบวีดีโอที่มีคนอัพโหลดไว้ใน YouTube ซึ่งไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเป้นของจริงหรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ในอนาคต N9 จะถูกเปิดตัวหลังจาก Nokia N8 วางจำหน่าย Nokia N9 ที่ปรากฏอยู่ในวีดีโอ มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับ Nokia N8 แต่ได้เพิ่มแผงแป้นพิมพ์ QWERTY มาให้ ทำให้ถูกมองว่าจะมาแทนตระกูล N97 ในอนาคต อย่างไรก็ตามนี่ยังคงเป้นเพียงข่าวลือจนกว่าโนเกียจะเผยโฉมอย่างเป็นทางการ

Nokia N9 teaser Nokia N9 ถูกเผยโฉมออกมาเป็นครั้งแรก ในรูปแบบวีดีโอที่มีคนอัพโหลดไว้ใน YouTube

ที่มา http://news.siamphone.com/news-02026.html , http://www.youtube.com/watch?v=2MSH_8eJf7s&feature=player_embedded

กูเกิลเปิด"คาเฟอีน" ตัวช่วยผลเสิร์ชกูเกิล"สดใหม่"ขึ้น

กูเกิลเปิด"คาเฟอีน" ตัวช่วยผลเสิร์ชกูเกิล"สดใหม่"ขึ้น คาเฟอีนทำให้คนสดชื่น แต่ "กูเกิลคาเฟอีน (Google Caffeine)" ทำให้ผลการสืบค้นข้อมูลออนไลน์บนหน้าเว็บกูเกิลสดใหม่ขึ้นแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

กูเกิลใช้เว็บล็อกของตัวเองเปิดตัวระบบค้นหาใหม่ล่าสุดในชื่อ คาเฟอีน โดยการันตีว่าจะเป็นระบบที่มีความเร็วในการจัดอันดับดัชนีเว็บได้เร็วและใหม่กว่าระบบเดิมของกูเกิลถึง 50% และสามารถแสดงผลเว็บที่เกี่ยวข้องได้มากกว่าที่เคยทำมา ครอบคลุมทั้งข่าว เว็บล็อก และกระทู้ โดยกูเกิลการันตีว่าคอนเทนต์ทันสมัยอย่างข้อความทวีต (Tweet) จะสามารถถูกเสิร์ชพบได้เร็วกว่าเดิม

ผลเสิร์ชที่ใหม่ขึ้นและการแสดงที่เร็วขึ้นไม่ได้แปลว่ากูเกิลเลิกใช้สูตรแสดงผลการค้นหาเว็บที่มีอยู่โดยสิ้นเชิง แต่เป็นการปรับระเบียบวิธีการจัดทำดัชนีให้การอัปเดทข้อมูลสามารถเกิดขึ้นในทันที แทนที่จะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในแบบเดิม ทำให้ผลการค้นหาที่ได้มีความทันสมัย และรองรับข้อมูลแบบทันเหตการณ์อย่างข้อความทวีตในทวิตเตอร์ (Twitter) และข้อความอัปเดทสถานะในเฟสบุ๊ก (Facebook) ได้เร็วขึ้น
[กราฟิกแสดงรูปแบบการจัดทำดัชนีเว็บไซต์จำนวนมหาศาลหลากหลายรูปแบบ ] ต้องยอมรับว่า การปรับปรุงวิธีการทำดัชนีเว็บไซต์ของกูเกิลนั้นเกิดขึ้นเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บให้กูเกิลสามารถแข่งขันกับคู่แข่งเสิร์ชเอนจิ้นดั้งเดิม และคู่แข่งรายใหม่อย่างเครือข่ายสังคม ที่นับวันจะแย่งลูกค้าที่ต้องการค้นหาข้อมูลไปจากกูเกิลมากขึ้นทุกที เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยเริ่มมองว่า การค้นหาข้อมูลจากเครือข่ายสังคมนั้นได้ผลที่น่าเชื่อถือมากกว่าการค้นหาจากมหาสมุทรเว็บไซต์ขนาดมโหฬาร
ที่ผ่านมา กูเกิลสามารถครองตำแหน่งเสิร์ชเอนจิ้นเบอร์ 1 ในสหรัฐฯด้วยสัดส่วนตลาด 64% (ข้อมูลเดือนเมษายน) ขณะที่บิง (Bing) ของไมโครซอฟท์และยาฮู (Yahoo!) ซึ่งเป็นพันธมิตรเหนียวแน่นในขณะนี้มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 30%

การประกาศใช้งานกูเกิลคาเฟอีนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังการทดสอบบริการเมื่อเดือนกันยายน 2009 ที่ผ่านมา โดยนานาเว็บไซต์และนักวิเคราะห์ต่างให้ความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือพัฒนาการที่สำคัญของโลกเรียลไทม์อินเทอร์เน็ต ซึ่งจะไม่เพียงทำให้เกิดความเชื่อถือในกูเกิลจนทำให้มูลค่าหุ้นของกูเกิลพุ่งกระฉูด แต่ยังหมายถึงรายได้จากการโฆษณาของกูเกิล ที่เชื่อว่าจะเติบโตอย่างฉุดไม่อยู่นับจากนี้ How Search Works

Company Related Links :
Google
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ชาวโลก 21% ดูบอลโลกผ่านอุปกรณ์พกพา นิวยอร์กไทมส์เลิกใช้คำว่า"tweet"

ชาวโลก 21% ดูบอลโลกผ่านอุปกรณ์พกพา นิวยอร์กไทมส์เลิกใช้คำว่า"tweet"
**สำรวจพบชาวโลก 21% ดูบอลโลกผ่านอุปกรณ์พกพา
การสำรวจล่าสุดโดยบริษัทวิจัยระดับโลกอย่างนีลสัน (Nielsen) ระบุว่าประชากรโลกราว 21% วางแผนติดตามมหกรรมฟุตบอลโลกหรือ FIFA World Cup 2010 บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เฉพาะในอังกฤษ พบว่าชาวเมืองผู้ดีกว่า 1 ใน 10 มีแผนชมวิดีโอและตามผลบอลโลกบนสมาร์ทโฟนอย่างแบล็กเบอร์รี่และไอโฟน และ 23% ของกลุ่มตัวอย่างตั้งใจเชียร์บอลหน้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก

การสำรวจพฤติกรรมประชากรผู้ดีอังกฤษนี้เกิดขึ้นโดย PC World ที่ดำเนินการสัมภาษณ์ชาวอังกฤษกว่า 3,000 คน ผลการสำรวจชี้ชัดว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่พากันมองหาช่องทางรับชมบอลโลกนอกเหนือจากสื่อดั้งเดิมอย่างทีวี โดยตลาดอุปกรณ์รับสัญญาณสตรีมมิงทีวีในประเทศอังกฤษนั้นมีอัตราเติบโตถึง 30%

สาเหตุหลักที่ทำให้กลุ่มตัวอย่างแฟนฟุตบอลเมืองผู้ดีกว่า 1 ใน 3 ตั้งตารอชมการแข่งขัน FIFA World Cup ผ่านโลกออนไลน์ โดย 30% วางแผนชมบอลโลกผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต นั้นเป็นเพราะกลุ่มตัวอย่างเกินครึ่งบอกว่าต้องการพลาดชมแม็ตช์การแข่งขันให้น้อยกว่าที่เคยพลาดเมื่อครั้งมหกรรมบอลโลกครั้งที่แล้ว (World Cup 2006) ทำให้ช่องทางการรับชมออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ

**นิวยอร์กไทมส์เลิกใช้คำว่า"tweet"

สื่ออเมริกันยักษ์ใหญ่อย่างนิวยอร์กไทมส์ (New York Times) ประกาศห้ามพนักงานใช้คำว่าทวีต (tweet) ในรายงานข่าวทุกชิ้น ให้เหตุผลว่าคำว่าทวีตนั้นไม่ถููกหลักไวยกรณ์ภาษาอังกฤษ ขอให้นักข่าวใช้คำว่า "post on Twitter" หรือไม่ก็ "write on Twitter" และอีกหลายวลีที่อธิบายถึงกิริยาการส่งข้อความบนทวิตเตอร์แบบเต็มยศแทน

แม้คำว่าทวีตจะถูกใช้เรียกกันจนติดปาก แต่คอร์เบ็ตต์ (Phil Corbett) บรรณาธิการทั่วไปของนิวยอร์กไทมส์ร่อนบันทึกย้ำให้พนักงานเขียนอ้างอิงข้อมูลจากทวิตเตอร์โดยใช้คำว่า 'ทวิตเตอร์บอกว่า' หรือ 'ทวิตเตอร์เขียนว่า' แทน และย้ำว่าต้องการใช้ภาษาอังกฤษที่ได้มาตรฐานในการรายงานข่าวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม คอร์เบ็ตต์เชื่อว่าในอนาคต คำว่าทวีตอาจกลายเป็นชื่อเฉพาะของบริการ (ลักษณะเดียวกับคำว่าอีเมล) และยอมรับว่าที่ผ่านมา ไทมส์ก็ใช้คำเฉพาะที่ไม่มีความหมายในพจนานุกรมอังกฤษมาแล้ว แต่สำหรับคำว่าทวีต นิวยอร์กไทมส์เห็นสมควรให้คำสั่งนี้มีผลทันทีในขณะนี้

Company Relate Link :
FIFA
New York Times
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Nokia X2 ที่สุดแห่งมิวสิคโฟนราคาเบาๆ


Nokia X2 ที่สุดแห่งมิวสิคโฟนราคาเบาๆ
โนเกียเปิดตัว Nokia X2 มิวสิคโฟนรุ่นล่าสุดที่ออกแบบเฉพาะสำหรับวัยรุ่นผู้รักเสียงเพลง Nokia X2 มาพร้อมปุ่มลัดเฉพาะเพื่อควบคุมการเล่นเพลง สายเชื่อมต่อ AV ขนาด 3.5 วิทยุเอฟเอ็มที่มีเสาอากาศในตัว เครื่องเล่นเพลงแบบดิจิตอล และลำโพงสเตอริโอดังกระหึ่มเพื่อแบ่งปันเพลงโปรดกับผู้อื่น นอกจากนี้ Nokia X2 ยังมาพร้อมกล้องถ่ายรูป 5 ล้านเมกะพิกเซลพร้อมแฟลชและกล้องบันทึกภาพวิดีโอ

ผู้ใช้งาน Nokia X2 สามารถเข้าใช้งาน Facebook ได้จากหน้าจอหลัก พร้อมทั้งเกมส์และแอพพลิเคชั่นที่สามารถดาวน์โหลดได้จาก Ovi Store และใช้งานอีเมล์ได้จาก Nokia Messaging และแชทผ่าน Instant Messaging Nokia X2 ที่สุดแห่งมิวสิคโฟนราคาย่อมเยา พร้อมวางจำหน่ายราวเดือนกรกฏาคม 2553 ในราคาราว 85 ยูโร

ที่มา http://techxcite.com/2010/view/2890

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์