Toshiba Qosmio F750 มี ทั้งรุ่นจอ 2 มิติและ 3 มิติไร้แว่น |
สุธี วงศ์วัฒนากุล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กโตชิบา อธิบายถึงเหตุผลที่ทำให้คอมพิวเตอร์ 3 มิติรุ่นที่ต้องใช้แว่นตาของโตชิบา ถูกกำหนดไว้สูงกว่ารุ่นที่ไม่ใช้แว่นตา ว่าเป็นเพราะขนาดของจอภาพที่ใหญ่กว่า คุณสมบัติโดยรวมที่สูงกว่า ซึ่งคาดว่าจะตอบโจทย์คอเกมมากกว่า
"Qosmio F750 นั้นถูกเปิดตัว 2 รุ่น คือรุ่นที่มีหน้าจอ 3 มิติ ในชื่อ F750 3D และรุ่นที่เป็นหน้าจอ 2 มิติ ในชื่อ F750 ที่สามารถส่งภาพไปแสดงบนจอ 3 มิติ และ Qosmio X770 อีก 1 รุ่น โดย X770 ราคาแพงที่สุดเพราะหน้าจอใหญ่ สเปกเครื่องดีกว่า และต้องใช้แว่นตาในการมองภาพ 3 มิติ"
Toshiba Qosmio X770 3D เป็นรุ่นสำหรับเกมเมอร์ 3 มิติและราคาสูงสุด |
Qosmio F750 ทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมหน่วยประมวลผล Intel Core i7 และชิปกราฟิก Nvidia Geforce GT540M ใช้หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ฮาร์ดไดร์ฟ SATA 640 กิกะไบต์พร้อมแรม 6GB DDR3 (1333MHz) มาพร้อมไดร์ฟ Blu-ray XL ที่สามารถบันทึกซ้ำได้ ใช้ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 7 รองรับ Wi-Fi 802.11 และ Bluetooth 3.0
สำหรับรุ่นที่มีหน้าจอ 3 มิติไร้แว่นซึ่งโตชิบาจำหน่ายในราคา 62,000 บาท จะมาพร้อมหน้าจอแบบ 'lenticular' ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาพ 3 มิติสำหรับตาแต่ละข้างได้แบบความละเอียดสูง โตชิบาระบุว่าหน้าจอของ F750 3D จะมีกล้องเว็บแคมที่ทำให้ระบบสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวของดวงตาผู้ใช้ได้ ซึ่งระบบจะสามารถปรับคุณสมบัติ 3 มิติสำหรับตาแต่ละข้างที่มีตำแหน่งเปลี่ยนไป แต่มีข้อแม้ว่าภาพ 3 มิติตาเปล่านี้จะสามารถชมได้คนเดียว ถือว่าเป็นจุดอ่อนสำคัญของ Qosmio F750
ขณะที่ Qosmio X770 ซึ่งจะเป็นรุ่นราคาสูงที่สุดที่โตชิบาส่งมาลุยตลาดคอเกม จะมาพร้อมหน้าจอ 3 มิติขนาด 17 นิ้ว ใช้ชิป Core i7 พร้อมชิปกราฟิก GTX 560M มีเว็บแคมระบบ 3 มิติ สามารถถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอในระบบ 3 มิติได้ แรม GDDR5 1.5GB การันตีว่าจะสามารถเล่นกับเกมทุกเกมที่มีบนโลก
โตชิบาระบุว่าจะเริ่มวางจำหน่ายโน้ตบุ๊ก 3 มิติทั้ง 3 รุ่นในงานคอมมาร์ตช่วงปลายเดือนนี้ โดยคาดว่าโตชิบาจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดไม่ต่ำกว่า 15% ของตลาดรวม และขึ้นเป็นผู้ผลิตพีซีเบอร์ 1 ใน 3 ของโลกได้ในปี 2555
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น