LG ร่วมมือกับ AT&T เปิดตัว LG Vu Plus

LG ร่วมมือกับ AT&T เปิดตัว LG Vu Plus LG ประกาศเปิดตัวมือถือ LG Vu Plus บนเครือข่ายของ AT&T โดยเป็นมือถือสนับสนุนการใช้งาน FLO-based Moblie TV ซึ่งมีไว้สำหรับดูรายการทีวีบนเครือข่าย AT&T อีกด้วย เมื่อสไลด์ออกมาจะพบกับ QWERTY Keyboard ขนาดหน้าจอ 3 นิ้ว แบบ Capacitive ทีชสกรีน

สามารถรับ-ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 7.2 Mbps HSDPA ความละเอียดของกล้องถ่ายภาพ 3 MP พร้อมระบบออโต้โฟกัส สามารถบันทึกวีดีโอได้ โดยในรุ่นนี้ AT&T ได้มีระบบการแชร์วีดีโอได้อีกด้วย หน่วยความจำรูปแบบ microSD ครับ

โดยรุ่นนี้ได้เปิดตัวอยู่ที่ราคา $149.99 (ประมาณ 6,000 บาท) พร้อมจดสัญญา 2 ปี และสำหรับผั้ต้องการใช้บริการ AT&T Mobile TV จะต้องเสียค่าบริการรายเดือนละ $9.99 (ประมาณ 400 บาท) โดยมีบริการทดลองใช้ 7 วันอีกด้วย



ที่มา :Engadget ,http://techxcite.com/2010/view/2809

iPhone 4G คาดการจำหน่ายเดือนมิถุนายนนี้

iPhone 4G คาดการจำหน่ายเดือนมิถุนายนนี้
โดยการเปิดตัวที่จะมาถึงนี้ทำให้ iPhone 3Gs ที่เคยกระหึ่มมาก่อนหน้านี้อาจจะต้องดับวูบไป เพราะว่ามีแหล่งข่าวคาดการว่า iPhone 4G จะมาเปิดตัวในเดือนหน้านี้ ซึ่งล่าสุดได้มีการให้ข้อมูลถึงราคาการวางจำหน่ายของ iPhone 4G รุ่น 32 GB ในราคา $199 (ประมาณ 7,000 บาท) และรุ่น 64 GB (ประมาณ 10,000 บาท)

โดยข้อมูลที่คาดการมาจากนักวิเคราะห์จากหลากหลายสถาบัน ที่คาดการว่า iPhone 4G จะเปิดตัวในงาน WWDC 2010 ที่จะถึงนี้ ซึ่งสอดคล้องกับแหล่งข่าวที่อ้างว่า AT&T ได้จัดเตรียมพนักงานในการเปิดตัวที่จะถึงนี้ด้วย

ภาพที่แสดงนี้เป็นเพียง Concept ของ iPhone 4G สำหรับข้อมูลที่แน่ชัดในวันเวลาที่กำหนดการขายจริง จะต้องติดตามกันในเร็วๆ นี้นะครับ


ที่มา : TechWeb , http://techxcite.com/2010/view/2812

Laptop Lilo ที่รองโน๊ตบุ๊กแบบเป่าลม!!

Laptop Lilo ที่รองโน๊ตบุ๊กแบบเป่าลม!! ตอนนี้โลกเรามีอะไรที่แปลกๆ เพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยใครจะคิดล่ะครับ ว่าเพียงแค่ปัญหาของการใช้โน้ตบุ๊กบนตัก ที่แก้ไขด้วยการวางกับพื้น จะมีผู้ผลิตที่วางโน้ตบุ๊กแบบเป่าลมออกมาให้ใช้อีกด้วย

ด้วยดีไซน์ที่แปลกตา โดยการออกแบบให้เป็นถุงลม 6 ใบ สามารถเป่าลมเข้าไปเมื่อใช้งานก็จะปล่อยลม ออกมาและพับเก็บในพื้นที่ที่น้อยลง พกพาสะดวก ซึ่งช่วยให้โน๊ตบุ๊กของเราไม่ต้องทับกับหน้าตักของขาที่จะก่อให้เกิดความร้อนสะสมอีกด้วย

ตัววัสดุผลิตจากพลาสติก PVC ที่ทนความร้อนได้สูงถึง 80 องศา ซึ่งแน่นอนว่าโน้ตบุ๊กคงจะไม่ร้อนจัดถึงทำให้พลาสติกละลายหรอกจริงไหมครับ โดยราคาของเจ้า Laptop Lilo นี้อยู่ที่ราคา $16.99 (ประมาณ 600 บาท) แต่หากว่าใครที่จะนำไปใช้งานจริงๆ ต้องปอดแข็งแรงเลยนะครับ เพราะว่าไม่มีระบบสูบลมให้ นั้นก็คือเราต้องเป่าลมเองครับ ^^

ที่มา : Coolest-gadgets , http://techxcite.com/2010/view/2813

ไอแพดกำลังฆ่าเน็ตบุ๊กในมะกัน? สาวกญี่ปุ่นคลั่งเข้าคิวรอซื้อ

ไอแพดกำลังฆ่าเน็ตบุ๊กในมะกัน? สาวกญี่ปุ่นคลั่งเข้าคิวรอซื้อ ผลสำรวจตลาดสหรัฐฯล่าสุดพบว่า กระแสความนิยมในคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสของแอปเปิลอย่างไอแพด (iPad) กำลังบั่นทอนความต้องการในตลาดเน็ตบุ๊ก (Netbook) หรือคอมพิวเตอร์พกพาขนาดจิ๋วที่มีราคาประหยัดกว่าและประสิทธิภาพน้อยกว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โดยกลุ่มตัวอย่างสูงถึง 78% ระบุว่าจะเลือกซื้อไอแพดหากต้องเลือก 1 ใน 2 คอมพ์พกพารุ่นจิ๋ว มีเพียง 22% เท่านั้นที่เลือกเน็ตบุ๊ก

งานวิจัยตลาดชิ้นนี้ดำเนินการโดยเว็บไซต์รีวิวผลิตภัณฑ์ไอทีอิเล็กทรอนิกส์นาม Retrevo ทำการสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างผู้อ่านและสมาชิกเว็บไซต์ชาวอเมริกันจำนวน 1,000 คน

30% ของกลุ่มตัวอย่างระบุว่า ไม่สนใจเน็ตบุ๊กและตัดสินใจเลือกซื้อไอแพดหลังจากสตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอแอปเปิลเปิดตัวไอแพดในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ 40% ระบุว่า เริ่มชะลอการซื้อเน็ตบุ๊กเมื่อจ็อบส์เปิดตัวไอแพด แต่ก็ตัดสินใจกลับไปซื้อเน็ตบุ๊กเช่นเดิม
มีเพียง 30% ที่ระบุว่า การเปิดตัวไอแพดไม่มีผลใดๆต่อการตัดสินใจซื้อ โดยกลุ่มนี้เลือกที่จะควักกระเป๋าซื้อเน็ตบุ๊กตามความตั้งใจแรก

ที่ผ่านมา ไอแพดสามารถพิสูจน์ความนิยมของตัวเองได้ด้วยยอดขายที่ทะลุล้านในเวลาไม่กี่วันหลังเริ่มวางจำหน่าย งานวิจัยชิ้นนี้จึงเป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่ชี้ว่า ไอแพดนั้นกำลังทำร้ายตลาดเน็ตบุ๊กอย่างแท้จริง เนื่องจากไอแพดสามารถนำเสนอความสามารถในการเคลื่อนที่เหนือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กได้ดีกว่าที่เน็ตบุ๊กทำไว้ ทั้งในแง่ความคล่องตัว-สวยงามที่มากกว่า และแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานต่อเนื่องนานกว่า

การสำรวจนี้พบว่า คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมาตรฐานยังคงได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคอเมริกัน โดยเฉพาะในรุ่นกลางถึงล่างที่มีราคาคุ้มค่า โดย 65% ของกลุ่มตัวอย่างระบุว่ายินดีเลือกซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมากกว่าเน็ตบุ๊ก หากต้องเลือกซื้อในปีนี้

กลุ่มตัวอย่าง 35% ที่เลือกเน็ตบุ๊กส่วนใหญ่ระบุว่า ติดใจเน็ตบุ๊กเพราะความเล็กกระทัดรัด (50%) ราคาที่ประหยัด (20%) และแบตเตอรี่อายุยืน (19%)
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มืออาชีพเชื่อว่าไอแพดยังไม่สามารถทำยอดขายทะลุเกินหน้าเน็ตบุ๊กในปีนี้ เนื่องจากยังมีส่วนต่างของราคาถึง 200 เหรียญสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้ Jeff Orr นักวิเคราะห์ของบริษัทวิจัย ABI Research ออกผลการศึกษาเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า จะมีเพียง 1% ของผู้ที่ต้องการซื้อเน็ตบุ๊กในปีนี้เท่านั้นที่จะถูกชักจูงไปยังตลาดคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต

ความคืบหน้าล่าสุดของไอแพดในขณะนี้คือการเริ่มวางจำหน่ายในญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์ สเปน อังกฤษ และแคนาดา ในวันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 53 ซึ่งรายงานล่าสุดระบุว่า ชาวญี่ปุ่นกว่า 1,200 คนไปเข้าคิวรอซื้อไอแพดในร้านย่านกินซ่าก่อนเวลาจำหน่ายเครื่อง 8 โมงเช้า เรียกเสียงคึกคักได้เป็นอย่างดี

Company Related Links :
Retrevo
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เทพตัวจริงมากแล้วกับ Eurocom ที่มาพร้อม NVIDIA GTX480M SLI และ HD5870 CrossFireX

เทพตัวจริงมากแล้วกับ Eurocom ที่มาพร้อม NVIDIA GTX480M SLI และ HD5870 CrossFireX เทพกว่านี้คงจะไม่มีอีกแล้วกับ Eurocom รุ่นใหม่นี้ที่เรียกได้ว่าเป็น workstation ตัวแรกที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดแบบในโน๊ตบุ๊กทั่วไปด้วย กับสเปกที่แรงที่สุดด้วยซีพียู Core i7 ทั้งแบบ 4 และ 6 Core การ์ดจอเองก็เทพสุดๆด้วยสเปกการ์ดจอระดับสุดยอดรองรับทั้ง 2 ค่าย ไม่ว่าจะเป็นค่ายแดง ATi พร้อมระบบการ์ดจอคู่ Crossfire ในรุ่น Top HD5870 หรือว่าจะเป็นค่ายเขียว nVIDIA Quadro FX 3800M สำหรับผู้ที่ใช้งานเฉพาะทาง หรือจะเน้นประสิทธิภาพการใช้งานก็มาพร้อมรองรับ SLI ด้วยรุ่นสูงสุด GTX 480M จอภาพใหญ่สะใจ 17.3 นิ้ว ที่ความละเอียด 1080p แรมสูงสุดเพิ่มได้ถึง 24 GB และฮาร์ดดิสค์ 4 ลูก ความจุรวมถึง 4 TB (4,000 GB) ถ้าไม่เรียกเทพโน้ตบุ๊กก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วครับ
ปล.ส่วนราคานั้นไม่ได้บอกมา แต่คาดว่าคงไม่ต่ำกว่าแสนแน่ๆ
Product Specifications EUROCOM Panther 2.0
General Information
Launch Date Late August, 2010
Phase Out Date N/A
Colour Dark Grey
Supported O/S Windows 7; Server 2008R2; RedHat
Special Feature(s) World’s First Notebook with SLI and Crossfire support
System Architecture
Spindle Design 4; 4x HDDs or 3x HDDs + ODD
System Architecture .
Main Chipset Intel X58 + ICH10R
System Bus/FSB .
BIOS Size/Name Phoenix; 16MB
Processor
Processor Intel; i7/Extreme; Xeon 5500/5600 series; 4/6 cores
Processor Cache up to 12MB L3
Socket Type/Spec LGA1366
Processor Speed(s) up to 3.33GHz
Video and Graphics
Video Memory/Type up to 2GB DDR5
VGA Chipset/Architecture nVidia GTX 480M/GTX285M/Quadro FX3800M; ATi HD5870; Crossfire/SLI support
Built-in PC Camera 3M optional
Display
LCD size/type/resolution 17.3-inch FHD 1920×1080; 120Hz 3D Optional
Memory
Maximum RAM/# of sockets 24GB; 3
RAM Type/Spec/Pinout DDR3-1333/1600; SODIMM; 204pin
RAM Configuration(s) 24/12/6GB
Storage
Hard Drives: total # ; max capacity/rpm 4; 4TB
1st HDD: Max capacity/height/interface 1TB
2nd HDD: Max capacity/height/interface 1TB
3rd HDD: Max capacity/height/interface 1TB
4th HDD: Max capacity/height/interface 1TB
Card Reader/Type 7-in-1
Internal Floppy Drive N/A
1st Optical Drive Bay height/options DVD+RW; BD+-RW; BD-R
2nd Optical Drive Bay/Height N/A
DVD-ROM Module DVD+-RW
CD-Burner (WxRWxR) DVD+-RW
Combo DVD-ROM/CD-RW DVD+-RW
DVD-Burner DVD+-RW

ที่มา : eurocom.com , http://www.notebookspec.com/web/?p=30407

NVIDIA GeForce GTX 480M เปิดตัวเป็นทางการแล้ว พร้อมคำโม้ว่าแรงที่สุดในโลก

NVIDIA GeForce GTX 480M เปิดตัวเป็นทางการแล้ว พร้อมคำโม้ว่าแรงที่สุดในโลก นอกจากซีพียูอย่าง AMD และ Intel จะแข่งขันกันหนักแล้ว การืดจอเองก็เบาซะเมื่อไร เพราะหลังจาก ATI เปิดตัวซีรีย์ 5xxx ออกมาก็ทำให้ Nvidia ตกอยู่ในสถานะการณ์ลำบางซึ่งจะเห็นได้ว่าการืดจอโน๊ตบุ๊กในปัจจุบันเป็น ATI ซะเยอะ NVIDIA เลยจำใจต้องรีบส่ง GeForce GTX 480M สำหรับโน้ตบุ๊คที่สนับสนุน DirectX 11 ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวในเครื่อง PC ไปไม่นาน โดย GeForce GTX 480M นั้นจะมาพร้อมกับ CUDA Core ที่สูงถึง 352 Core, Processor Clock 850 MHz , Graphics Clock 425 MHz, Memory Clock 1200 MHz และแรมการ์ดจอ GDDR5 ที่สูงถึง 2GB เลยทีเดียว ส่วนเครื่องที่ใช้การ์ดจอตัวคาดว่าราคาคงจะไม่ใช่ถูกๆ แถมอาจจะต้องใช้พลังงานมากด้วย เพราะในเครื่อง PC ก็ดังเรื่องของความร้อนเมากเหมือนกัน
ที่มา : engadget.com,http://www.notebookspec.com/web/?p=30167

Seagate เตรียมเปิดตลาดฮาร์ดไดร์ฟความจุ 3 เทราไบต์

Seagate เตรียมเปิดตลาดฮาร์ดไดร์ฟความจุ 3 เทราไบต์ ถึงแม้ช่วงหลัง Seagate จะถูกคู่แข่งในอุตสาหกรรมฮาร์ดไดร์ฟแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไปบ้าง แต่ก็ดูเหมือนสถานการณ์ต่างๆ จะไม่ทำให้บริษัทผู้อยู่คู่กับจานแม่เหล็กมาช้านานได้เกรงกลัวอะไรเลย เพราะล่าสุดทาง Seagate Technologies ได้ออกมาประกาศเตรียมพร้อมเปิดตัวฮาร์ดไดร์ฟความจุสูง 3 เทราไบต์แล้ว

โดยฮาร์ดไดร์ฟรุ่นดังกล่าว ทาง Seagate ได้ออกมายืนยันว่าจะพร้อมเปิดตัวและวางจำหน่ายภายหลังปี 2553 อีกทั้งทาง Seagate ยังให้คำแนะนำสำหรับผู้คิดจะเปลี่ยนฮาร์ดไดร์ฟเป็นรุ่นดังกล่าวว่า "สำหรับการใช้งานฮาร์ดไดร์ฟขนาด 3 เทระไบต์จำเป็นต้องทำงานผ่านระบบปฏิบัติการณ์ Windows Vista, Windows 7 แบบ 64 bit Version และ Linux บางเวอร์ชันเท่านั้น อีกทั้งผู้ใช้ยังจำเป็นต้องอัพเดตระบบ Bios (สำหรับเมนบอร์ดรุ่นเก่า) ด้วย เพราะเนื่องจากฮาร์ดไดร์ฟรุ่นดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของ LBA (Logical Block Addressing) จาก 512byte เป็น 4,096byte เพื่อรองรับกับระบบการทำงานที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งถ้าผู้ใช้รันฮาร์ดไดร์ฟผ่านระบบปฏิบัติการณ์ Windows XP หรือเครื่องที่ใช้มี BIOS เป็นรุ่นเก่า ตัวเครื่องจะไม่สามารถมองเห็นความจุของฮาร์ดไดร์ฟได้เต็ม 3 เทระไบต์ แต่จะมองห็นได้เพียง 2.1 เทระไบต์เท่านั้น เนื่องจากระบบ Bios รวมถึง Windows XP จะมองค่า LBA ได้แค่แบบเก่า (512byte) ซึ่งมีอายุใช้งานเกือบ 30 ปีมาแล้ว

เพราะฉะนั้นสำหรับกลุ่มเป้าหมายของฮาร์ดไดร์ฟความจุสูงนี้ ทาง Seagate ได้กล่าวเสริมว่า จะเน้นจับกลุ่มตลาดระดับองค์กร, เซิฟเวอร์ขนาดใหญ่ และกลุ่มคนที่เน้นการใช้งานฮาร์ดไดร์ฟเพื่อเก็บข้อมูลจำนวนมากมากกว่าตลาดระดับ Consumer ที่ตอนนี้ยังไม่เปิดกว้างพอสำหรับเทคโนโลยีที่เข้ามาใหม่นี้

และสุดท้ายทาง Seagate ยังได้กล่าวทิ้งท้ายข้อมูลสำคัญสำหรับผู้ใช้ Consumer ที่ต้องการใช้งานฮาร์ดไดร์ฟตัวนี้ว่า ในความจริงแล้วทุกคนก็สามารถใช้ฮาร์ดไดร์ฟความจุสูงได้ เพียงแต่สิ่งที่ฮาร์ดไดร์ฟตัวนี้ต้องการ นอกจากระบบคอมพิวเตอร์ของคุณจะต้องใช้ระบบปฏิบัติการณ์ Windows Vista, Windows 7 แบบ 64-bit แล้ว ในเรื่องของ Bios ก็จำเป็นต้องรองรับระบบ UEFI (Unified Extensible Firmware Interface) ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของการ Startup ฮาร์ดไดร์ฟรุ่นใหม่นี้ด้วย

Company Related Link :
Seagate

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Futuremark เผยรายละเอียด 3DMark 11

Futuremark เผยรายละเอียด 3DMark 11 หลายคนคงจำชื่อเจ้าแห่งโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพกราฟฟิกการ์ดแนวฮาร์ดคอร์อย่างFuturemark 3DMark กันได้ ซึ่งในแต่ละเวอร์ชั่นที่วางตลาดออกมาจะเห็นว่าทาง Futuremark จะเป็นผู้นำในเรื่องของความเป็นผู้รีดเทคโนโลยีกราฟฟิกในแต่ละยุค ให้ออกมาอย่างเต็มประสิทธิภาพ และเป็นรายแรกๆ ยกตัวอย่างเช่น ในสมัย 3DMark 06 ทาง Futuremark ได้เป็นผู้นำในเรื่องการนำ Shader Model 3.0 และชุดคำสั่ง DirectX 9.0 มาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพหรืออย่าง 3DMark Vantage ทาง Futuremark ก็ได้เป็นผู้นำในเรื่องการดึงประสิทธิภาพของชุดคำสั่งกราฟฟิก DirectX 10 มาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและเป็นเจ้าแรกของวงการ จนในปัจจุบันนี้ก็ยังหากราฟฟิกการ์ดและชุดคอมพิวเตอร์ที่จะใช้ทดสอบ 3DMark Vantage ให้ได้คะแนนสูงๆ และภาพกราฟฟิกที่ไหลลื่นได้ยากยิ่งนัก

แต่ก็ดูเหมือนเทคโนโลยีจะไม่เคยรอใคร เพราะล่าสุดทาง Futuremark ก็ได้ออกมาประกาศเปิดตัว 3DMark เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดในชื่อ "11" ออกมาแล้ว โดยจุดเด่นของเวอร์ชั่นนี้ก็อยู่ที่การรองรับชุดคำสั่ง DirectX 11 ที่จะเน้นในเรื่องของการรองรับคุณสมบัติ Hardware Tessellation (การเพิ่มจำนวนโพลิกอนให้มากขึ้น เพื่อทำให้วัตถุมีมิติและเหมือนจริงมากยิ่งขึ้น) เป็นหลัก
อีกทั้งทาง Futuremark ยังกล่าวเสริมอีกว่านอกจากตัวโปรแกรมจะดึงคุณสมบัติของชุดคำสั่ง DirectX 11 ออกมาอย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว ในส่วนของคุณสมบัติใน GPU ใหม่ๆ ทาง Futuremark จะพัฒนาให้ตัวโปรแกรมสามารถดึงประสิทธิภาพออกมาใช้ได้ทั้งหมดเช่นกัน

สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพในส่วนของเกม ทาง Futuremark ได้ออกตัวทดสอบในชื่อ "Undersea Submarine" โดยจะบรรจุมาให้พร้อมกับตัวโปรแกรม 3DMark 11 ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็ได้มีการเปิดเผยภาพตัวทดสอบดังกล่าวออกมาให้สื่อมวลชนได้เห็นกันบ้างแล้ว โดยภาพที่ออกมาจะเป็นรูปเรือดำน้ำกำลังดำดิ่งลงสู่พื้นมหาสมุทร และบริเวณตัวเรือดำน้ำจะมีโลโก้ MSI ติดอยู่ด้วย

สุดท้ายสำหรับวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโปรแกรมทดสอบนี้จะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน ในงาน Computex ณ ไต้หวัน ส่วนวันวางจำหน่ายตัวเต็มทาง Futuremark ประกาศว่าน่าจะเป็นช่วงหลังมิถุนายน 2553 นี้

Company Related Link :
Futuremark

ที่มา http://www.mgronline.com/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9530000071497

อินเทลเตรียมเปิดตัวซีพียูประหยัดพลังงาน (CULV) ตระกูล Core i

อินเทลเตรียมเปิดตัวซีพียูประหยัดพลังงาน (CULV) ตระกูล Core i "เทคโนโลยียิ่งไปไกลมากขึ้นเท่าไร ผู้คนก็จะสะดวกสบายมากขึ้นเท่านั้น" คงจะเป็นคำกล่าวที่ฟังดูแล้วเป็นจริงตลอดกาลสำหรับแวดวงไอทีในโลกเล็กๆใบนี้จริงๆ เพราะจะเห็นว่าจากอดีตจนถึงปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถแปรเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์พกพาต่างๆ นานาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ อีกทั้งยิ่งวันเดือนปีผ่านไปนานมากขึ้นเท่าใด อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เล็กๆ เหล่านั้นกลับมี ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นในขณะที่รูปร่างกลับเล็กลง อย่างล่าสุดอินเทลก็ได้ประกาศเปิดตัวซีพียู CULV (Consumer Ultra Low Voltage) เพื่อคอโน้ตบุ๊ก Ultra Thin ชุดใหม่ ซึ่งในครั้งนี้จะเป็นการนำซีพียูตระกูล Core i7, i5 และ i3 ประสิทธิภาพสูงมาลงตลาดบ้าง

โดยซีพียู CULV ตระกูลใหม่ที่ทางอินเทลจะนำมาลงตลาดจะประกอบด้วยชื่อรุ่นดังต่อไปนี้

- Core i7-660UM มาพร้อมความเร็ว 1.33GHz (2.40GHz with Turbo Boost Technology) ในส่วนของ Cores/Threads จะอยู่ที่ 2/4 และมี Cache อยู่ที่ 4MB
- Core i5-540UM มาพร้อมความเร็ว 1.20GHz (2.00GHz with Turbo Boost Technology) ในส่วนของ Cores/Threads จะอยู่ที่ 2/4 และมี Cache อยู่ที่ 3MB
- Core i5-430UM มาพร้อมความเร็ว 1.20GHz (1.73GHz with Turbo Boost Technology) ในส่วนของ Cores/Threads จะอยู่ที่ 2/4 และมี Cache อยู่ที่ 3MB
- Core i3-330UM มาพร้อมความเร็ว 1.20GHz (ไม่มี Turbo Boost Technology) ในส่วนของ Cores/Threads จะอยู่ที่ 2/4 และมี Cache อยู่ที่ 3MB
- Pentium U5400 มาพร้อมความเร็ว 1.20GHz (ไม่มี Turbo Boost Technology) ในส่วนของ Cores/Threads จะอยู่ที่ 2/2 และมี Cache อยู่ที่ 3MB
- Celeron U3400 มาพร้อมความเร็ว 1.20GHz (ไม่มี Turbo Boost Technology) ในส่วนของ Cores/Threads จะอยู่ที่ 2/2 และมี Cache อยู่ที่ 2MB

ซึ่งจากรายชื่อซีพียูด้านบน ในส่วนรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ทางอินเทลได้ประกาศว่าซีพียูในตระกูลใหม่นี้ทั้งหมดจะมาพร้อมเทคโนโลยีการผลิตที่ 32 นาโนเมตร บนรหัส Arrandale ซึ่งจะมาพร้อมกับกราฟฟิกชิป (IGP) Intel HD Graphic ที่รองรับการถอดรหัส Blu-Ray อย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งในรุ่น High Performance ทางอินเทลได้อนุญาตให้ผู้ผลิตกราฟฟิกชิปต่างๆ สามารถนำระบบ Switchable Graphics มาใช้ร่วมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการโน้ตบุ๊ก Ultra Thin ประสิทธิภาพสูงอีกด้วย

สุดท้ายสำหรับในส่วนของค่าบริโภคไฟ (TDP) สำหรับซีพียู CULV รุ่นใหม่นี้จะอยู่ที่ราวๆ 18W (CPU + IGP/chipset) ทำให้แบ็ตเตอรี่ในโน้ตบุ๊ก Ultra Thin รุ่นใหม่จะมีอายุการใช้งานต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้งอยู่ที่ 8 ชั่วโมงขึ้นไป อีกทั้งในซีพียูและชิปเซ็ทรุ่นใหม่นี้จะใช้พื้นที่ในตัวโน้ตบุ๊กลดลง 30% และมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 32% จากในรุ่นก่อนหน้านี้

Company Related Link :
Intel Corporation

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Inet 152i ดีไซน์ล้ำ ติดเทรนด์ กับราคาที่ใช่

Inet 152i ดีไซน์ล้ำ ติดเทรนด์ กับราคาที่ใช่ บริษัท ไอเน็ท คอนเน็ค จำกัด เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ รุ่น inet 152i รองรับการทำงาน 2 ซิมการ์ด โดยระบบ Dualband GSM 900/1800 MHz ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สวย ล้ำสมัย มาพร้อมจอแสดงผลขนาด 2 นิ้ว ความละเอียด 240x320 พิกเซล ตอบโจทย์การสื่อสารผ่านคีย์บอร์ด QWERTY รองรับการพิมพ์เต็มรูปแบบด้วยเมนูภาษาไทยที่ใช้งานได้หลากหลายฟังค์ชั่น
สมรรถนะการทำงานเหนือชั้นทั้งลูกเล่ยมัลติมีเดียครบครัน อาทิ กล้องถ่ายรูป, เครื่องเล่น Mp3, บันทึกเสียง, รองรับ Micro SD สูงสุด 8 GB, วิทยุ FM และไฟฉายภายในตัว นอกจากนั้นยังสามารถเล่น Facebook, Yahoo Messenger รวมถึงท่องโลกอินเตอร์เน็ทผ่าน GPRS จำหน่ายในราคาที่ใช่และเหลือเชื่อเพียง 1,990 บาทเท่านั้น พร้อมรับประกันโดยศูนย์ IEC Easy Fix มากกว่า 100 สาขา ทั่วประเทศ
โทรศัพท์มือถือ inet 152i มีจำหน่ายแล้วที่ Blisstel, Mobile Easy และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1369 และ www.inetmobile.net

ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01938.html

aPad ทางเลือกที่ถูกกว่า สำหรับคนอยากได้ iPad

aPad ทางเลือกที่ถูกกว่า สำหรับคนอยากได้ iPad สำหรับใครที่อยากได้ iPad อุปกรณ์ไฮเทคชิ้นล่าสุดจาก Apple แต่ว่าสถานะทางการเงินไม่เอื้ออำนวย ลองเปลี่ยนใจหันมามอง Eken M003 aPad กันดีกว่า เพราะทำออกมาให้มีรูปทรงคล้ายๆ กัน แต่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ควบคุมการทำงานโดยจอแสดงผล ระบบสัมผัส กว้าง 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi พร้อมกล้อง Webcam และ ไมโครโฟน สำหรับสนทนาผ่านระบบ Video conference คุ้มค่าขนาดนี้แต่ราคาไม่แพงอย่างที่คิด เริ่มต้นเพียง 7,790 บาท
คุณสมบัติ Eken M003 aPad Android Tablet PC

จอแสดงผล ระบบสัมผัส TFT กว้าง 8 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 พิกเซล
- ระบบปรับมุมมองการแสดงผลแนวตั้ง/แนวนอนอัตโนมัติ
ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 1.5 Cupcake
หน่วยประมวลผล Rockchip 2808A, 600 MHz
หน่วยความจำในตัว 2 GB หรือ 4 GB (หน่วยความจำ RAM 128 MB)
การ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 32 GB
การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g
รองรับเบราว์เซอร์ Google chrome lite
รับ/ส่ง Email
สนับสนุนโปรแกรมสนทนา Skype, QQ, MSN, Gtalk
แหล่งดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Android Market
รองรับงานเอกสาร Word, Exel, PPT และ PDF
ช่องเชื่อมต่อชุดหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร
มีให้เลือก 3 สี (สีขาว/สีดำ/สีชมพู)
aPad ทางเลือกที่ถูกกว่า สำหรับคนอยากได้ iPad
ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01940.html

มือถือ Fujitsu F06B ถ่ายวีดีโอระดับ Full HD

มือถือ Fujitsu F06B ถ่ายวีดีโอระดับ Full HD NTT DoCoMo เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ Fujitsu F-06B ชูจุดเด่นด้านการการถ่ายภาพ และการถ่ายวีดีโอความละเอียดสูง ดีไซน์โฉบเฉี่ยว พร้อมคุณสมบัติกันน้ำ ถ่ายภาพใต้น้ำได้ลึก 1.5 เมตร จอแสดงผลระบบสัมผัส 3.5 นิ้ว ความละเอียด 480 × 960 พิกเซล ที่สามารถสไลด์ขึ้น และหมุนวางในแนวนอนได้ กล้องถ่ายรูป CMOS ความละเอียด 13.2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ปรับความไวแสง ISO ได้สูงถึง 25600 ระบบออโต้โฟกัส และฟังก์ชั่นตรวจจับใบหน้า กล้องด้านหน้ารองรับวีดีโอคอลล์ สนทนาแบบเห็นหน้า บันทึกวีดีโอคุณภาพระดับ Full HD (1920 × 1080 พิกเซล) ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi หรือ เครือข่าย 3G
คุณสมบัติ โทรศัพท์มือถือ Fujitsu F-06B

รองรับเครือข่าย GSM / HSDPA 7.2 Mbps / HSUPA 5.7 Mbps
ขนาดตัวเครื่อง 115 x 51 x 18.7 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 139 กรัม
จอแสดงผล TFT ความละเอียด 480 x 960 พิกเซล 16 ล้านสี กว้าง 3.5 นิ้ว
กล้องถ่ายรูป 13.2 ล้านพิกเซล (CMOS) พร้อมไฟแฟลช LED
- ระบบออโต้โฟกัส และตรวจจับใบหน้า
- บันทึกวีดีโอ ความละเอียดสุงสุด 1920 × 1080 พิกเซล
เลนส์กล้องรอง CMOS ความละเอียด 3.2 แสนพิกเซล
รองรับการ์ดหน่วยความจำ microSD/SDHC สูงสุด 16 GB
สนทนานานต่อเนื่อง 250 นาที บนเครือข่าย 3G
เปิดรอรับสายนานสูงสุด 690 ชั่วโมง บนเครือข่าย 3G
มีให้เลือก 3 สี (สีขาว/สีฟ้า/สีดำ)

มือถือ Fujitsu F06B ถ่ายวีดีโอระดับ Full HD

มือถือ Fujitsu F06B ถ่ายวีดีโอระดับ Full HD
ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01937.html

จับตาวัฒนธรรมสมาร์ทโฟนริซึ่มเมื่อมือถือครอบงำพฤติกรรมผู้บริโภค

จับตาวัฒนธรรมสมาร์ทโฟนริซึ่มเมื่อมือถือครอบงำพฤติกรรมผู้บริโภคนักสื่อสารการตลาดหลายคนเคยกล่าวว่า ช่องทางการสื่อสารการตลาดที่ทรงอิทธิพลที่สุดไม่ว่าจะเป็นวันก่อน วันนี้ หรือในอนาคต จะมีหน้าตาเป็นรูปสี่เหลี่ยมที่เรียกว่า “จอ”

ตลอดเกือบครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ผู้คนทั่วโลกต่างหลงใหลติดยึดอยู่กับจอโทรทัศน์ สื่อที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถสร้างประสิทธิภาพด้านการตลาดสูงที่สุด และมีราคาแพงที่สุด แต่เมื่อโลกก้าวผ่านสู่คริสตศักราช 2000 เกิดความนิยมในจอสี่เหลี่ยมสายพันธุ์ใหม่ จอคอมพิวเตอร์ และการเกิดของโลกอินเทอร์เน็ต กลายเป็นเครื่องมือการสื่อสารการตลาดจอสี่เหลี่ยมตัวใหม่ ที่นักสื่อสารการตลาดเชื่อว่า ในอนาคตจะแย่งชิงบทบาทไปจากจอโทรทัศน์

แต่ยังไม่ทันที่จอคอมพิวเตอร์จะก้าวขึ้นแทนที่จอโทรทัศน์ ก็เกิดจอที่ 3 ก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และดูเหมือนจะมีแนวโน้มแซงหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ในไม่ช้า นั่นคือ จอโทรศัพท์มือถือ

คุณสมบัติของโทรศัพท์มือถือมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จากเครื่องมือสื่อสารที่ใช้พูดคุย มาเป็นการส่งข้อมูล และวันนี้โทรศัพท์มือถือเปลี่ยนโฉมป็นคอมพิวเตอร์ และกลายเป็นสื่อที่เคลื่อนที่ที่มากด้วยประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงตัวผู้บริโภคมากที่สุด ในชื่อ “สมาร์ทโฟน” แต่น่าเปลกใจที่กลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนอย่างแพร่หลายจนถูกนักสื่อสารการตลาดจับตามอง ไม่ใช่นักธุรกิจ หรือผู้บริหาร กลับกลายเป็นกลุ่มวัยรุ่น นิสิต นักศึกษา

สมาร์ทโฟน ได้รับความนิยมในหมู่วันรุ่น เกิดจากการทำตลาดมือถือแบล็กเบอร์รี่ หรือบีบี ของค่ายมือถือเอไอเอส ที่ใช้ดารามาเป็นแบรนด์เซเลบริตี้ นำบีบีไปใช้ในไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวัน และพยายามเผยแพร่ให้สังคมรับรู้ ซึ่ผลที่ออกมาคือ การเลียนแบบตามของกลุ่มวัยรุ่น เกิดเป็นเทรนด์ฮิตแพร่ขยายออกเป็นวงกว้าง ทั้งที่คนในวงการไอทีมองว่า โทรศัพท์มือถือแบล็กเบอร์รี่ เป็นสมาร์ทโฟนที่มีมานานมาก และไม่มีลูกเล่นอะไรน่าสนใจ หากเทียบกับคู่แข่งอย่างไอโฟน แต่การตลาดที่ดีของเอไอเอส ก็ทำให้แบล็กเบอร์รี่ฟีเวอร์ เกิดขึ้นในเมืองไทยได้

เมื่อความนิยมสมาร์ทโฟนมีมากขึ้น และต่อเนื่องยาวนาน แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป(ประเทศไทย) เครือข่ายเอเยนซี่ด้านการสื่อสารการตลาดยักษ์ใหญ่ระดับโลก โดยแผนกคอนซูเมอร์ อินไซด์ จึงนำเครื่องมือ แมคแคน พัลส์ มาศึกษาและทำความเข้าใจในเชิงลึกถึงพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่ใช้สมาร์ทโฟน กลุ่มวัยรุ่น 18-24 ปี เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญและบทบาทของสมาร์ทโฟนที่มีอิทธิพลมากขึ้นในปัจจุบัน และแนวทาง รูปแบบใหม่ๆ ที่น่าท้าท้ายสำหรับการสื่อสารการตลาดผ่านเทรนด์นี้

วฤตดา วรอาคม Consumer Insights Director บริษัท แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป(ประเทศไทย) จำกัด ผู้รับผิดชอบโครงการศึกษานี้ กล่าวว่า ทัศนคติของกลุ่มเป้าหมายที่ได้ทำการศึกษานี้ระบุว่า หากไม่มีโทรศัพท์มือถือ ก็ต้องมีเพื่อน แสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดกันของผู้บริโภคกับเครื่องมือสื่อสารชนิดนี้ แม้จะต้องอยู่คนเดียวหากมีโทรศัพท์มือถือ ก็เหมือนมีเพื่อนอยู่ด้วย ซึ่งหากแปลงให้เป็นสื่อ หมายถึงจะเป็นสื่อที่สามารถเข้าถึงตัวผู้บริโภคได้อย่างใกล้ชิด และตลอดเวลา ซึ่งไม่เคยมีสื่อชนิดใดทำได้ สมาร์ทโฟนเข้ากับไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นที่มีการเดินทางออกนอกบ้านตลอดเวลา

วัยรุ่นส่วนใหญ่ใช้แอปพริเคชั่นมัลติมีเดียในสมาร์ทโฟน สำหรับความบันเทิง เช่น การถ่ายรูป ฟังเพลง เล่นเกม และในขณะเดียวกันก็ใช้สำหรับชีวิตออนไลน์ ทั้งการแชท หรือเข้าสู่โซเชียล เน็ตเวิร์ก และการที่สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จะมีแอปริเคชั่น GPS บอกสถานที่ ก็ทำให้วัยรุ่นนิยมบอกไลฟ์สไตล์ตัวเองผ่านสถานที่ที่ตนเองอยู่ แชร์ประสบการณ์ในกลุ่มเพื่อน ในเวลา และจากสถานที่จริง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ ได้สร้างผลกระทบให้กับสื่ออื่นๆ ถูกลดบทบาทลง ทั้งการดูทีวีน้อยลง และการใช้คอมพิวเตอร์น้อยลง

วฤตดา กล่าวถึงเทรนด์ใหม่ๆ ที่จะมากับเทคโนโลยีในสมาร์ทโฟน ซึ่งนักการตลาดสามารถนำมาใช้เพื่อการสื่อสารแบรนด์สินค้าให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น ประกอบด้วย

1) Mobile Apps, The New Website ในยุคที่ชีวิตของกลุ่มเป้าหมายเป็นไปด้วยความเร่งรีบ ต้องใช้เวลาอยู่บนท้องถนน นอกบ้าน ส่งผลให้แอปพริเคชั่นต่างๆ บนโทรศัพท์มือถือมีความสำคัญมากขึ้น การออนไลน์ผ่านมือถือในวันนี้ดูจะมากกว่าการเข้าเว็บไซส์ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งอีกไม่นานทุกอย่างบนโลกออนไลน์ที่เคยทำได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็จะย้ายมาทำผ่านหน้าจอมือถือแทน

2) AR Gets Real วันนี้วงการสื่อสารการตลาดอาจจะเพลิดเพลินกับเครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า QR Code แต่ในวงการไอทีระบุว่า QR Code เป็นเทคโนโลยีแก้ขัด ที่มีบทบาทเพียงการส่งต่อข้อมูลแบนๆ แต่สำหรับ AR หรือ Augmented Reality ที่สามารถสร้างความตื่นเต้นน่าติดตาม ด้วยการเป็นเทคโนโลยีสามมิติ สร้างการเปลี่ยนแปลงในประสบการณ์ผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ทั้งการสร้างแบรนด์ผ่านกิจกรรม เล่นเกมส์ ให้ความบันเทิง ที่สมจริงยิ่งขึ้น

3) New Circle การที่โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่อยู่กับผู้บริโภคทุกที่ ทุกเวลา ทำให้กลุ่มเป้าหมายสามารถแชร์สถานการณ์กับเพื่อนได้ทุกเมื่อ อัพเดตว่าตนเองอยู่ที่ไหน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานีที่ที่เดินทางไป แวะเจอเพื่อนที่อยู่ในละแวกเดียวกัน หรือทำความรู้จักกับผู้ใช้มือถือที่อยู่รอบข้าง ถือเป็นยุคใหม่ที่ผู้คนจะเริ่มเปิดตัวเอง และทำความรู้จักกับคนรอบข้างที่มีไลฟ์สไตล์และความสนใจคล้ายกัน

4) Branded Edutainment ในอนาคตสินค้าทุกแบรนด์จะต้องมีการสร้างแอปพริเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ขึ้นเป็นของตนเอง เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกันกับกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อดิจิตอล ในรูปแบบและวิธีการใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความบันเทิง การให้ข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ และการให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการช่วยสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีความแปลกใหม่ น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

5) Uber Convergence นวัตกรรมใหม่ๆ บนโทรศัพท์มือถือ ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกวิธีการเข้าถึงคอนเทนต์ผ่านสื่อที่หลากหลาย และผ่านคอนเนกชั่นที่หลากหลายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูรายการเคเบิลทีวีผ่านโทรศัพท์มือถือ การใช้โทรศัพท์มือถือเป็นรีโมทในการควบคุมระบบเครื่องรับสัญญาณต่างๆ ภายในบ้าน รวมถึงการเป็นกระเป๋าสตางค์ชำระค่าสินค้าได้

วฤตดากล่าวว่า โทรศัพท์มือถือกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น มหาวิทยาลัย และวัยเริ่มต้นทำงาน นักการตลาดจะต้องมองสถานการณ์นี้อย่างยาวไกลซึ่งจะพบว่า อนาคตโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน จะมีการใช้เพิ่มขึ้นอีกมาก ซึ่งคาดว่าภายในเวลา 4-5 ปี มือถือจะกลายเป็นสื่อแมส จนทำให้การวางแคมเปญสื่อสารการตลาดที่จะมุ่งเข้าหาคนกลุ่มนี้ ต้องมีการใช้สื่อโทรศัพท์มือถือเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ หรือบางครั้งอาจเป็นสื่อหลัก

อย่างไรก็ตาม การใช้สื่อโทรศัทพ์มือถือเป็นข้อห้ามที่สำคัญคือ แคมเปญการตลาดที่สื่อสารไป ไม่ควรเป็นการชี้นำ หรือการยัดเยียดข้อมูล เพราะกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้เป็นผู้ที่ความเป็นตัวของตัวเองสูง ต้องเปิดโอกาสให้เขาเต็มใจที่จะรับรู้ข้อมูลด้วยตนเอง โดยการสร้างคอนเทนต์ให้เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมาย มีความคิดที่สร้างสรรค์ ใช้ลูกเล่นเทคโนโลยีที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟน สร้างแรงดึงดูดซึ่งกลุ่มเป้าหมายไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน จึงจะทำให้แคมเปญการตลาดนั้น ประสบผลสำเร็จได้

ที่มาโดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์

แฉด้านมืด โซเชียลเน็ตเวิร์ก

แฉด้านมืด โซเชียลเน็ตเวิร์ก *โซเชียล เน็ตเวิร์กไทยอันตรายแบบไม่รู้ตัว
* เหรียญด้านมืดกำลังบ่มเพาะรอวันโจมตี
* ผู้ใช้เครือข่ายสังคมยังหลงระเริงเล่นเพลินไม่ระวัง
* อาชญากรไซเบอร์กลายเป็นฆาตกรมาแล้วในต่างประเทศ
กระแสโซเชียล เน็ตเวิร์ก หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เฟื่องฟูอย่างมากในประเทศไทยขณะนี้ ยังคงมีแนวโน้มความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉพาะคนไทยที่แห่ใช้งานเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ก็มีทะลุ 4 ล้านรายไปแล้ว และหากนับเฉพาะเฟซบุ๊กอย่างเดียวก็มีมากกว่า 3 ล้านราย
อย่างไรก็ตาม การใช้งานโซเชียล เน็ตเวิร์กในเมืองไทยขณะนี้เมื่อเทียบกับต่างประเทศ อย่างในอเมริกาหรือยุโรปแล้ว โซเชียล เน็ตเวิร์กไทยเสมือนแค่ยุคเริ่มต้นเท่านั้น ต่างกับในประเทศที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายมานานแล้ว การใช้งานโซเชียล เน็ตเวิร์กจะอยู่ในยุคที่พูดถึงเรื่องซีเคียวริตี้เป็นหลัก
แน่นอนว่าวันนี้ผู้ใช้ในประเทศไทยเห็นถึงประโยชน์การใช้งานโซเชียล เน็ตเวิร์ก แต่กลับมีคนที่รู้จักภัยที่อาจจะมาพร้อมกับการใช้งานโซเชียล เน็ตเวิร์กไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
'การใช้งานโซเชียล เน็ตเวิร์กที่แพร่หลาย พบว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่เป็นนักเรียน นักศึกษามีเพียง 4 ใน 100 คนที่รู้ด้านลบของการใช้โซเชียล เน็ตเวิร์ก และรู้ว่าต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง'
เป็นคำกล่าวของ ปริญญา หอมเอนก นักวิชาการและกรรมการและเลขานุการ สมาคมความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ
ปริญญา มองว่า กระแสโซเชียล เน็ตเวิร์กที่มาแรงมากๆ เป็นยุคที่ผู้ใช้เป็นคนสร้างคอนเทนต์เอง ต่างจากอดีตที่เว็บมาสเตอร์เป็นผู้ดูแล แต่การเล่นโซเชียล เน็ตเวิร์กกำลังกลายเป็นดาบสองคม ถ้าใช้ไม่ระวังก็จะเป็นภัยกับตัวเอง รวมทั้งองค์กร โดยเฉพาะการทวิตหรือโพสต์ข้อมูลที่อาจเป็นช่องโหว่ให้อาชญากรไซเบอร์ใช้เป็นข้อมูลในการคุกคามผู้ใช้ได้ง่ายๆ
ในมุมมองของ ไชยกร อภิวัฒโนกุล Chief Security Officer PTT ICT Solutions Company Limited ได้ยกตัวอย่างภัยร้ายด้านมืดของโซเชียล เน็ตเวิร์กในต่างประเทศถึงขั้นเกิดการฆาตกรรมกันมาแล้ว โดยสิ่งที่ผู้ใช้โซเชียล เน็ตเวิร์กให้ข้อมูลไว้บนเว็บต่างๆ เหล่านั้น หรือการโพสต์ภาพต่างๆ โดยไม่ระมัดระวัง ทำให้อาชญากรไซเบอร์สามารถจิ๊กซอว์และสืบหาข้อมูลนำไปสู่การติดตามตัวคนหนึ่งคนใดจากโลกไซเบอร์ไปสู่การติดตามและทำร้ายในโลกจริงได้
'วันนี้บรรดานักเรียน นักศึกษาไม่ระวังภาพที่โพสต์ให้เพื่อนๆ ดู ซึ่งบางภาพอาจล่อแหลม จนทำให้ผู้ไม่หวังดีติดตามตัวผู้นั้นเพื่อทำสิ่งไม่ดีต่อไปได้'
ยิ่งทุกวันนี้อาชญากรในโลกไซเบอร์มีความเก่งมากขึ้น การที่จะเข้าไปลวงข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ของเป้าหมายในเครือข่ายสังคมก็ทำได้ง่าย เนื่องจากผู้ใช้โซเชียล เน็ตเวิร์กไม่ระวังตนเองและป้องกันการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างดีพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของรหัสส่วนตัวที่กลายเป็นเรื่องง่ายที่ผู้ไม่หวังดีสามารถสืบเสาะได้ง่าย
'ขนาดประธานาธิบดีโอบามาของสหรัฐฯ ยังโดนแฮกเฟซบุ๊กมาแล้ว'
ด้าน ปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) มองถึงประเด็นนี้ว่าขณะนี้การใช้งานโซเชียล เน็ตเวิร์กได้เริ่มย้อนกลับมาทำร้ายผู้ใช้กันแล้ว จึงควรให้ความสำคัญถึงการป้องกันการใช้งานเครือข่ายสังคมให้มากขึ้น เพราะทุกคนรู้แต่ประโยชน์ที่จะได้รับจากโซเชียล เน็ตเวิร์ก
ส่วน เมธา สุวรรณสาร อุปนายกสมาคมความมั่นคงความปลอดภัยระบบสารสนเทศ กล่าวว่าสิ่งจำเป็นที่สุดของการใช้สื่อบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผู้ใช้จำเป็นต้องตระหนักถึงภัยที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งการใช้ข้อมูล ซึ่งควรต้องรู้ถึงจุดอ่อนจุดแข็งของเครื่องมือที่ใช้งาน โดยเฉพาะการใช้โซเชียล เน็ตเวิร์กในองค์กรมีโอกาสที่ข้อมูลสำคัญจะหลุดออกไปได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลในต่างประเทศ อย่างสหรัฐฯ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยสูงมาก โดยกำหนดเป็นนโยบายที่มีผลต่อการบริหารจัดการประเทศ รวมไปถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระดับองค์กร เพราะเชื่อว่าข้อมูลสำคัญที่หลุดออกไปนอกองค์กรอาจสร้างความเสียหายใหญ่หลวงได้
ปริญญา แนะว่า รัฐบาลไทยควรต้องเร่งจัดตั้งหน่วยงาน 'ความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์แห่งชาติ หรือเนชั่นนัล ไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ให้เป็นหน่วยงานที่จะเข้ามาดูแลความปลอดภัยและการใช้งานบนโลกไซเบอร์ทั้งหมด เนื่องจากประเทศอื่นๆ มีการจัดตั้งหน่วยงานเช่นนี้แล้วทั้งนั้น ซึ่งถ้าในประเทศไทยมีหน่วยงานด้านนี้โดยเฉพาะจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจวางนโยบายป้องกันต่างๆ ของประเทศชาติต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลจะสามารถเร่งผลักดันการออกประกาศกฎกระทรวงเพื่อบังคับใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะมาตรา 35 ซึ่งเน้นการทำธุรกรรมทางออนไลน์ของภาครัฐให้อยู่ภายใต้มาตรฐานหรือทิศทางเดียวกัน และมาตรา 25 บังคับให้หน่วยงานรัฐและเอกชนต้องทำมาตรฐาน ISO27001 หรือมาตรฐาน ISO27001:2005 ที่เป็นมาตรฐานเกี่ยวกับระบบบริหารความมั่นคงปลอดภัยของสารสนเทศ
'สถานการณ์ความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ของไทยอยู่ในขั้นเริ่มต้น ไม่มีมาตรการหรือข้อบังคับทางกฎหมายที่เข้มงวด จึงเป็นช่องโหว่ให้เกิดการโจมตีและก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน จึงควรมีการเอาจริงเอาจังนับจากนี้เป็นต้นไป' ปริญญา กล่าว
มองด้านบวก
โซเชียลเน็ตเวิร์ก

เหรียญมีสองด้าน โซเชียล เน็ตเวิร์กก็เช่นกัน ย่อมมีทั้งด้านบวกและด้านลบ แต่วันนี้เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกแล้วว่านับวันกระแสของโซเชียล เน็ตเวิร์ก ไม่ว่าจะเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ยูทูบ ไฮไฟว์ และอีกหลายร้อยหลายพันเว็บไซต์ ได้พุ่งทะยานแบบฉุดรั้งอย่างไรก็ไม่อยู่แล้ว เนื่องจากประโยชน์ของมันนั่นเอง

ด้านบวกของโซเชียล เน็ตเวิร์กจึงมีอย่างมากมาย และกลายเป็นมีเดียที่กลบทุกมีเดียแบบเดิมๆ อย่างสิ้นเชิง เพราะวันนี้ 'โซเชียล มีเดีย' ต้องขยับและปรับตัวตามกันแทบไม่ทัน

ยิ่งวันนี้ โซเชียล มีเดียได้กลายเป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลทั้งต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนทั่วไป สังคม และนักการตลาด โซเชียล มีเดีย ได้กลายเป็นช่องทางการทำตลาดของบรรดาแบรนด์ดังๆ ระดับโลกมากยิ่งขึ้น ภาพที่เกิดขึ้นคือนักการตลาดกระโจนเข้ามาสู่โซเชียล มีเดียกันมากขึ้น โดยแทบไม่ต้องลงทุนเป็นตัวเงิน สิ่งที่นักการตลาด หรือเจ้าของแบรนด์จะลงทุนอย่างเดียว คือ การจ่ายเพื่อคอนเทนต์ หมายความว่า จะต้องมีการสร้างคอนเทนต์ให้คนเข้ามาติดตาม และเข้ามามีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด

คอนเทนต์ ณ วันนี้ คือ เทรนด์ของการทำการตลาดผ่านโซเชียล มีเดีย ตามกระแสของโลก ที่แต่ละแบรนด์สินค้า และบริการจะแข่งขันกันอย่างสูงเพื่อทำคอนเทนต์ให้ดึงดูดใจ เพื่อเป็นช่องทางที่จะเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้ ปัจจัย 4 อย่าง ที่จะทำให้เกิดความสำเร็จในการทำการตลาดผ่านทางโซเชียล มีเดีย ได้แก่ การมีคอนเทนต์ที่ดี (Content) การโต้ตอบกับกลุ่มลูกค้าได้ตลอดเวลา (Conversation) การสร้างให้เกิดคอมมูนิตี้ (Community) และความร่วมมือกันในคอมมูนิตี้ เพื่อนำไปสู่การสร้างสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ให้กับแบรนด์สินค้าต่างๆ (collaboration & co-creation)

สิ่งหนึ่งที่ 'โซเชียล มีเดีย' กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลบนอินเทอร์เน็ต ปัจจัยหนุนสำคัญคือ บรรดาผู้รับข่าวสารทั่วโลกมักใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตมากกว่าสื่อเดิมๆ แบบไม่เห็นฝุ่น และพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เขาใช้บนอินเทอร์เน็ตก็จะเป็นพื้นที่ของเว็บประเภทโซเชียล มีเดีย

เห็นได้จากข้อมูลปัจจุบัน วัยรุ่นอเมริกันมักใช้เวลาไปกับสื่ออินเทอร์เน็ตมากกว่าสื่อทีวี นั่นทำให้หลายแบรนด์สินค้า และบริการระดับโลกต่างกระโจนเข้าหาสื่อออนไลน์กันเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่สื่อดั้งเดิม ทั้งทีวี วิทยุ โทรทัศน์ แม้แต่หนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารต่างๆ ก็เกิดการหลอมรวมของสื่อเพื่อต้องการให้ข่าวสารที่ส่งไปสู่ผู้รับสารสามารถมีช่องทางกระจายข่าวให้ได้มากที่สุด

ด้านบวกของโซเชียล เน็ตเวิร์กจึงยิ่งฉายแสงอันเจิดจ้าและยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ จึงต้องอยู่ที่ผู้ใช้งานว่าจะนำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าโทษได้อย่างไร

ที่มาโดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์

LYNX SH-10B แอนดรอยด์โฟนในรูปทรงเน็ตบุ๊ค

LYNX SH-10B แอนดรอยด์โฟนในรูปทรงเน็ตบุ๊ค LYNX SH-10B สมาร์ทโฟนที่ผลิตโดย SHARP ออกแบบมาให้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนเน็ตบุ๊ค มาพร้อมกับคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย เริ่มตั้งแต่รองรับระบบปฏิบัติการ Android จอแสดงผล กว้าง 5 นิ้ว ป้อนข้อมูลได้อย่างสะดวกผ่านแป้นพิมพ์ QWERTY ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi หรือ เครือข่าย 3.5G สนับสนุนแอพพลิเคชั่น Twitter รองรับบริการจาก Google และ มีกล้องถ่ายรูปมาให้ 2 ตัว
คุณสมบัติ SHARP LYNX SH-10B

รองรับเครือข่าย HSDPA 7.2 Mbps / HSUPA 5.7 Mbps
ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 1.6
จอแสดงผล 65,536 สี ความละเอียด 960 x 480 พิกเซล กว้าง 5 นิ้ว
แป้นพิมพ์ QWERTY
ปุ่มควบคุมทิศทางแบบ Trackball การเชื่อมต่อ Wi-Fi และ รองรับ DLNA
เครื่องเล่นเพลง MP3
รองรับวีดีโอจาก YouTube และ สนับสนุนไฟล์ WMV
รองรับการ์ดหน่วยความจำ microSD/SDHC
โปรแกรม Documents To Go ใช้งานเอกสาร Word, Excel และ PowerPoint
Android Market แหล่งดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม
เลนส์กล้องหลัก CMOS ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- ระบบตรวจจับใบหน้า และ ปรับโฟกัสอัตโนมัติ
เลนส์กล้องรอง CMOS ความละเอียด 4.1 แสนพิกเซล
ขนาดตัวเครื่อง 83 x 148 x 17.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 230 กรัม
สนทนานานต่อเนื่อง 310 นาที บนเครือข่าย 3G
เปิดรอรับสายนานสูงสุด 280 ชั่วโมง บนเครือข่าย 3G
มีให้เลือก 2 สี (สีขาว/สีแดง)
ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01932.html

ข้อมูลทั่วไป Samsung C3300K Champ - ซัมซุง C3300K

ข้อมูลทั่วไป Samsung C3300K Champ - ซัมซุง C3300K
เปิดตัวครั้งแรก 21 พฤษภาคม 2010 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2010 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) - บาท (ยังไม่ระบุ)
ข้อมูลตัวเครื่อง Samsung C3300K Champ - ซัมซุง C3300K(Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
จอสัมผัส TFT-LCD 262,144 สี - 240 x 320 พิกเซล (2.4")
- ระบบสัมผัสแบบ TouchWiz Lite UI พร้อม Widget
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer sensor)
เสียงเรียกเข้า MP3, Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 30 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD card - สูงสุด 8 GB
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 1,000 รายชื่อ (Phonebook)
- แสดงรูปถ่าย ขณะมีสายเข้า (Photo CallerID)

ระบบเชื่อมต่อ Samsung C3300K Champ - ซัมซุง C3300K (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.1, MicroUSB v2.0
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML, HTML, WAP 2.0 Browser
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email, MMS, SMS ผ่าน EDGE, GPRS Class 10
รองรับ จาวาแอปพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0

จุดเด่น Samsung C3300K Champ - ซัมซุง C3300K(Feature)
กล้องดิจิตอล 1.3 ล้านพิกเซล (Digital camera)
- ขนาดภาพสูงสุด 1280x1024 พิกเซล (Image size)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
เครื่องเล่นวีดีโอ H.263, MPEG4
เครื่องเล่นเพลง (Music Player)
- รองรับไฟล์ MP3, eAAC+, WMA
วิทยุ FM radio - RDS
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)

การใช้งานของแบตเตอรี่ Samsung C3300K Champ - ซัมซุง C3300K
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,000 mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย 666 ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง (Talk Time)
Samsung C3300K Champ - ซัมซุง C3300K

ที่มา http://www.siamphone.com/catalog/samsung/c3300k_champ.htm

ข้อมูลทั่วไป Samsung One TV - ซัมซุง วัน ทีวี

ข้อมูลทั่วไป Samsung One TV - ซัมซุง วัน ทีวี
เปิดตัวครั้งแรก 7 พฤษภาคม 2010 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 2 ปี 2010 (พฤษภาคม 53)
ราคามือถือ (เปิดตัว) - บาท (พฤษภาคม 53) ข้อมูลตัวเครื่อง Samsung One TV - ซัมซุง วัน ทีวี (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
จอสัมผัส TFT-LCD 262,144 สี - 240 x 320 พิกเซล (2.8")
- ระบบสัมผัสแบบ TouchWiz UI พร้อม Widget
เสียงเรียกเข้า MP3, Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 30 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD card - สูงสุด 8 GB
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 1,000 รายชื่อ (Phonebook)

ระบบเชื่อมต่อ Samsung One TV - ซัมซุง วัน ทีวี(Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.1, USB v2.0
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML, HTML/WAP 2.0 Browser
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email, MMS, SMS ผ่าน EDGE, GPRS
- ข้อความแชท (Instant Messaging) - Palringo
รองรับ จาวาแอปพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
จุดเด่น Samsung One TV - ซัมซุง วัน ทีวี(Feature)
เครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ในตัว (TV Tuner)
กล้องดิจิตอล 1.3 ล้านพิกเซล (Digital camera)
- ขนาดภาพสูงสุด 1280x960 พิกเซล (Image size)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
เครื่องเล่นวีดีโอ H.263, H.264, MPEG4
เครื่องเล่นเพลง MP3, WMA, eAAC+
- DNSe เพิ่มเอฟเฟกต์ SRS Sound และ Equalizer
วิทยุ FM radio - RDS
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
เครื่องบันทึกเสียง (Voice Recorder)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)
โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ (Photo Editor)
ปฏิทิน, สิ่งที่ต้องทำ, นาฬิกาปลุก, เครื่องคิดเลข, ตัวแปลงหน่วย, เวลาโลก, จับเวลา, การตั้งเวลา และ สมุดบันทึก

การใช้งานของแบตเตอรี่ Samsung One TV - ซัมซุง วัน ทีวี
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 960 mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย 720 ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง (Talk Time)
ฟังเพลงต่อเนื่อง 25 ชั่วโมง (Music playback time)

ที่มา http://www.siamphone.com/catalog/samsung/one_tv.htm

Samsung I9000 Galaxy S - ซัมซุง

ข้อมูลทั่วไป Samsung I9000 Galaxy S - ซัมซุง
เปิดตัวครั้งแรก 25 มีนาคม 2010 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 2 ปี 2010 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ยังไม่ระบุ ข้อมูลตัวเครื่อง Samsung I9000 Galaxy S(Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
- UMTS 900/1900/2100 MHz,
- HSDPA 7.2 Mbps, HSUPA 5.76 Mbps
จอสัมผัส Super AMOLED 16.7 ล้านสี - 800 x 480 พิกเซล (4")
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer sensor)
- ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity Sensor)
- Ambient light sensor : ปรับแสงสว่างของไฟหน้าจออัตโนมัติ
- ระบบสัมผัสแบบ TouchWiz
เสียงเรียกเข้า MP3, Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
ระบบปฏิบัติการ : Android™ 2.1 Eclair
หน่วยประมวลผล 1 GHz (Processor)
- หน่วยความจำ 8 GB / 16 GB (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 32 GB
ระบบเชื่อมต่อ Samsung I9000 Galaxy S (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WiFi 802.11b/g, WLAN (Wireless LAN)
- บลูทูธ Bluetooth™ v3.0, micro-USB v2.0
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ Stereo)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต HTML/WAP 2.0 Browser
- รองรับ RSS Reader
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email, MMS, SMS ผ่าน 3G-HSDPA, EDGE, GPRS
- ข้อความแชท (Instant Messaging)
จุดเด่น Samsung I9000 Galaxy S(Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In A-GPS navigation)
- รองรับแผนที่ Google Maps
- เข็มทิศดิจิตอล (Digital compass)
กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล (Digital camera)
- ขนาดภาพสูงสุด 2560x1920 พิกเซล (Image Size)
- ปรับภาพอัตโนมัติ (Autofocus)
- ซูมดิจิตอล (Digital zoom)
- โหมดถ่ายภาพ : Smile shot, Self-timer, Panorama, Add me, Action shot, Stop motion, Cartoon shot
กล้องตัวที่สอง VGA รองรับ Video Call สนทนาแบบเห็นภาพ
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ความละเอียด 720 x 480 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที
เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Player)
- รองรับไฟล์ Code:mpeg4, H.264, H.263, H.263, Sorenson, Divx/Xvid, VC-1, Format 3gp (mp4), WMV(asf), AVI(divx), MKV, XMF
เครื่องเล่นเพลง (Music Player)
- รองรับไฟล์ MP3, AAC, AAC+, eAAC+, WMA, OGG, AMR-NB, WAV, MID, AC3, IMY, FLAC, XMF
วิทยุ FM Radio - RDS
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)
Flight mode : ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม (Android market)

การใช้งานของแบตเตอรี่ Samsung I9000 Galaxy S
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,500 mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย - ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง - นาที (Talk Time)

ที่มา http://www.siamphone.com/catalog/samsung/i9000_galaxy_s.htm

Apple iPad แบบเซ็กซี่

Apple iPad แบบเซ็กซี่ อย่าเพิ่งคิดว่าทาง Apple เปลี่ยนแนวทางทำการตลาดมาเป็นแนวนี้แล้ว เพราะที่เห็นนางแบบสาว โพสต์ท่าเซ็กซี่โฆษณา Apple iPad อยู่นี้เป็นแคมเปญการโฆษณาของตัวแทนจำหน่ายจากทางจีนเอง ซึ่งเราคงเห็นโฆษณาแบบนี้กันบ่อยๆ อยู่แล้ว ลองมาพักสมองจากเรื่องเครียดๆ ดูภาพ iPad แบบเซ็กซี่ๆ กันซะหน่อย

ที่มา : reallycuteasians

วันเกิด 30 ปีของ PAC-MAN กูเกิ้ลทำเก๋ให้เล่นเกมส์ที่โลโก้

วันเกิด 30 ปีของ PAC-MAN กูเกิ้ลทำเก๋ให้เล่นเกมส์ที่โลโก้ ใครที่เข้าหน้าเว็บ Google (http://www.google.co.th) คงจะแปลกใจ อมยิ้มกับความน่ารักของโลโก้ Google วันนี้ ซึ่งปกติ Google ในวันสำคัญต่างๆ ก็มีโลโก้พิเศษๆ เข้ากับเทศกาลอยู่แล้ว แต่ในคราวนี้โอกาสครบรอบ 30 ปีของ PAC-MAN เกมสุดคลาสสิค Google เลยเปลี่ยนโลโก้เป็นเกม PAC-MAN แถมทำเก๋ด้วยการให้เราเล่นเกมได้ด้วย โดยใช้ลูกศรที่คีย์บอร์ดบังคับเกมได้ทันที

คลิ๊กไปลองเล่นกันดูที่หน้าเว็บ Google

ที่มา : google

Kindle เวอร์ชัน Android ใกล้คลอดแล้ว

Kindle เวอร์ชัน Android ใกล้คลอดแล้ว รายงานข่าวล่าสุด Kindle ยังคงดำเนินการตามภารกิจในการที่จะทำให้ผู้บริโภคอ่านอีบุ๊กที่ซื้อมาจาก Amazon ได้จากทุกที่ และทุกอุปกรณ์ โดย Amazon ประกาศว่า คินเดิ้ลเวอร์ชันแอนดรอยด์ ซึ่งคุณสมบัติการใช้งานต่างๆ แทบจะเหมือนกับที่ใช้งานได้บน iPhone หรือ BlackBerry ความแตกต่างที่ผู้ใช้จะได้พบในเวอร์ชันแอนดรอยด์ก็คือ...คุณสามารถซื้อหนังสือต่างๆ จากภายในแอพพลิเคชัน (เช่นเดียวกับในเวอร์ชัน Blackbberry) ในขณะที่บน iPhone และ iPod Touch และ iPad คุณจะต้องรีไดเร็กเข้าไปในเว็บไซต์ Kindle ทันทีที่คุณเลือกซื้อหนังสือเล่มใหม่ การที่คินเดิ้ลบนมือถือแอนดรอยด์สามารถสืบค้น และสั่งซื้อหนังสือจากในแอพฯได้ทันทีทำให้ผู้ใช้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้เหตุผลที่แอมะซอนออกแบบให้ทำงานในลักษณะรีไดเร็กชั่นบน iPhone ก็เพราะไม่ต้องการจ่ายค่าทรานสแอคชัน 30% (in-app Transactions) ให้กับ Apple หากออกแบบให้มีการเลือกและสั่งซื้อจากในแอพฯได้ทันที Kindle for Android app กำลังจะเปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรีในเร็วๆ นี้ โดยสามารถรันบน Android ตั้งแต่เวอร์ชัน 1.6 เป็นต้นไป

ที่มา : Arip

2014 "แท็บเล็ต"ครองโลกคอมพิวเตอร์?

2014 "แท็บเล็ต"ครองโลกคอมพิวเตอร์?
ความร้อนแรงของไอแพด (iPad) จากแอปเปิ้ล (Apple) บริษัทวิจัยตลาดไอดีซี (IDC) รายงานแนวโน้มที่น่าสนใจว่า "แท็บเล็ต" จะมียอดจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็น 6 เท่าหรือ 46 ล้านเครื่อง (จาก 7.6 ล้านเครื่องในปีนี้) ภายในปี 2014
ทางบริษัทฯ ยังคาดอีกด้วยว่า ในปี 2014 จะมียอดการจำหน่ายคอมพิวเตอร์พกพาทั้งสิ้น 398 ล้านเครื่อง ซึ่งหากเป็นไปตามคาดการณ์ แท็บเล็ตจะมีสัดส่วนในตลาดถึง 11% ถือว่าเป็นการเติบโตที่เร็วมาก ทั้งนี้ผลจากการที่ไอแพดสามารถสร้างสถิติของยอดจำหน่ายที่ 1 ล้านเครื่องภายใน 28 วัน ทำให้เหล่าบรรดาผู้ผลิตพีซีเล็งเห็นอนาคตของตลาดแท็บเล็ต หลายๆ เจ้าก็เลยกระโดดเข้ามาในสมรภูมินี้ด้วย อย่างเช่นที่ประกาศตัวเป็นรายแรกๆ เลยก็คือ HP Slate ที่ใช้ Windows 7 ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น Hurricane และใช้ WebOS ของ Palm แทน

ความต้องการสำหรับคอมพิวเตอร์จะขยับไปสู่ตลาดอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง ซึ่งแท็บเล็ตได้เข้ามาเปิดตลาดนี้อย่างชัดเจน โดยหลังจากที่ปลดพันธนาการในการมีคีย์บอร์ด หรือเมาส์ออกไป คงเหลือแต่หน้าจอสัมผัสทีใช้งานง่าย พกพาสะดวก สามารถบริโภคมีเดียต่างๆ และท่องเน็ตได้ จากการทีแนวโน้มความต้องการในผลิตภัณฑ์ตัวนี้พุ่งเป้าไปที่ตลาดคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อความบันเทิงในฐานะ Media Tablet ส่วนบุคคล ทำให้การเติบโตของมันมีโอกาสที่จะพุ่งพรวดภายใน 4 ปีข้างหน้า จนสามารถเขย่าบัลลังก์ตลาดคอมพิวเตอร์พกพา (โน้ตบุ๊ก, เน็ตบุ๊ก) ให้สั่นสะเทือนได้

ขณะเดียวกัน รายงานวิจัยจากหลายๆ แห่งก็สนับสนุนแนวโน้มนี้ โดยต่างสรุปตรงกันว่า กระแสความต้องการไอแพดของผู้บริโภคแข็งแรงเกินคาด ซึ่งรายงานวิจัยจาก ChangeWave Research ที่เปิดเผยออกมาล่าสุดระบุว่า ผู้บริโภคที่ซื้อ เพราะรู้สึก "ชอบไอแพดมาก" เพิ่มขึ้นเป็น 7% (เทียบกับผลการสำรวจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่มีอยู่ 4%) ในขณะที่ "ค่อนข้างชอบ" เพิ่มขึ้นเป็น 13% จากเดิม 9%

[Update 21/05/2010] สถิติยอดขายไอแพดมากกว่า 200,000 เครื่องต่อสัปดาห์ เทียบกับแม็ค 110,000 เครื่อง และไอโฟน 240,000 เครื่องต่อสัปดาห์ การเกิดของไอพอด และไอโฟนทำให้แม็คขายได้มากขึ้น แต่ไอแพดจะส่งผลให้ยอดขายแม็คเติบโตขึ้นไปด้วย หรือไม่ต้องติดตามกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ มันขายดีกว่าแม็คเกือบเท่าตัว

ข้อมูลจาก: news , http://www.arip.co.th/news.php?id=411310

Google TV ได้เวลาดูทีวีและท่องเว็บ

Google TV ได้เวลาดูทีวีและท่องเว็บ รายละเอียดเบื้องต้นของทีวีอัจฉริยะ (smart tv) หรือที่กูเกิ้ล (Google) ออกมาเรียกว่า Google TV ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างโซนี่ (Sony) ที่ทำหน้าที่ผลิตจอทีวี และอินเทล (Intel) ที่ผลิตชิป Atom สำหรับเซตทอปบ๊อกซ์ ประเด็นที่หลายฝ่ายกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ก็คือ กูเกิ้ลกำลังรุกคืบเข้าสู่ธุรกิจโฆษณาบนทีวีแล้วหลังจากที่กูเกิ้ลเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟน (smartphone) ล่าสุดทางบริษัทกำลังจะเข้าสู่ตลาดใหม่ที่เรียกว่า ทีวีอัจฉริยะ หรือ smart-TV ด้วย Google TV เพียงแค่ผู้บริโภคมีเมาส์ คีย์บอร์ด และ Google box ก็สามารถเปลี่ยนช่วงเวลาในการรับชมทีวีไปเป็นช่วงเวลาของการท่องเว็บและรับชมทีวีได้แล้ว Google TV จะทำหน้าที่เป็นอินเตอร์เฟซใหม่สำหรับทีวีของคุณ แทนที่จะเป็นเมนูจากทางเคเบิ้ลทีวี มันก็จะเปลี่ยนเป็นช่องเสิร์ชของ Google แทน สมมติพิมพ์คำว่า Iron Man เข้าไป คุณก็จะพบกับภาพยนต์ ตลอดจนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับหนังเรื่องเดียวกันนี้ใน IMDB เพลงประกอบภาพยนต์ และอื่นๆ อีกมากมายทีเกียวข้อง ไม่ใช่แค่ช่องไหนมีอะไรให้ดูเท่านั้น ฟังดูแล้วน่าสนใจมากทีเดียว คำถามคือ ระหว่างการมีทีวีที่เชื่อมต่อเน็ตได้กับการเล่นเน็ตบนโน้ตบุ๊กขณะชมทีวี คุณผู้อ่านชอบแบบไหนมากกว่ากัน

นอกจากประเด็นของลูกเล่นทางเทคโนโลยีที่น่าสนใจแล้ว การเดินเกมของกูเกิ้ลในครั้งนี้ มีตัวเลขที่น่าสนใจอยู่เบื้องหลังด้วย นั่นก็คือ มูลค่าตลาดโฆษณาทีวีทั่วโลกที่สูงถึง 7 หมื่นล้านเหรียญฯ การมีซอฟต์แวร์ของตนเองอยู่หน้าสายตาของผู้บริโภค น่าจะเป็นวิธีที่ดีทีสุดที่จะช่วงชิงส่วนแบ่งโฆษณาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก


ข้อมูลจาก: mercurynews,http://www.arip.co.th/news.php?id=411307

Sharp เปิดตัวโมเดลเลนส์กล้อง 3 มิติ สำหรับใช้กับมือถือ


Sharp เปิดตัวโมเดลเลนส์กล้อง 3 มิติ สำหรับใช้กับมือถือ
ชาร์ปเปิดตัว ต้นแบบเลนส์กล้องถ่ายรูป บันทึกวีดีโอ 3 มิติ ในระดับ High Definition (720p) สำหรับนำไปใส่ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น โทรศัพท์มือถือ, กล้องดิจิตอล, เครื่องเล่นเกมพกพา เป็นต้น กล้อง 3 มิติ ที่ชาร์ปผลิตขึ้นมามีคุณสมบัติพิเศษในการประมวลผลด้านสี ให้ความละเอียด และ ความคมชัดสูง มีเซนเซอร์ที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ชาร์ป ยังนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาพัฒนาต้นแบบเลนส์กล้อง เพื่อให้มีขนาดเล็กลง น้ำหนักเบา และ มีแผนจะเริ่มผลิตปลายปี 2010
ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01920.html

มือถือ BRAVIA Phone U1 สุดยอดเทคโนโลยีด้านภาพ


มือถือ BRAVIA Phone U1 สุดยอดเทคโนโลยีด้านภาพ
au by KDDI ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในประเทศญี่ปุ่น เปิดตัว BRAVIA Phone U1 โทรศัพท์มือถือจากค่าย Sony Ericsson ออกแบบมาสำหรับลูกค้าที่ต้องการรับชมวีดีโอคุณภาพสูงจากโทรศัพท์มือถือ ด้วยจอแสดงผล TFT ความละเอียด 480 x 854 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับเครื่องเล่น Blue-ray เพื่อถ่ายโอนวีดีโอมาเก็บในโทรศัพท์มือถือ แล้วสามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกสถานที่ ไม่ว่าคุณจะอาบน้ำก็ยังสามารถรับชมวีดีโอในโทรศัพท์มือถือได้โดยไม่ต้องกลัวพัง เพราะ BRAVIA Phone U1 ออกแบบมาให้กันน้ำได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังรองรับดิจิตอลทีวีในระบบ One-Seg ที่ใช้กันแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น

คุณสมบัติ โทรศัพท์มือถือ Sony Ericsson BRAVIA Phone U1

จอแสดงผล TFT 260K สี ความละเอิยด 480 x 854 พิกเซล กว้าง 3 นิ้ว
- จอแสดงผลรอง organic EL ความละเอียด 128 x 36 พิกเซล กว้าง 1.1 นิ้ว

กล้องถ่ายรูป 5 ล้านพิกเซล (CMOS)
- ระบบออโต้โฟกัส, ตรวจจับใบหน้า และ รอยยิ้ม
- ขนาดภาพถ่ายสูงสุด 2592 x 1944 พิกเซล
- บันทึกวีดีโอ ความละเอียดสุงสุด 640 x 480 พิกเซล
รองรับการ์ดหน่วยความจำ microSDHC สูงสุด 16 GB
ขนาดตัวเครื่อง 111 x 50 x 16.7 มิลลเมตร (ส่วนที่หนาที่สุด 19.9 มิลลิเมตร)
- น้ำหนัก 141 กรัม
แบตเตอรี่ Li-ion 870 mAh
- สนทนาต่อเนื่อง 240 นาที
- เปิดรอรับสาย 260-270 ชั่วโมง


ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01912.html

Airnergy แปลงสัญญาณ Wi-Fi เป็นพลังงานแบตฯ


Airnergy แปลงสัญญาณ Wi-Fi เป็นพลังงานแบตฯ
อุปกรณ์ชาร์จไฟเพื่อโลกสีเขียว ที่สามารถแปลงพลังงานในสัญญาณ Wi-Fi เป็นพลังงานไฟฟ้า หลักการทำงานของ Airnergy Charger คือ เมื่อแบตเตอรี่มีการสัมผัสกับสัญญาณ Wi-Fi ก็จะเกิดการเรียกพลังงานจาก Wi-Fi เข้าสู่แบตเตอรี่ ซึ่งไม่จำกัดช่วงเวลาในการชาร์จ จึงสามารถชาร์จได้ทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ตราบเท่าที่อยู่ใกล้แหล่งสัญญาณ Wi-Fi ความเร็วในการชาร์จขึ้นอยู่กับความห่างไกลมาก - น้อยเพียงใดของตำแหน่งแบตเตอรี่และจุดสัญญาณ Wi – Fi คาดว่าจะวางจำหน่ายปลายปี 2010 สนนราคาประมาณ 1,300 บาท

ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01911.html

Sony NWD-W253 วอล์คแมนกันน้ำ

Sony NWD-W253 วอล์คแมนกันน้ำ Sony เปิดตัววอล์คแมนรุ่นใหม่ NWD-W253 ที่ให้คุณเพลิดเพลินในการฟังเพลงได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะนั่ง เดิน วิ่ง ออกกำลังกาย หรือแม้แต่วันที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ ฝนตกลงมา ก็ไม่ทำให้การฟังเพลงของคุณสะดุดลงเลยแม้แต่น้อย เพราะ Sony NWD-W253 โดดเด่นด้วยคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อได้เป็นอย่างดี รูปทรงออกแบบมารับกับสรีระของศรีษะ และใบหูได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกสบายขณะสวมใส่ Sony NWD-W253 รองรับไฟล์ MP3, WMA, ATRAC, Linear PCM และ AAC - LC สนับสนุนการถ่ายโอนไฟล์เพลงแบบลากวาง ช่องเชื่อมต่อแบบ Mini USB มีหน่วยความจำภายใน 4 GB ฟังเพลงได้ยาวนานต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง มีให้เลือกหลายสี คือ สีขาว สีดำ สีเขียวมะนาว และสีชมพู กำหนดวางจำหน่ายปลายเดือนพฤษภาคม ราคาประมาณ 3,500 บาท

Sony NWD-W253 วอล์คแมนกันน้ำ

ทีมา http://gadget.siamphone.com/news-01909.html

โนเกียเปิดตัว Nokia X3 เวอร์ชั่น CDMA

โนเกียเปิดตัว Nokia X3 เวอร์ชั่น CDMA โนเกียเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ Nokia X3 ในเวอร์ชั่น CDMA สำหรับลูกค้าในประเทศจีน โดยออกแบบมาในรูปทรงแท่ง รองรับเครือข่าย 3G ในระบบ CDMA2000 EVDO กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED จอแสดงผลกว้าง 2.4 นิ้ว สนับสนุนแอพพลิเคชั่น Social Network การใช้งานอินเตอร์เน็ต รับ-ส่งอีเมล์ และ เครื่องเล่นวิทยุ ในระบบ FM


คุณสมบัติ โทรศัพท์มือถือ Nokia X3 CDMA

ระบบ CDMA 800 , CDMA2000 EVDO
จอแสดงผล 262k สี ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล กว้าง 2.4 นิ้ว
รูปแบบการใช้งาน S40
เครื่องเล่นเพลงและวิทยุ FM
ชุดหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร
โปรแกรมสนทนา Instant Messaging (QQ)
กล้องถ่ายรูป 3.2 ล้านพิกเซล , ซูมดิจิตอล 6 เท่า
การเชื่อมต่อ Bluetooth 2.1
บันทึกรายชื่อในสมุดโทรศัพท์ 1,000 รายชื่อ
ขนาดตัวเครื่อง 105.5 x 48.4 x 12.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 88 กรัม
แบตเตอรี่ 860 mAh (BL-4C)
- สนทนานานสูงสุด 5 ชั่วโมง
- เปิดรอรับสาย 312 ชั่วโมง (13 วัน)
- ฟังเพลงนานสูงสุด 8 ชั่วโมง

ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01903.html

ASUS Eee PC R101 รุ่นใหม่อีกแล้ว แต่แนวด้วย carbon fiber

ASUS Eee PC R101 รุ่นใหม่อีกแล้ว แต่แนวด้วย carbon fiber สงสัย ASUS ไม่รู้จะเอาอะไรใส่ให้ Eee PC แล้วเพราะได้ออกมามากมายเสียเหลือเกิน ก็เลยจัดลาย carbon fiber เป็นตัวแรกของ Eee PC ซะ ในชื่อรุ่นว่า R101 ส่วนสเปกนั้นก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากตามสไตล์ Netbook ทั่วไป เริ่มด้วยซีพียู 1.66GHz Atom N450 ,ฮาร์ดดิสค์ 250GB ,จอภาพ 10.1 นิ้ว ที่ความละเอียด 1,024 x 600 การ์ดจอออนบอร์ด Intel GMA 3150 แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 9.5 ชั่วโมง ในราคาค่าตัวที่ $379 (ประมาณ 12,200 บาท)

ที่มา : notebooksbilliger.de,http://www.notebookspec.com/web/?p=28505

แนวโน้มความต้องการ และยอดการผลิต LED เพิ่มชึ้น

แนวโน้มความต้องการ และยอดการผลิต LED เพิ่มชึ้น การใช้จอแบบ LED มีแนวโน้ม และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในสองสามปีที่ผ่านมา เนื่องจากใช้พลังงานน้อยมาก ความร้อนที่ระบายออกจากตัวจอก็น้อย LED backlight จึงได้รับการตอบสนองจากผู้ใช้งานอย่างรวดเร็วในหมวดของโน้ตบุ๊ก ปัจจุบันผู้ผลิตก็นิยมใช้จอแบบ LED backlight

iSupply บริษัทวิจัยการตลาด ของสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า กล่าวว่า จอ LED มีโอกาสที่ดีในการเติบโตขึ้นจากความต้องการของผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในปี 2010 นี้ และจากรายงานของ Softpedia.com บริษัท iSupply ได้ทำการวิจัยและพบว่ามีประชากรกว่า 63 ล้าน ใช้งานจอแบบ LED ในปี 2009 โดยเพิ่มจากในปี 2007 ที่มีเพียง 57 ล้าน ซึ่งก็คาดการณ์ว่าอีกไม่นานยอดผู้ใช้น่าจะสูงถึง 73 ล้าน โดยเฉพาะความต้องการจอขนาดใหญ่ ซึ่งความต้องการที่มีเพิ่มมากขึ้นนี้ทางผู้ผลิตจึงเงเป้าไปที่ตลาดใหม่ๆ อย่างเช่น กล้องดิจิตอลบ้างแล้ว และแม้ว่าความต้องการการผลิตที่เพิ่มมากขึ้นจะท้าทายความสามารถผู้ผลิตซักแค่ไหน แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ไม่มีวันหยุดมันก็จะครอบคลุมทุกความต้องการได้ในที่สุด


ที่มา : Softpedia.com,http://www.notebookspec.com/web/?p=23080

HP เปิดมุมมองเข้าสู่โลก webOS ทั้ง Smartphone, Slate และเน็ตบุ๊คล้ำยุค

HP เปิดมุมมองเข้าสู่โลก webOS ทั้ง Smartphone, Slate และเน็ตบุ๊คล้ำยุค แค่สีก็บาดใจขนาดนี้แล้วหล่ะ โดยนาย Todd Bradley ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์เกี่ยวกับเรื่องที่หลายๆท่านข้องใจกันอยู่ว่า HP จะเอายังไงกันแน่ ล้มหรือไม่ล้ม หลักๆแล้ว Bradley ได้กล่าวถึงข้อแตกต่างระหว่าง Smartphone, Slate และเน็ตบุ๊ค ซึ่งเป็นเหตุปัจจัยอย่างมากในขณะนี้ โดยถ้ามองระหว่าง Slate กับเน็ตบุ๊ค จะเห็นได้ชัดว่า Slate นั้นดูน่าสนใจและสวยงามกว่ามาก แต่ตัว Smartbook / เน็ตบุ๊คเองกลับสามารถใช้งานได้หลากหลายมากกว่า ก็ลองคิดๆกันดูเล่นๆ แต่หลายๆท่านก็คงคิดว่ามีแล้วดูดีเสริมเอกลักษณ์ก็เป็นได้ หรือคิดว่าทาง HP นั้นได้ลืมทำพวกแพลตฟอร์มใหม่ๆออกมา ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าตอนนี้กำลังเปิดโปรเจคเกี่ยวกับพวก Android เรียกกันว่า Airlife แต่ก็ยังคงไม่มีรายละเอียดอะไรมาก ณ ตอนนี้ เฮ้อ ปล่อยให้อยากแล้วจากไปเช่นเคย แต่จาก Roadmap ดูเหมือนว่าจะมาช่วยเร็วๆนี้

ที่มา : Engadget,http://www.notebookspec.com/web/?p=27015

ต้นแบบ iPhone รุ่นใหม่โผล่ที่เวียดนาม


ต้นแบบ iPhone รุ่นใหม่โผล่ที่เวียดนาม
หนุ่มเวียดนามผู้โชคดีเผยโฉมหน้าอันหล่อเหลา พร้อมอวดโทรศัพท์มือถือ iPhone ที่อ้างว่าเป็นตัวต้นแบบไอโฟนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะใช้ชื่อรุ่น HD หรือ 4G หรือ ชื่ออื่น นอกจากภาพเคลื่อนไหวที่เผยแพร่ใน YouTube แล้ว ยังมีภาพนิ่งที่ถ่ายออกมาให้เห็นตัวเครื่องต้นแบบอย่างชัดเจน ส่วนคุณสมบัติตัวเครื่องยังไม่มีรายละเอียดหลุดออกมา
Tinhte.com - Trên tay phiên bản thử nghiệm iPhone 4G


ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01902.html

LG Ally VS740 สมาร์ทโฟนของ Iron Man


LG Ally VS740 สมาร์ทโฟนของ Iron Man
แอลจี เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ LG Ally VS740 ออกแบบมาให้ใช้งานในระบบจอสัมผัส พร้อมแป้นพิมพ์ QWERTY ในแนวนอน รองรับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 2.1 พร้อมดึง Iron Man ฮีโร่ของชาวอเมริกันมาเป็นพรีเซนเตอร์ LG Ally VS740 ใช้จอแสดงผล WVGA ระบบสัมผัส กว้าง 3.2 นิ้ว สนับสนุนแอปพลิเคชั่น Facebook, Twitter, MySpace รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth เวอร์ชั่น 2.1, Wi-Fi 802.11 b/g/n ความเร็วสูงสุด 100 Mbps และ กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล

ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01901.html

Samsung Seek ทัชโฟนคีย์บอร์ด QWERTY


Samsung Seek ทัชโฟนคีย์บอร์ด QWERTY
Samsung Seek โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่สีสันสดใส รูปทรงฝาสไลด์พร้อมแป้นพิมพ์ QWERTY จอแสดงผลระบบสัมผัส ความละเอียด QVGA กว้าง 2.6 นิ้ว อินเตอร์เฟสเมนูปรับแต่งใช้งานง่ายเข้าถึงแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้สะดวก สนับสนุนเว็บไซต์รูปแบบสังคมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Facebook, Twitter และ MySpace รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 3G ติดกล้องถ่ายรูปความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล เพิ่มเติมหน่วยความจำภายนอก MicroSD ได้สูงสุด 32 GB ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

นอกจากฟังก์ชั่นเด่นๆ ดีไซน์สวยเก๋แล้ว Samsung Seek ยังมีคุณสมบัติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แพจเกจสามารถนำมารีไซเคิลใช้ได้ใหม่ มีให้เลือก 3 สี คือ สีแดง สีน้ำเงิน และสีชมพู กำหนดวางจำหน่ายเดือนมิถุนายนโดย Sprint ในราคา 29.99 เหรียญสหรัฐ สัญญา 2 ปี

ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01900.html

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์