
จับตา"ไมโครซอฟท์-ยาฮู"ล้มกูเกิล
ในที่สุด ความพยายามในการล้มช้างกูเกิลของไมโครซอฟท์และยาฮูก็ได้ฤกษ์ "เริ่มก้าวเดิน" หลังตั้งไข่มานาน เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการค้ายุติธรรมทั้งของสหรัฐฯและสภาพยุโรป เพิ่งให้ไฟเขียวด้วยการอนุมัติให้ไมโครซอฟท์สามารถเป็นพันธมิตรกับยาฮูได้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งก้าวต่อไปนับจากนาทีนี้คือการเร่งนำเสิร์ชเอนจิ้นของไมโครซอฟท์นามว่าบิง (Bing) มาให้บริการค้นหาข้อมูลทั้งในเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์และยาฮู ผลคือไมโครซอฟท์ได้ขยายอาณาจักรสมใจ ขณะที่ยาฮูก็จะได้รับทรัพย์หลายร้อยล้านเหรียญไปพัฒนาบริการโฆษณาออนไลน์เฉพาะทางให้ดียิ่งขึ้น

แม้ทุกฝ่ายจะมองว่า การร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์และยาฮูจะมีเป้าหมายเดียวคือการล้มกูเกิล ซึ่งเป็นเจ้าตลาดผู้ให้บริการค้นหาข้อมูลออนไลน์ในขณะนี้ แต่ในสายตานักวิเคราะห์ ส่วนใหญ่ระบุว่ายังไม่เห็นแนวโน้มผลกระทบที่กูเกิลจะได้รับ แต่เชื่อว่าการแข่งขันในตลาดเสิร์ชเอนจิ้นจะยังดำเนินต่อไปอีกหลายปี
แน่นอนว่า ความร่วมมือซึ่งหน่วยงานสหรัฐฯและสหภาพยุโรปเห็นชอบให้เกิดขึ้นโดยไม่มีเงื่อนไขนี้ยังไม่ใช่ความสำเร็จของไมโครซอฟท์ แต่อย่างน้อย ความร่วมมือย่อมปูทางให้ไมโครซอฟท์สามารถหาทางสร้างรายได้จากธุรกิจออนไลน์ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ เรื่องนี้ Yusuf Mehdi ผู้บริหารไมโครซอฟท์ซึ่งรับผิดชอบในการสร้างสรรค์ Bing และเว็บท่า MSN เคยออกมาให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์สว่า เป้าหมายของไมโครซอฟท์ขณะนี้คือการเร่งขยายส่วนแบ่งการตลาด ซึ่งเมื่อสามารถทำได้ไมโครซอฟท์ก็จะสามารถขยายช่องทางในการทำกำไรได้ด้วย
หลังการประกาศมูลค่าหุ้นไมโครซอฟท์เพิ่มขึ้น 1.2%
มากกว่ายาฮูที่มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 0.7%
กูเกิลนั้นไม่ได้ให้ความเห็นต่อการอนุมัติของหน่วยงานรัฐทั้ง 2 ส่วนโดยตรง และไม่ได้แสดงการคัดค้านความร่วมมือที่เกิดขึ้น ระบุเพียงว่าการแข่งขันในธุรกิจโฆษณาออนไลน์บนระบบค้นหาข้อมูลออนไลน์นั้นยังคงดุเดือดเสมอ มูลค่าหุ้นของกูเกิลนั้นเพิ่มขึ้น 1.1%

ดีลที่เกิดขึ้นจะทำให้บิงกลายเป็นระบบค้นหาข้อมูลหรือ search engine ทั้งบนเว็บไซต์ในเครือไมโครซอฟท์และยาฮู ลดภาระให้ยาฮูหันไปให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบเพื่อดึงดูดนักโฆษณาให้มากขึ้นโดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
ขณะเดียวกัน ไมโครซอฟท์จะเป็นผู้จัดการระบบโฆษณาแบบอัตโนมัติบนเสิร์ชเอนจินซึ่งจะถูกใช้ในเว็บของ 2 บริษัท โดยจะจ่ายเงินค่าโฆษณาให้ยาฮูในส่วนที่รายได้เกิดจากยาฮู ตรงนี้หลายคนมองว่าไมโครซอฟท์ต้องการพื้นที่เพื่อโชว์ศักยภาพของบิงให้ทุกคนเห็นว่าสามารถเป็นตัวเลือกที่ไม่แพ้กูเกิล
ขณะเดียวกัน เงินที่ยาฮูจะได้รับจากดีลนี้เชื่อว่าจะทำให้ยาฮูมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น ความเปลี่ยนแปลงจะเห็นในรายงานผลประกอบการยาฮูช่วงปีหน้า
เริ่มแรกของสัญญาระยะเวลาสัญญา 10 ปี ไมโครซอฟท์จะจ่ายเงินให้ยาฮูจำนวน 50 ล้านเหรียญต่อปี นาน 3 ปีเบ็ดเสร็จ 150 ล้านเหรียญเพื่อนำไปใช้ในการปรับโครงสร้างองค์กรซึ่งเป็นผลจากสัญญา โดยไมโครซอฟท์ตกลงว่าจ้างพนักงานยาฮูจำนวน 400 คนต่อไป ที่สำคัญ ไมโครซอฟท์จะยอมให้ยาฮูรับรายได้ 88% ในช่วง 5 ปีแรก พร้อมประกันความเสี่ยงด้วยการรับรองรายได้ขั้นต่ำ (ไม่เปิดเผยจำนวน) ให้ตลอดหนึ่งปีครึ่ง
นอกจากเงินที่ไมโครซอฟท์จะจ่ายให้ยาฮู 150 ล้านเหรียญ สิ่งที่ถูกระบุในหนังสือชี้แจงคือสัดส่วนรายได้ของยาฮู 88% (บนเว็บของยาฮูเอง) จะสามารถเพิ่มเป็น 90% หรือ 93% ได้ในช่วง 5 ปีหลัง ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทั้งสองค่ายว่าจะให้บริการหรือใช้บริการขายโฆษณาออนไลน์ของยาฮูต่อไปหรือไม่
สัญญานี้ทำให้ยาฮูไม่ต้องลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีเสิร์ชเอนจิน เชื่อว่าจะสามารถลดค่าใช้จ่ายยาฮูได้ 200 ล้านเหรียญ โดยมีการประเมินว่า ยาฮูจะมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 500 ล้านเหรียญต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า
เดือนที่แล้ว ยาฮูสามารถครองส่วนแบ่งตลาดเสิร์ชเอนจิน 17% (เฉพาะสหรัฐฯ) ไมโครซอฟท์ครอง 11.3% เมื่อรวมกัน ไมโครซอฟท์จะมีฐานส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 28% เทียบกับกูเกิลที่มี 65.4%
ในตลาดโลก กูเกิลสามารถครองส่วนแบ่งถึง 90% ขณะที่ยาฮูและบิงมีส่วนแบ่งรวมกัน 7.4% (ข้อมูลเดือนพฤศจิกายน จากบริษัทวิจัย StatCounter)
เรียบร้อยปี 2012
แม้การอนุมัติจากหน่วยงานสหรัฐฯและสหภาพยุโรปแปลว่าไมโครซอฟท์สามารถเริ่มต้นนำเอนจิ้นของบิงไปติดตั้งในเว็บไซต์ยาฮูได้ แต่ไมโครซอฟท์และยาฮูต่างยังไม่ออกมาเปิดเผยหน้าตาเว็บไซต์ยาฮูว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร โดยเฉพาะการปรับแต่งบิงให้สามารถแสดงผลที่มีลักษณะเฉพาะบนยาฮู ทั้งหมดนี้ ไมโครซอฟท์และยาฮูเชื่อว่าการปฏิบัติงานในเชิงพันธมิตรแบบเต็มรูปแบบจะเกิดขึ้นได้ในสหรัฐฯช่วงปลายปีนี้ การเปลี่ยนแปลงในกลุ่มนักโฆษณาจะเกิดขึ้นก่อนช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปี ทั้งหมดทั้งมวลเชื่อว่าจะมีผลอย่างเป็นทางการทั่วโลกอย่างเร็วปี 2012
การอนุมัติจากหน่วยงานสหรัฐฯและสหภาพยุโรปเกิดขึ้นหลังจากการอนุมัติของหน่วยงานในออสเตรเลีย บราซิล และแคนาดา อย่างไรก็ตาม ดีลนี้ยังต้องรอการอนุมัติจากหน่วยงานของเกาหลี ไต้หวัน และญี่ปุ่นต่อไป
Company Related Links :
Microsoft
Yahoo
Bing
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น