โซเชียลชอปปิ้ง ปลุกอารมณ์ขาชอป

โซเชียลชอปปิ้ง ปลุกอารมณ์ขาชอป
กระแสโซเชียลเน็ตเวิร์กฮอตไม่เลิก
ผุดไอเดีย 'โซเชียลชอปปิ้ง' ปลุกอารมณ์ขาชอป
พลังดูดใหม่มหกรรมขายสินค้าไอที-อิเล็กทรอนิกส์
กระแสแห่งยุค 'Social Network' ยังคงร้อนแรงและมีคนนำโซเชียลเน็ตเวิร์กไปประยุกต์ นำมาเป็นกลยุทธ์ในการสร้างประโยชน์จากโซเชียลเน็ตเวิร์กให้ได้มากที่สุด

ปรากฏการณ์ล่าสุดของโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่กำลังจะกลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกในเมืองไทยที่จะเกิดขึ้นกับงาน 'คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2010 ระหว่างวันที่ 18-21 มีนาคม 2553 นี้ คือการสร้างกระแสโซเชียลชอปปิ้ง ด้วยการอาศัยบรรดาโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ฮอตฮิตทั้งหลายมาเป็นจุดดึงดูดบรรดาขาชอปให้เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าไอที อิเล็กทรอนิกส์ภายในงานนี้

'เราจะทำให้เกิดแฟนหรือเฟรนด์ที่เป็นสาวกของโซเชียลเน็ตเวิร์กเข้ามาร่วมงานคอมมาร์ต'

เป็นคำกล่าวของ ประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช รองผู้จัดการทั่วไปและผู้อำนวยการฝ่ายนิวมีเดีย บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) และว่า ผู้จัดงานได้เล็งเห็นแล้วว่าการที่จะจับกระแสในยุคของโซเชียลเน็ตเวิร์กที่กำลังมาแรงในขณะนี้จะเป็นครั้งแรกที่คอมมาร์ตเกาะกระแสของการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของการชอปปิ้งสินค้าไอที

วิธีการที่ผู้จัดงานคอมมาร์ต 2010 จะนำโซเชียลเน็ตเวิร์กมาใช้นั้น โซเชียลเน็ตเวิร์กหลักๆ 4 แห่ง ได้แก่ ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก ยูทูบ และ flickr จะเป็นเครื่องมือหลักที่คอมมาร์ตจะมีการอัปเดตข้อมูลโปรโมชั่นสุดพิเศษ และกิจกรรมต่างๆ ของเวนเดอร์ไปบนโซเชียลเน็ตเวิร์กเหล่านั้น เพื่อที่ผู้บริโภคจะได้นำไปใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อสินค้าภายในงาน

การนำโซเชียลเน็ตเวิร์กมาใช้งานในรูปแบบเช่นนี้เสมือนการสร้างดีมานด์ให้เกิดขึ้นกับบรรดาสาวกผู้ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กทั้งหลาย เนื่องจากถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของงานคอมมาร์ต ยิ่งเมื่อได้รับข้อเสนอ หรือโปรโมชั่นอะไรที่โดนใจ การเลือกซื้อสินค้าไอทีในช่วงงานก็จะยิ่งเพิ่มมูลค่า ที่สำคัญในเครือข่ายสังคมระหว่างกลุ่มเพื่อนก็จะมีการส่งต่อข้อมูลที่ได้รับกระจายไปอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าปัจจุบันผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนมีอยู่เป็นจำนวนมาก และก็เป็นกลุ่มคนที่ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้จัดงานคอมมาร์ตมองเห็นถึงข้อมูลที่จะสื่อไปยังกลุ่มคนเหล่านี้

โซเชียลเน็ตเวิร์กถือเป็นส่วนสำคัญภายใต้ธีมคอนเซ็ปต์การจัดงาน คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2010 ซึ่งถือเป็นงานโชว์เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านไอทีใหญ่ที่สุด โดยธีมใหม่ในปีนี้อยู่ภายใต้แนวคิด 'Linking the World' ซึ่งเป็นผลจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป มีการใช้งานสมาร์ทโฟนเพื่อเชื่อมต่อกับโซเชียลเน็ตเวิร์กกันอย่างแพร่หลาย ภาพของโลกวันนี้จึงเป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่กำลังขับเคลื่อนสู่การเชื่อมโลกมากยิ่งขึ้นทุกขณะ

ในส่วนไฮไลต์ของงานคอมมาร์ตในครั้งนี้ สามารถสะท้อนให้เห็นถึงปรากฏการณ์ด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกไอทีได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งศตวรรษ อย่างคอมพิวเตอร์พกพาแพลตฟอร์มใหม่ไร้คีย์บอร์ด และซูเปอร์สมาร์ทโฟน การเติบโตของซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ การเปลี่ยนแปลงของตลาดคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น และการเสวนาเวิร์กชอปที่เกาะกระแสที่น่าสนใจ อาทิ แบล็กเบอร์รี่เวิร์กชอปใช้อย่างไรให้คุ้ม เลือกแพกเกจไหนคุ้มสุด รับกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ก ประกอบคอมพิวเตอร์ชั้นเทพ ภัยร้ายบนโลกออนไลน์ ตามกระแสให้ทันกับ Preview Office 2010 เป็นต้น

ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดไอทีไทยมีสัญญาณสดใสตั้งแต่ช่วงปลายปี 2552 ที่ผ่านมา ปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) มองว่า ภาพรวมตลาดคอนซูเมอร์ไอทีในปี 2553 นี้จะโตขึ้นราว 10% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 80,000 ล้านบาท จากปี 2552 ที่ผ่านมา ตลาดคอนซูเมอร์ไอทีจะอยู่ที่ประมาณ 72,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าตลาดไอทีโดยรวมในปีนี้น่าจะแตะระดับ 2 แสนล้านบาทได้ คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 8% มีตลาดเอสเอ็มอีที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงสุดที่ 15%

สำหรับงาน คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2010 มีคาดการณ์ว่าจะสามารถดึงผู้เข้าชมงานได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านราย และจะสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งจากการจัดงานในช่วงปี 2009 ที่ผ่านมานั้น คนที่ไปร่วมงานส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับเรื่องของโปรโมชั่นมากที่สุดถึง 59.4% รองลงไปคือเรื่องของเทคโนโลยี 20.6% โดยมีสินค้าโน้ตบุ๊กได้รับความสนใจสูงสุด รองลงไปคือฮาร์ดแวร์และพรินเตอร์ และผลสำรวจยังมีการระบุว่ากว่าครึ่งหนึ่งของคนที่ได้มางานนี้จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง



โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์
http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9530000024320

ไม่มีความคิดเห็น:

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์