วันก่อนแวะไปให้ร้านขายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือในห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ช่วยใส่ฟิล์มกันรอยอุปกรณ์ตัวเก่งให้ ระหว่างรอก็มีลูกค้าเข้ามามากมายเกือบ 10 คน ไม่อยากจะเชื่อทั้ง 10 คนล้วนแต่ถือไอโฟน 4 อะไรจะขายดิบขายดีกันขนาดนั้นเนอะ
วันนี้เลยขอแหวกกระแส หยิบโนเกีย เอ็น 8 พิงค์ สีชมพูบานเย็นมาพูดคุยกันดีกว่า
หลายคนอาจจะบอกว่า ก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเอ็น 8 ก่อนหน้านี้นอกจากสีชมพูที่โนเกียมองว่า เป็นเทรนด์ของสีที่จะมาแรงในปีนี้
สำหรับเอ็น 8 พิงค์ นั้น รองรับเครือข่าย 3 จี เอชเอสดีพีเอ และควอดแบนด์ จอเอเอ็มโอแอลอีดี หรือบางทีเรียกทับไปเลยว่าจออะโมเลด 16.7 ล้านสี มีความสามารถพิเศษก็คือ ตรวจจับแสงแล้วปรับความสว่างของหน้าจอให้อัตโนมัติ
เอ็น 8 พิงค์ ใช้ระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยน 3 หน่วยความจำในตัวเครื่อง 16 กิกะไบต์ เพิ่มได้อีก 32 กิกะไบต์ผ่านไมโครเอสดีการ์ด นอกจาก บลูทูธ ไวไฟ แล้วยังรองรับการถ่ายโอนข้อมูลกับแฟลชไดรฟ์โดยตรงผ่านสายยูเอสบี รองรับแอพพลิเคชั่น แฟลช ไลฟ์ 4.0 เป็นโมเด็มในตัว จะอีเมล แชต บนโอวี่ จีทอล์คหรือวินโดว์ ไลฟ์ได้ทั้งนั้น
จุดเด่นของเอ็น 8 พิงค์ นอกจากสีชมพูบานเย็นแล้ว ยังมาพร้อมกล้องถ่ายรูป 12 ล้านพิกเซลและแฟลชซีนอนที่คมชัดกว่ารุ่นอื่น ๆ
ซูม 2 เท่า มีระบบจดจำใบหน้า และออโตโฟกัส ฯลฯ พร้อมจีพีเอสให้เราบอกตำแหน่งหรือบอกพิกัดรูปถ่ายที่เรียกกันว่า จีโอแทก
กิ้ง ส่วนกล้องหน้านั้น รองรับการใช้งานแบบวิดีโอคอลหรือการพูดคุย กับแบบภาพ สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหว เป็นวิดีโอแบบไฮเดฟิเนชั่น 25 เฟรมต่อวินาทีพร้อมบันทึกเสียง เมื่อถ่ายเสร็จแล้วหากต้องการตัดต่อก็สามารถทำได้จากตัวเครื่องซึ่งมีโปรแกรมวิดีโอ เอดิเตอร์หรือโปรแกรมตัดต่อมาให้ด้วย
เอ็น 8 พิงค์ เป็นสมาร์ทโฟนที่รวมความสามารถมัลติมีเดียไว้เต็ม ๆ ที่ชอบก็คือ กล้องถ่ายรูปที่ถ่ายได้คมชัด แม้จะดึงไฟล์มาดูบนจอคอมพิวเตอร์สีก็ยังเหมือนเดิม หลายคนอาจจะแย้งว่า เป็นห่วงเรื่องแบตเตอรี่หากต้องถ่ายภาพระดับไฮเดฟิเนชั่น จากคู่มือระบุว่าถ่ายวิดีโอได้นาน 200 นาที และชมวิดีโอต่อเนื่องนาน 6 ชั่วโมง อันนี้สารภาพว่ายังไม่เคยลองถึงขั้นนั้นเพราะไม่มีเวลามากขนาดนั้น
แต่...สิ่งที่เอ็น 8 พิงค์ได้ใจผู้เขียน นอกจากความสามารถเรื่องกล้องและความเก่งกาจของซิมเบี้ยน 3 ที่ออกแบบให้จอสัมผัสของโนเกียทำงานได้เร็วขึ้น จากที่เคยแตะ 2 ครั้งก็เข้าถึงเมนูได้จากการแตะเพียงครั้งเดียว ก็อยู่ที่ตัวเครื่องเอ็น 8
พิงค์นั้นทำจากวัสดุรีไซเคิลถึง 80 % ส่วนกล่องบรรจุก็เป็นรีไซเคิลเต็ม 100 % แม้แต่คู่มือในกล่องก็ยังมาในขนาดเล็กลงเพื่อลดการใช้กระดาษ ไม่มีอีกแล้วคู่มือการใช้งานที่หนาเป็นนิ้วแบบตำราเรียน
สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปอย่างผู้เขียน ที่มักจะใช้โทรศัพท์มือถือเป็นกล้องคู่กายในเวลาทำงานนั้นชอบใจเลนส์คาร์ลไซซ์มานานแล้ว เมื่อมาอยู่ในโทรศัพท์มือถือจึงชอบใจอย่างมาก
ถ้าไม่ติดใจว่า ต้องใช้ไอโฟน พกบีบี แนะนำให้ไปลองดู แถมราคาก็ถูกกว่าด้วยนะ.
ปรารถนา ฉายประเสริฐ
prathana.chai@gmail.com
ที่มา เดลินิวส์
Honda Eco Car เตรียมเปิดตัวต้นปีหน้า R&D คืบกว่า 90%
เตรียมขึ้นไลน์ทดลองผลิตแล้ว
-
Honda Eco Car เตรียมเปิดตัวต้นปีหน้า R&D คืบกว่า 90%
เตรียมขึ้นไลน์ทดลองผลิตแล้ว Honda อดรนทนไม่ไหวเมื่อเห็นยอดจองถล่มทลายของ
Nissan March
รถยนต์นั่งประหย...
1 ความคิดเห็น:
ผมว่าเอ็นแปดดีกว่าบีบีเยอะเลยถ้าดูกันดีดีราคาก็ถูกกว่าเชื่อมต่อได้มากกว่า
แสดงความคิดเห็น