งาน "ไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป 2011 (ไฮเอนด์)" ระหว่างวันที่ 2-5 มิถุนายน 2554 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถือเป็นการต้อนรับกระแสสมาร์ทโฟนและแท็บเลตโดยเฉพาะ ซึ่งทั้งผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และผู้ผลิตมือถือต่างทยอยเปิดตัวแท็บเลตและสมาร์ทโฟนเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ปล่อยให้ "ไอแพด 2" ของแอปเปิล ชิงกวาดลูกค้าในไทยไปก่อนแล้วตั้งแต่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ในราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท
นายสิทธิโชค นพชินบุตร หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในงานโมบายล์ เอ็กซ์โป ครั้งนี้ ซัมซุงมีสินค้าไฮไลต์ 2 ตัว คือสมาร์ทโฟน Galaxy S II ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 จอขนาด 4.3 นิ้ว รองรับ 3G และไว-ไฟ กล้อง 8 ล้านพิกเซล และแท็บเลต Galaxy Tab ขนาด 10.1 นิ้ว หน่วยประมวลแบบดูอัล คอร์ 1 GHz ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.1 แบตเตอรี่ 10 ชั่วโมง กล้องหลัง 3 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล รองรับ 3G และไว-ไฟ
โดยซัมซุงได้ร่วมมือกับทั้ง 3 โอเปอ
เรเตอร์ เอไอเอส ดีแทค และทรู เปิดรับจอง Galaxy S II พร้อมกันในงานในราคา 18,900 บาท พร้อมโปรโมชั่นแพ็กเกจเสริม โดยลูกค้า 1,000 คนแรก จะได้รับส่วนลดค่าโทร. 3,000 บาท พร้อมอุปกรณ์เสริมและข้อเสนออื่น ๆ ส่วน "ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ 10.1" จะเป็นสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟกับทางเอไอเอส เพราะเป็นระบบ 3G บนคลื่น 900 และลูกค้าที่สั่งจอง 300 คนแรก จะได้รับเครื่องเล่นมัลติมีเดียแบบพกพา Galaxy S WiFi 4.0 มูลค่า 6,900 บาท
นายสิทธิโชคกล่าวว่า สำหรับสมาร์ทโฟน Galaxy S II นั้นคาดว่าสินค้าจะพร้อมเข้ามาวางตลาดในช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งซัมซุงตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 2 แสนเครื่อง ส่วนกาแล็คซี่ แท็บ 10.1 นิ้ว ก็คาดว่าจะเข้ามาในช่วงกลางเดือน ก.ค.นี้ ตั้งเป้ายอดขายเดือนละหมื่นเครื่อง ส่วนกาแล็คซี่ แท็บ รุ่น 7 นิ้วยังคงทำตลาดต่อไป เพราะเป็นสินค้าคนละเซ็กเมนต์ โดยรุ่น 7 นิ้วจะเป็นสินค้าที่เน้นความพกพาสะดวก ขณะที่รุ่น 10.1 นิ้วจะเน้นจุดเด่นเรื่องการเป็นศูนย์กลางความบันเทิง
แหล่งข่าวจากวงการมือถือเปิดเผยว่า สำหรับราคาของซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ 10.1 นิ้ว ความจุ 16 GB ระดับราคาอยู่ที่ประมาณ 18,900 บาท (รวมแวต) ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าไอแพด 2 ในสเป็กเดียวกันประมาณ 1,000 บาท โดยไอแพด 2 รุ่น 3G+ไว-ไฟ ความจุ 16 GB ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 19,900 บาท
ขณะที่โมโตโรล่าได้ร่วมมือกับบริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมเปิดตัว "Xoom" แท็บเลตหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.0 ความจุ 32 GB ระดับราคาประมาณ 2-2.29 หมื่นบาท
ฟาก "เอชทีซี" ก็จะเปิดตัวแท็บเลต "HTC Flyer" ขนาด 7 นิ้ว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ความจุ 32 GB กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล รองรับ 3G และไว-ไฟ ราคาจำหน่าย 20,500 บาท พร้อมด้วยสมาร์ทโฟนรุ่น Sensation หน้าจอ 4.3 นิ้ว
แอนดรอยด์ รองรับ 3G+ไว-ไฟ และเฟซบุ๊กโฟนรุ่น Chacha หน้าจอ 2.6 นิ้ว มาพร้อมคีย์บอร์ด และปุ่มเฟซบุ๊กซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์หรือเข้าถึงเฟซบุ๊กได้ทันที
ขณะที่ "แอลจี" ส่งออพติมัส แบล็ค มีจุดเด่นด้านนวัตกรรมหน้าจอ NOVA ที่ให้ความสว่างและคมชัดสูงสุด น้ำหนักเบา และการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi Direct วางจำหน่ายในงานโมบายล์ เอ็กซ์โป ด้วยราคา 13,900 บาท แถมการ์ดความจำ 2 จิกะไบต์ฟรี
โดยนายสมศักดิ์ อธิศัยตระกูล หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้แอลจีตั้งเป้าเป็นแบรนด์อันดับ 3 ของตลาด โดยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 6% ในปีที่แล้ว เป็น 15% ในสิ้นปี เพราะได้เพิ่มสายผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนเข้ามาครอบคลุมทุกระดับราคา อาทิ รุ่นออพติมัส จับกลุ่มราคา 5,000-6,000 บาท, ออพติมัส วัน ระดับราคา 7,000-10,000 บาท, ออพติมัสแบล็ค ที่เปิดตัววันนี้ ระดับราคา 10,000-15,000 บาท และออพติมัส ทูเอ็กซ์ ราคา 20,000 บาทขึ้นไป
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดมือถืออยู่ที่ประมาณเดือนละ 1 ล้านเครื่อง เป็นส่วนของสมาร์ทโฟนประมาณ 1 แสนเครื่อง โดยคาดว่าปีนี้สมาร์ทโฟนจะเติบโตมากกว่า 100% ทั้งในด้านมูลค่าและจำนวนเครื่อง โดยในแง่มูลค่าจะมีสัดส่วนถึง 40% ของตลาดรวม และในแง่จำนวนเครื่องอยู่ที่ 15% ของตลาดรวม
ด้านนายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากกูเกิลประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการ 3.0 อย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนนี้ ทำให้ผู้ผลิตสินค้าแต่ละแบรนด์สามารถนำแท็บเลตมาจำหน่ายได้อย่างเป็นทางการ คาดว่ามีประมาณ 10 แบรนด์ ที่พร้อมนำสินค้าเข้าสู่ตลาดในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ ทำให้การแข่งขันมีมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าตลาดแท็บเลตในไทยมาเร็วเกินไป และไม่คาดว่าจะมีการเติบโตรุนแรง แม้ว่าจะเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค เพราะยังขาดแอปพลิเคชั่นที่โดนใจผู้ใช้งานชาวไทย หรือ Killer Application ทำให้ยอดจำหน่ายมีไม่มากนัก โดยมีการประเมินว่าตลาดแท็บเลตในไทยปี 2554 จะอยู่ที่ประมาณ 2 แสนเครื่อง และไอแพดของแอปเปิลครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 70-80%
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
1 ความคิดเห็น:
ผมคนนึงที่บาดเจ็บจากการลดราคาของแท๊บตัวแรกซื้อมาสามเดือน ราคาลดไป8000 และสาบานกับตัวเองแล้วว่าจะไม่ซื้อสินค้าที่มีโลโก้ซัมซุงอีกต่อไป
แสดงความคิดเห็น