นายสมศักดิ์ อธิศัยตระกูล หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ทิศทางการเติบโตเป็นไปใน 2 ทิศทาง ทิศทางแรกมุ่งไปที่การตอบสนองความต้องการหน่วยประมวลผลข้อมูล ซึ่งตลาดนี้แอลจีถือเป็นแบรนด์แรกที่สร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมาในตลาดด้วยการเปิดตัวหน่วยประมวลผลที่เป็นดูอัล-คอร์เข้าสู่ตลาด ถึงแม้แอลจีจะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดสมาร์ทโฟนก็ตาม ซึ่งทางแอลจีได้เปิดตัว Optimus 2X มาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
อีกทิศทางหนึ่งก็คือเทคโนโลยีทางด้านจอภาพ ซึ่งทางแอลจีได้ส่ง Optimus Black เข้าสู่ตลาดเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดี และล่าสุดแอลจีได้เปิดตัว Optimus 3D สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของวงการที่รองรับคอนเทนต์ 3 มิติได้อย่างเต็มรูปแบบสามารถชมภาพสามมิติได้ด้วยตาเปล่า และใช้เทคโนโลยี Tri-dual ให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำด้านโซลูชั่น 3 มิติของแอลจีได้อย่างครบวงจร นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ LG CINEMA 3D ในกลุ่มทีวีและจอมอนิเตอร์
Optimus 3D เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนเชิงกลยุทธ์ของแอลจี ซึ่งประกอบไปด้วย Optimus 2X กับ Optimus Black ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนถึง 70% ของส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยที่แอลจีตั้งเป้าปีนี้ไว้ที่ 15%
"ตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยคาดว่าจะมีประมาณ 10% ของตลาดมือถือที่คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 47,000-48,000 ล้านบาท"
นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า จากกรณีที่มีข่าวว่าแอลจีบริษัทแม่ที่เกาหลีมีผลประกอบการติดลบเนื่องมาจากตลาดสมาร์ทโฟนนั้น ต้องยอมรับว่าปีที่ผ่านมาทางแอลจีสำนักงานใหญ่อาจจะปรับตัวช้านิดหนึ่งในเรื่องของเทรนด์ ตั้งแต่ปีสองปีก่อนในเรื่องสมาร์ทโฟน เป็นความผิดพลาดช่วงของการปรับเปลี่ยนจากฟีเจอร์โฟนมาเป็นสมาร์ทโฟน พอพลาดก็มีผลกระทบตามมา การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้องใช้เวลา แต่ปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เราจะออกมา Optimus Black หรือ 3Dที่จะออกมาจะเป็นเรือธงที่จะผลักดัน ซึ่งจะเห็นผลในไตรมาสหน้าหรือไตรมาสสี่นี้
"ในระดับโลก แอลจีเป็นอันดับ 3 อยู่ รองจากโนเกีย และซัมซุง แต่ถ้าสมาร์ทโฟนแข็งแกร่งขึ้นเราก็น่าจะรักษาได้ ต้องยอมรับว่า ช่วงที่ผ่านมาความสามารถในการแข่งขันของเรามีหลุดไปบ้าง ก่อนหน้านี้ช่วงการปรับเปลี่ยนทางแอลจียังไม่เคลียร์เท่าไร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไม่เร็วพอ แอลจีตอบสนองไม่ทัน มือถือตลาดมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ใครช้ากว่า 3 เดือน 6 เดือนก็เรียบร้อย"
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงกลุ่มเป้าหมายของ Optimus 3D ว่าจะเป็นกลุ่มที่มองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงกลุ่มที่มีอุปกรณ์ 3มิติใช้งานอยู่แล้ว อาทิ ทีวี แผ่นบูลเรย์ที่เป็น 3 มิติ ซึ่งเชื่อว่าไม่เกิน 10 ปี ทีวีตามบ้านจะเป็นแบบ 3 มิติกันหมด
ส่วนรูปแบบการทำตลาดนั้น จะเน้นทำการสื่อสารผ่านทางสื่อออนไลน์มากเป็นพิเศษ ควบคู่กับการเน้นทำกิจกรรมการตลาด ณ จุดขาย โดยจะมีผลิตภัณฑ์ให้ทดลองใช้งาน นอกจากนั้นยังได้ร่วมมือกับเอไอเอสในการนำเสนอแพกเกจพิเศษ 3G สุดคุ้มในราคาเพียง 199 บาท โดยสามารถใช้งาน 3G หรือ EDGE+ อย่างจุใจถึง 1 GB ต่อเดือน นาน 8 รอบบิล และยังใส่เกมยอดนิยมในตลาดมาให้อีก 11 เกมมูลค่า 2,000บาท พร้อมสาย HDMI 1.4 สำหรับผู้ที่ซื้อที่ซื้อOptimus 3D ที่จำหน่ายในราคา 18,900 บาท
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น