Acer Liquid Metal เปิดตัวแล้ว มากับ Android 2.2

เอเซอร์เปิดตัวสมาร์ทโฟน Acer Liquid Metal อย่างเป็นทางการ มากับระบบปฏิบัติการ Android 2.2 พร้อมรูปแบบการแสดงผล Breeze UI ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานจัดการแอพพลิเคชั่น ปรับแต่งหน้าจอหลัก และ เข้าถึงฟังก์ชั่นโปรดได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังมี Acer SocialJogger แอพพลิเคชั่นสำหรับใช้งาน Facebook และTwitter ให้คุณอัพเดต หรือ ติดตามความเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ ได้ทันทีบนหน้าจอหลัก
Acer Liquid Metal ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android Froyo ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm 7230 (800 MHz) เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่าย HSDPA 14.4 Mbps หรือ Wi-Fi เว็บเบราว์เซอร์สนับสนุน Flash และ JavaScript จอแสดงผล กว้าง 3.6 นิ้ว ระบบสัมผัส Multi-touch สำหรับใช้งานบนเว็บเพจ, ดูรูปภาพ หรือ แผนที่ กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ระบบปรับโฟกัสอัตโนมัติ, ลดการสั่นไหว, จดจำใบหน้าและรอยยิ้ม บันทึกวีดีโอ ในระดับ HD 720p (30 เฟรมต่อวินาที) ฟังเพลงได้เต็มอารมณ์กับระบบเสียง Dolby Surround พร้อม EQ และ Dynamic Bass Boost สนับสนุนเทคโนโลยี DLNA/UPnP แบ่งปันสื่อมีเดียกับอุปกรณ์ไอทีภายในบ้าน
Acer Liquid Metal เปิดตัวแล้ว มากับ Android 2.2
ที่มา news.siamphone

Inkjet พิมพ์ “ภาพ” พร้อม “กลิ่น”

เชื่อไหมว่า ในอนาคตอันใกล้ ภาพผลแอปเปิ้ลที่คุณพิมพ์ออกมาจากเครื่องพิมพ์ Inkjet ไม่เพียงแต่จะให้ภาพที่เหมือนจริงเท่านั้น แต่มันยังมี”กลิ่น”ของแอปเปิ้ลอีกด้วย แนวคิดดังกล่าวได้มีการพัฒนาขึ้นแล้วในห้องวิจัยของชาวญี่ปุ่น เทคโนโลยีพิมพ์ภาพพร้อมกลิ่นนี้จะใช้การดัดแปลงเครื่องพิมพ์ Inkjet แบบเดิมๆ โดยแนวคิดก็คือ การสร้างกลิ่นที่เป็นส่วนเติมเต็มของภาพที่เห็นจากงานพิมพ์ ซึ่งทีมวิจัยไม่ได้มองแค่เครื่องพิมพ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคอมพิวเตอร์ และทีวีในอนาคตด้วย ข้อเท็จจริงที่ควรทราบก็คือ การใช้กลิ่นช่วยเติมเต็มความรู้สึกให้กับผู้บริโภคได้เริ่มมีการทดลองใช้ใน การฉายภาพยนต์ตั้งแต่เมื่อกลางศตวรรษที 20 โดยโรงหนังที่เป็น AromRama จะใช้วิธีปั๊มกลิ่นเข้าไปในเครื่องปรับอากาศในโรงหนัง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเสียงเครื่องปั๊มป์ เพื่อให้คนทั้งโรงได้กลิ่นมีความดังเกินไป สำหรับเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ Inkjetที่สามารถพิมพ์ภาพพร้อมกลิ่นออกมาได้นั้น เป็นงานวิจัยของ Kenichi Okada แห่งมหาวิทยาลัย Keio University ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยผลงานของเขาจะถูกนำออกแสดงในอิตาลีสัปดาห์หน้า “เรากำลังใช้ความสามารถของเครื่องพิมพ์ Inkjet ในการฉีดสารให้กลิ่นเข้าไปในภาพด้วยพร้อมกัน” ซึ่งหลักการพื้นฐานการทำงานของ Inkjet จะใช้การให้ความร้อนผ่านขดลาด เพื่อสร้างฟองอากาศที่สามารถดันให้หมึกผ่านออกมาทางหลอดขนาดจิ๋ว และหยดลงบนกระดาษอย่างรวดเร็ว ในการนี้ทีมวิจัยได้ร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ Canon เพื่อแปลงชิ้นส่วนการทำงานหลักของเครื่องพิมพ์ไปเป็นอุปกรณ์ที่เขาเรียกว่า Olfactory display โดยสามารถเลือกสลับได้ 4 กลิ่นอย่างรวดเร็ว ทีมวิจัยพบว่า เครื่องพิมพ์ InkJet มาตรฐานของ Canon จะสามารถฉีดหยดน้ำหอมที่มีขนาดเล็กในระดับพิโคลิตร (picolitr) ภายใน 0.7 มิลลิวินาทีซึ่งมันเล็กเกินไปที่จะส่งกลิ่นออกมาได้ แต่หากได้รับการหยดนาน 100 มิลลิวินาที ก็จะสามารถให้กลิ่นอย่าง มะนาว ลาเวนเดอร์ แอปเปิ้ล ซินนาม่อน องุ่น และมินต์ออกมาได้ นอกจากนี้กลิ่นที่ได้จะจางหายไปหลังจากสูดดมไปสองครั้ง ซึ่งทำให้สามารถส่งกลิ่นอื่นๆ ตามมาได้ โดยไม่ตีกับกลิ่นแรก ขั้นตอนการพัฒนาต่อไปก็คือ การทำให้ภาพที่พิมพ์ซิงค์กับกลิ่นได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งหากมันเวิร์ก เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตเครื่องเดียวสามารถทำหน้าที่เป็นได้ทั้งเครื่องพิมพ์ และเครื่องส่งกลิ่นในตัว และหากนำไปพัฒนากับเครื่องคอมพิวเตอร์ และทีวี ผู้บริโภคก็จะได้สัมผัสมิติใหม่ที่มากกว่าภาพ และเสียง นั่นคือ กลิ่นที่เชื่อมโยงกับคอนเท็นต์ที่กำลังรับชม
ที่มา Arip

เปิดตัว i-note แอนดรอยด์ แท็บเล็ต ตัวแรก จาก i-mobile ราคา 13900

ในยุคที่กระแส Tablet มาแรง หลัง iPad ปล่อยของ จนหลายๆ บริษัทต้องหันมาลุยตลาดนี้ กันบ้าง ด้วย OS android และ Windows สำหรับในบ้านเรา ก็มี wellcom และ Samsung ปล่อย Tablet A800 และ Samsung Galaxy Tab มาลงตลาดกันไปก่อนหน้า ซึ่งราคาและคุณสมบัติก็ต่างกันไป
ล่าสุด i-mobile ได้ลุยตลาด Tablet กับเขาบ้าง โดยการปล่อย i-note tablet ตัวแรกของบริษัท ภายใต้ระบบ ปฎิบัติการ Android 2.2 และ หน้าจอ 7 นิ้ว ขนาดกำลังดี ดูได้สบายตาสเปคดังนี้
Android 2.23G Supportขนาด 192.4x125x14mmหนัก 350 กรัมแบตเตอรี่ 3800 mAhจอ 7 นิ้ว WVGA TFT LCD (800×480)มาพร้อมกล้อง 5 ล้านพิกเซลมีออโต้โฟกัสกล้องหน้า 0.3 ล้านพิกเซลBluetooth 2.1+EDR, A2DPUSB 2.0
ที่มา droidsans , >showded

B&N เปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ้กแอนดรอยด์ หน้าจอสี

B&N เปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ้กแอนดรอยด์ หน้าจอสี
Barnes & Noble เปิดตัว "Nook Color" เครื่องอีบุ้กรุ่นใหม่ล่าสุดหน้าจอสัมผัสแบบสีขนาด 7 นิ้ว และใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เคาะราคาขาย 249เหรียญ สหรัฐฯ หวังเพิ่มขายยอดช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

"Nook Color" นับเป็นเครื่องอ่านอีบุ๊กเครื่องแรกในตลาดที่มีหน้าจอสัมผัสแบบ Full Colour ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 16 ล้านสี มีเซ็นเซอร์ Accelerometer ที่ช่วยปรับหมุนหน้าจออัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมาพร้อมความสามารถการเล่นเกมส์ ใช้งานอินเตอร์เน็ต สตรีมเพลง และผู้ใช้งานสามารถสร้างแอปสโตร์เป็นของตัวเองได้

จุดขายสำคัญของ "Nook Color" อีกข้อหนึ่งคือการใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ตัวเครื่องมีขนาด 20.6 x 12.7 x 1.22 ซม และมีน้ำหนักเบา 422 กรัม พร้อมหูจับซ้ายมือของเครื่องเพื่อให้ง่ายต่อการจับใช้งาน และแบตเตอรีความจุ 4,010mAh ที่สามารถใช้งานได้นาน 8 ชั่วโมง ตัวเครื่องมาพร้อมการเชื่อมต่อไวไฟ หน่วยความจำภายในความจุ 8 กิกะไบต์ ที่สามารถเพิ่มสูงสุด 32 กิกะไบต์ด้วยไมโคร เอสดีการ์ด และช่องต่อหูฟังขนาด 3.5มม.

ภ่ายในตัวเครื่องจะมาพร้อมไฟล์อีบุ้กกว่า 12,000 เรื่อง ซึ่งร่วมไปถึงนิทานสำหรับเด็กด้วย รองรับไฟล์อีบุ้ก EPUB, PDF ไฟล์เอกสาร XLS, DOC, PPT, PPS, TXT, DOCM, XLSM, PPTM, PPSX, PPSM, DOCX, XLX, PPTX ไฟล์มัลติมีเดีย JPG, GIF, PNG, BMP, MP3, AAC และ MP4

ผู้บริหารจาก Barnes & Noble กล่าวว่า การเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้กับผู้บริโภคที่ต้องการเครื่องอ่านอีบุ้กหน้าจอ ด้วยการใช้งานในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และวางจำหน่ายในราคา 249เหรียญ ซึ่งมีราคาต่ำกว่าไอแพ็ด ของแอปเปิล โดยบริษัทหวังว่า นุ้ก คัลเลอร์ จะช่วยกระตุ้นยอดขายเครื่องอ่านอีบุ้กให้แก่บริษัทช่วงเทศกาลคริสมาสต์ หรือปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัยตลาดฟอร์เรสเตอร์มองว่าการเปิดตัว "นุ๊ก คัลเลอร์" ในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายเครื่องอ่านและไฟล์อีบุ้กให้กับ B&N เอง อีกทั้งยังจะทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งในตลาดเครื่องอ่านอีบุ้ก และคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการคาดการณ์ตลาด B&N จะสามารถขายอีบุ้กได้ 6 ล้านเครื่องในปี 2010 และจะมีรายได้สูงถึง 2.5พันล้านเหรียญในปี 2013

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

โซนีหยุดผลิต"Walkman"เล่นเทป

โซนี (Sony) ประกาศยกเลิกสายการผลิตเครื่องเล่นเทปคลาสเซ็ตพกพาตระกูลวอล์กแมน (Walkman) อย่างเป็นทางการเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ปิดฉากการผลิตช่องเล่นเทปในเครื่องเล่นเพลงพกพาที่มีประวัติการยาวนานถึง 30 ปี

โซนีออกมาให้ข้อมูลเรื่องนี้ว่า การผลิตเครื่องเล่นเทปคลาสเซ็ตพกพาแบรนด์วอล์กแมนนั้นเริ่มขึ้นครั้งสุดท้ายในโรงงานประเทศญี่ปุ่นช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งหากสินค้างวดนั้นถูกจำหน่ายหมด วอล์กแมนซึ่งมีเครื่องเล่นเทปก็จะกลายเป็นประวัติศาสตร์

โซนีนั้นเริ่มผลิตเครื่องเล่นเพลงพกพาแบรนด์วอล์กแมนในปี 1979 ระยะแรกนั้นยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรกระทั่งช่วงปี 80 ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา วอล์กแมนสามารถทำยอดจำหน่ายได้ถึง 220 ล้านเครื่องตลอดการผลิตต่อเนื่อง 30 ปี แม้ในช่วงหลังที่เครื่องเล่น MP3 จะผงาดขึ้นมามีอิทธิพลแทนวอล์กแมน

อย่างไรก็ตาม โซนีระบุว่ายังมีแผนผลิตเครื่องเล่นซีดีเพลงและ MP3 แบรนด์วอล์กแมนต่อไป รวมถึงแผนการใช้แบรนด์ Walkman ในผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่

นอกจากเครื่องเล่นเทปคลาสเซ็ตพกพา โซนียังระบุว่าจะหยุดการผลิตแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ (floppy disc) หน่วยความจำสำหรับเก็บข้อมูลซึ่งโซนีผลิตมาตั้งแต่ปี 1983
โซนีหยุดผลิต"Walkman"เล่นเทป
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

"Windows 8" ลุ้นออกตัวปีหน้า

สตีฟฟ์ บอลล์เมอร์ ซีอีโอไมโครซอฟต์
ไมโครซอฟท์ (Microsoft) แย้มแผนระบบปฏิบัติการวินโดวส์เวอร์ชันต่อไป "Windows 8" อาจพร้อมแจ้งเกิดในปีหน้าหรือ 2011 โดยคาดว่าจะมาพร้อมร้านจำหน่ายแอปพลิเคชันสำหรับคอมพิวเตอร์พีซีนามว่า Windows App Store ลักษณะเดียวกับร้าน Mac App Store ซึ่งแอปเปิลแถลงข่าวเปิดตัวพร้อมกับระบบปฏิบัติการแมคอินทอชใหม่ล่าสุดในชื่อ Mac OS X Lion เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้านวินโดวส์รุ่นเก๋าอย่าง Windows XP ได้ฤกษ์ม้วนเสื่ออย่างเป็นทางการ โดยวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 53 คือวันสุดท้ายที่ไมโครซอฟท์จำหน่าย XP แก่ผู้ผลิตพีซี OEM เพื่อนำไปติดตั้งในพีซีเครื่องใหม่จากโรงงาน

ไมโครซอฟท์ประกาศแผนการเปิดตัววินโดวส์เวอร์ชันใหม่ Windows 8 ในเว็บไซต์ไมโครซอฟท์เนเธอร์แลนด์ โดยระบุว่าไมโครซอฟท์ลงมือพัฒนาวินโดวส์เวอร์ชันใหม่มานานกว่า 1 ปีแล้ว ทำให้กำหนดการพัฒนา Windows 8 เหลือเวลาอีก 2 ปีนับจากนี้ ซึ่งการเปิดตัว Windows 8 อาจจะทำได้อย่างเร็วในปี 2011 ก่อนจะเริ่มเปิดให้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในปี 2012

ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า Windows 8 จะมาพร้อมบริการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันออนไลน์นามว่า Windows App Store เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้พีซีสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันจากนักพัฒนาอิสระ และซื้อคอนเทนต์ได้อย่างหลากหลายไม่ต่างกับการดาวน์โหลดบนสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีจดจำใบหน้าเพื่อการลงชื่อใช้งานโดยไม่ต้องเคาะแป้นพิมพ์ ขณะเดียวกันก็ลดเวลาการเปิดเครื่องหรือ boot-up ให้เร็วขึ้น

Windows App Store ถูกตั้งข้อสังเกตว่าคล้องกับการเปิดตัวร้านจำหน่ายซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องแมคอินทอชนาม Mac App Store ซึ่งแอปเปิลให้รายละเอียดไว้ในงานเปิดตัวระบบปฏิบัติการแมคอินทอชใหม่ล่าสุด Mac OS X 10.7 ในชื่อ Mac OS X Lion เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อคำนวณจากแผนของแอปเปิลที่จะดึงคุณสมบัติในระบบปฏิบัติการ iOS ซึ่งแอปเปิลติดตั้งในอุปกรณ์พกพามาสู่เครื่องคอมพิวเตอร์แมคอินทอช ก็ทำให้มีโอกาสสูงที่ไมโครซอฟท์จะพัฒนาความสามารถลักษณะเดียวกันเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน กำหนดการออกลายของ Lion จากแอปเปิลคือฤดูร้อนปี 2011

ระยะห่าง 3 ปีในการออกระบบปฏิบัติการวินโดวส์เวอร์ชันใหม่ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับไมโครซอฟท์ เนื่องจากที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ใช้เวลาในการพัฒนาโปรแกรมระบบปฏิบัติการนานกว่าคู่แข่งอย่างแอปเปิลอยู่เสมอ โดยแม้ไมโครซอฟท์จะส่ง Windows 7 สู่ตลาดในเวลาคล้อยหลัง Windows Vista เพียง 2 ปีครึ่ง แต่ไมโครซอฟท์ก็เคยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการออก Vista ล้าช้าจนทำให้ช่วงเวลาระหว่าง Windows XP และ Vista ห่างกันไปถึง 5 ปี ซึ่งถือเป็นโรคเลื่อนที่เป็นบาดแผลให้ซีอีโอไมโครซอฟท์อย่าง Steve Ballmer ต้องรับศึกหนักกับบรรดานักลงทุน

ความเคลื่อนไหวนี้ของไมโครซอฟท์เกิดขึ้นตามหลังการเฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปีของการวางจำหน่าย Windows 7 ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เวอร์ชันปัจจุบันที่ไมโครซอฟท์กำลังทำตลาดอยู่ในขณะนี้ โดยไมโครซอฟท์ประกาศความสำเร็จว่าสามารถจำหน่ายสิทธิ์ในการใช้งานต่อเครื่อง (ไลเซนส์) โปรแกรมได้สูงถึง 240 ล้านไลเซนส์ในปีเดียว ผลจากการที่พันธมิตรผู้ผลิตคอมพิวเตอร์หรือ OEM partner ของไมโครซอฟท์ทั้งหมด (100%) ตอบรับเพื่อจำหน่ายพีซีระบบปฏิบัติการวินโดวส์เซเว่นในช่วง 6 เดือนแรกของการเปิดจำหน่าย เป็นสัดส่วนที่สูงกว่าการจำหน่ายวินโดวส์วิสตา (Windows Vista) ซึ่งผู้ผลิตเพียง 70% เท่านั้นที่ตอบรับในช่วงแรก

** ม้วนเสื่อ XP **

สำหรับระบบปฏิบัติการเก่าแก่ Windows XP ไมโครซอฟท์ระบุว่าจะหยุดการอนุญาตให้ผู้ผลิตพีซี OEM ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows XP ในคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่จากโรงงานเพื่อวางจำหน่าย ถือเป็นการสิ้นสุดของวงจรชีวิต Windows XP ซึ่งไมโครซอฟท์เริ่มหยุดการสนับสนุนอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่กลางปี 2008

ผลิตภัณฑ์ที่จะได้รับผลกระทบจากเส้นใต้ที่ไมโครซอฟท์ขีดไว้สำหรับ Windows XP ครั้งนี้คือกลุ่มตลาดพีซีราคาประหยัดซึ่งเป็นที่นิยมในตลาดกำลังพัฒนา ไมโครซอฟท์เข้าใจดีว่าตลาดนี้ยังไม่เปิดรับ Windows Vista จึงทำให้ Windows XP ถูกนำมาปรับเพื่อต่อสายป่านไมโครซอฟท์ในตลาดที่กำลังเติบโต แต่เมื่อ Windows 7 สามารถพิสูจน์ตัวเองได้อย่างงดงาม Windows XP ซึ่งมีอายุมากกว่า 14 ปีจึงถูกวางแผนให้หลบทางเพื่อให้คลื่นลูกใหม่มาแทน

ไมโครซอฟท์ระบุว่า การสนับสนุน Windows XP ทุกรูปแบบจะยุติลงอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน ปี 2014
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Blueberri Amuse 640 HD เนวิเกเตอร์จอใหญ่กว่าที่คุณเคยเห็น



Blueberri Amuse 640 HD จีพีเอสเนวิเกเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดจากบริษัท ออสก้า โฮลดิ้ง จำกัด โดดเด่นด้วยขนาดหน้าจอยักษ์ 6 นิ้ว พร้อมความละเอียดคมชัดระดับ HD (800 x480 พิกเซล) เทียบเท่าวิทยุไซส์ 2-DIN ที่ติดรถยนต์ ใช้ชิปรับสัญญาณ SiRF GRF3i+ (64 Channel) ที่มีความแม่นยำสูงและประมวลผลได้รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน่วยความจำภายในขนาดใหญ่ถึง 4 GB และสามารถขยายเพิ่มได้ถึง 16 GB พร้อมแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 1500 mAh แถมอุปกรณ์ที่ใช้ติดตั้งในรถยนต์ครบชุด เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้
ที่มา Manager

อุปกรณ์เสริมเพิ่มพลังเสียงให้ iPhone ด้วย Bone Collection Speaker Amp

เพิ่มพลังเสียงให้กับ iPhone 4 ของคุณด้วยลำโพงขยายเสียง Bone Collection Speaker Amp ซึ่งทำจากซิลิโคนสีสดใส ใช้หลักการเหมือนเป็นโทรโข่ง ครอบต่อเข้ากับลำโพง iPhone 4 ก็จะช่วยเพิ่มเสียงให้ iPhone ได้เพิ่มขึ้นถึง 12 เดซิเบล โดยที่ไม่ต้องเปลืองแบตเตอรี่ด้วย แถมยังใช้เป็นสแตนตั้งได้ทั้งแนวตั้ง แนวนอนด้วย เก๋ๆ แบบนี้ขายที่ราคา 24.99 เหรียญสหรัฐ มีให้เลือกสามสี สีดำ สีเขียว และสีน้ำตาล
ที่มา OhGizmo!

B&N เล็งเปิดตัว Nook จอสี อังคารหน้า

มีข่าวลือออกมาว่า Barnes & Noble ร้านหนังสือยักษ์ใหญ่เตรียมเปิดตัว Nook เครื่องอ่านอีบุ๊ครุ่นใหม่เวอร์ชัน “จอสี” (color e-reader) ในต้นสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ แหล่งข่าวกล่าวอีกด้วยว่า Nook รุ่นใหม่จะทำงานในระบบหน้าจอสัมผัส และใช้ระบบปฏิบัติการ Android โดยกำหนดการจะเป็นวันอังคารที่ 26 ตุลาคม ศกนี้ เครื่องอ่านอีบุ๊ครุ่นใหม่ของ B&N จะถูกเรียกว่า Nook Color โดยมาพร้อมกับหน้าจอ 7 นิ้ว และจะวางตลาดด้วยราคา 249 เหรียญฯ หรือประมาณ 7,500 บาท ซึ่งทั้ง B&N ได้ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์นี้เป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับการวิ่งไล่ตาม Amazon และเนื่องจาก e-reader รุ่นใหม่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ทำให้มันไม่มีฟังก์ชันเทียบเท่า iPad แต่มีราคาแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น
ที่มา Arip

อุปกรณ์เสริม iTape Deck คาสเซ็ทเทปเคสสำหรับ iPhone 4

อุปกรณ์เสริม iTape Deck คาสเซ็ทเทปเคสสำหรับ iPhone 4 ยังจำกันได้ไหมเมื่อครั้งวันวานกับการฟังเพลงอันไพเราะจากเทปคาสเซ็ท หลายๆ คนอาจคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี และในตอนนี้เทปคาสเซ็ทชิ้นนี้จะกลับมาอีกครั้งในร่างของ iTape Deck Cassette Tape เคสซิลิโคนสำหรับ iPhone 4 นอกจากมีรูปร่างหน้าที่เหมือนเทปคาสเซ็ทของจริงแล้ว ยังมาพร้อมกับกล่องพลาสติกใส่เทป เพิ่มการปกป้องอีกชั้นหนึ่ง และสามารถใช้เป็นขาตั้งวาง iPhone 4 เพื่อการรับชมวีดีโอได้อย่างถนัดอีกด้วย iTape Deck Cassette Tape Case มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีขาว วางจำหน่ายบนร้านค้าออนไลน์ ราคาประมาณ 560 บาท
อุปกรณ์เสริม iTape Deck คาสเซ็ทเทปเคสสำหรับ iPhone 4 อุปกรณ์เสริม iTape Deck คาสเซ็ทเทปเคสสำหรับ iPhone 4
อุปกรณ์เสริม iTape Deck คาสเซ็ทเทปเคสสำหรับ iPhone 4
ที่มา siamphone

แคนนอนผนึกโอเซ่ กินรวบตลาดพรินท์ดิจิตอล

แคนนอนผนึกโอเซ่ อุดช่องว่างตลาดงานพิมพ์ดิจิตอลความเร็วสูง ยังคงแบรนด์โอเซ่ต่อ หวังขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งตลาดงานพิมพ์ดิจิตอลโลก หลังพบแนวโน้มอุตสากกรรมหนังสือโลกกำลังเปลี่ยน

อันเดรียส เลอบเบอร์ส กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเซ่ (ประเทศไทย) กล่าวว่าเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาแคนนอนกรุ๊ป ประเทศญี่ปุ่นได้เข้าซื้อหุ้นของโอเซ่บริษัทแม่ที่เนเธอร์แลนด์ 90% โดยแคนนอนยังจะซื้อหุ้นที่เหลืออีก 10% จากผู้ถือหุ้นรายย่อยเพื่อให้ครบ 100% ภายในเร็วๆ นี้ ซึ่งหากแล้วเสร็จจะทำให้โอเซ่กลายเป็นแผนกหนึ่งในแคนนอนกรุ๊ปเต็มรูปแบบ แต่เวลานี้การดำเนินธุรกิจของโอเซ่ยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่เริ่มมีความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยี การตลาด และการขายร่วมกันมากขึ้น
อันเดรียส เลอบเบอร์ส กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเซ่ (ประเทศไทย)
'การเข้าถือหุ้นครั้งนี้ทางแคนนอนยังคงแบรนด์โอเซ่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน โดยโอเซ่ยังคงโฟกัสในตลาดงานพิมพ์ความเร็วสูงสำหรับงานผลิตหนังสือเหมือนเดิม ในขณะที่แคนนอนก็ยังโฟกัสในตลาดคอมเมอร์เชียลที่เป็นจุดแข็งของแคนนอนเหมือนเดิม ซึ่งเป็นการเสริมตลาดซึ่งกันและกัน'

อันเดรียส กล่าวว่า ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่มีโปรดักส์ไลน์ในส่วนงานพิมพ์ในตลาดอื่นเสริมเข้ามา โดยเฉพาะงานพิมพ์ทางด้านโฟโต้ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของแคoนอน ซึ่งเป็นตลาดที่โอเซ่ไม่ได้เน้นอยู่แล้ว

ด้าน นายวิชิต พัฒนาทร ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจระบบการพิมพ์ดิจิตอล กล่าวว่า การนำผลิตภัณฑ์ของแคนนอนเข้ามาทำตลาดร่วมกับโอเซ่นั้น จะเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังประมาณต้นปีหน้า โดยปัจจุบันเริ่มมีการพัฒนาเทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ร่วมกันบ้างแล้ว

การเข้าซื้อกิจการโอเซ่ของแคนอนกรุ๊ปเป็นการอุดช่องว่างในตลาดสำหรับงานพิมพ์ความเร็วสูง ซึ่งเป็นตลาดที่แคนนอนยังไม่ได้เข้าไปมากนัก ขณะที่คู่แข่งในตลาดงานพิมพ์อย่างเอชพีได้ขยับไปก่อนหน้านี้แล้วหลายปี แคนนอนมองเป้าหมายที่จะก้าวเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดงานพิมพ์ดิจิตอล หลังจากที่มีโอเซ่เข้ามาเสริมทัพ โดยปัจจุบัน โอเซ่ มีส่วนแบ่งตลาดงานพิมพ์ดิจิตอลความเร็วสูงอยู่ประมาณ 50% มีอัตราการเติบโตต่อปี 15-20%

อันเดรียส กล่าวว่า ถึงแม้อีบุ๊กจะได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ยังไม่ส่งผลกระทบกับหนังสือเล่มมากนัก เนื่องจากหนังสือสามารถหยิบมาอ่านที่ใดก็ได้ ขณะที่สำนักพิมพ์หนังสือเล่มเริ่มมีความยุ่งยากในเรื่องของสต็อกหนังสือ ด้วยเหตุนี้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบดิจิตอลจึงกลายเป็นโซลูชั่นที่จะสามารถเข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าวทำให้สำนักพิมพ์ สามารถผลิตหนังสือเล่มในจำนวนที่ต้องการได้ (พรินท์ออนดีมานด์)

“เทคโนโลยีนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ยุโรป เติบโตถึง 20% ต่อปี ซึ่งแนวโน้มการพิมพ์แบบดิจิตอลในอนาคตเชื่อว่าจะเติบโตได้ถึง 30% แต่สำหรับในประเทศไทยถึงแม้จะเพิ่งเริ่มได้ไม่นานแต่โอกาสที่สำนักงานพิมพ์ต่างๆ หันมาใช้งานพิมพ์แบบดิจิตอลนับวันจะเพิ่มขึ้นเหมือนกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นในตลาดโลก”

แคนนอนผนึกโอเซ่ กินรวบตลาดพรินท์ดิจิตอล
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

HP รุกเอสเอ็มบีด้วย"โปรบุ๊ก"

เอชพีโหมตลาดคอมเมอร์เชียลโน้ตบุ๊กอีกระลอก ส่งโปรบุ๊กโน้ตบุ๊กสายพันธุ์อึดลงตลาดพร้อมกัน 3 ซีรีส์ ตอบโจทย์ตลาดทุกกลุ่ม หลังพบภาคเอกชน รัฐบาล เพิ่มงบไอที 20% ตั้งเป้ารักษาผู้นำตลาดต่อ พงศ์ธวัช พิเชษฐเลอมานวงศ์ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์และการตลาด กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ บริษัท ฮิวเลตต์แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดคอมเมอร์เชียลโน้ตบุ๊ก นับเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับเอชพีอีกตลาดหนึ่ง ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เอชพีถือเป็นเบอร์หนี่งในตลาดนี้ ด้วยส่วนแบ่งตลาดระหว่าง 33-37% แปรเปลี่ยนไปในแต่ละไตรมาส ซึ่งเชื่อว่าเมื่อถึงสิ้นปี เราก็จะยังคงสามารถครองความเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้ต่อไป

ตลาดคอมเมอร์เชียลในประเทศไทยปีนี้ นักวิเคราะห์ตลาดไอทีคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตถึง 20% ดีกว่าปีที่แล้วที่มีเพียงมากกว่า 10% เท่านั้น โดยมีขนาดตลาดทั้งปีอยู่ที่ 250,000 เครื่องเป็นผลมาจากหน่วยงานของรัฐ บริษัทภาคเอกชนมีการลงทุนด้านไอทีเพิ่มขึ้นในปีนี้ ตลอดจนผู้ประกอบการขนาดแล็กและกลางหรือเอสเอ็มบี ต่างก็นำไอทีโดยเฉพาะโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์เข้ามาเสริมประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

“อัตราการเติบโตของเอชพี สูงกว่าอัตราการเติบโตของตลาดรวม โดยเกือบ 60% ยอดขายคอมเมอร์เชียลโน้ตบุ๊กของเอชพีมาจากตลาดเอสเอ็มบี ประมาณ 20% เป็นกลุ่มเอนเตอร์ไพรซ์ และที่เหลือเป็นตลาดการศึกษา”

พงศ์ธวัช ยังกล่าวอีกว่า ความหลากหลายทางด้านผลิตภัณฑ์ของเอชพีทำให้สามารถตอบสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าในแต่กลุ่มได้เป็นอย่างดี โดยที่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของเอชพีนอกจากนวัตกรรมใหม่ๆ แล้ว เอชพียังคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้ในตลาดคอมเมอร์เชียลที่ต้องการโน้ตบุ๊กที่มีดีไซน์ด้วย ถึงแม้จะไม่เหมือนกับคอนซูเมอร์โน้ตบุ๊ก แต่ก็ให้ความสำคัญกับดีไซน์ของเครื่องประกอบการตัดสินใจซื้อด้วย

ล่าสุด เอชพีได้เปิดตัวโน้ตบุ๊กตระกูล โปรบุ๊ก เจนเนอเรชั่นที่ 2 เข้าสู่ตลาดเมืองไทยพร้อมกัน 3 ซีรีส์ ประกอบไปด้วย เอส ซีรีส์ เป็นโน้ตบุ๊กสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ที่เน้นเรื่องประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องมีดีไซน์เป็นของตัวเอง เอ็ม ซีรีส์ เหมาะสำหรับผู้ใช้ธุรกิจขนาดเล็กและโปรซูมเมอร์ที่ต้องเดินทาง ที่มีความต้องการทางด้านดีไซน์ที่บางเบาแล้ว ยังต้องมาพร้อมวัสดุที่ทนทานต่อการเคลื่อนที่ และ บี ซีรีส์ โน้ตบุ๊กสำหรับกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการเครืองที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ที่สำคัญยังจะต้องช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย

“โปรบุ๊กในแต่ละซีรีส์ที่เปิดตัววันนี้ ตอบโจทย์ความต้องการในแต่ละกลุ่มได้อย่างครบถ้วน จุดเด่นที่สำคัญของการทำตลาดคอมเมอร์เชียลที่ไม่เหมือนใครก็คือ สามารถที่จะปรับแต่งสเปกต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการในแต่ละองค์กรได้ นอกเหนือจากสเปกมาตรฐานที่วางขายตามท้องตลาด”

พงศ์ธวัช ยังย้ำอีกว่า คอมเมอร์เชียลโน้ตบุ๊กนับเป็นตลาดสำคัญของเอชพี โดยเฉพาะตลาดกลุ่มเอสเอ็มบี ถือเป็นตลาดที่เราให้ความสนใจเป็นพิเศษ ทางเอชพีเชื่อว่า โปรบุ๊กทั้ง 3 ซีรีส์สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของทั้งองค์กรขนาดใหญ่จนถึงลุกค้ากลุ่มเอสเอ็มบีได้

ช่องทางขายคอมเมอร์เชียลโน้ตบุ๊กของเอชพี ส่วนใหญ่มาจากการขายเป็นโครงการ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ จนถึงตลาดการศึกษาซึ่งมีถึง 70% ที่เหลืออีก 30% เป็นการขายผ่านช่องทางหน้าร้านของเอชพี โดยทางเอชพีใช้วิธีขยายตลาดผ่านทางพาร์ตเนอร์เป็นสำคัญ โดยทางเอชพีมีพาร์ตเนอร์ที่ทำตลาดคอมเมอร์เชียลอยู่กว่า 2,000-3,000 ราย ทำให้เอชพีต้องมีการทำงานอย่างใกล้ชิด อบรมเพื่อให้พาร์ตเนอร์สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี

“รูปแบบกิจกรรมการตลาดของคอมเมอร์เชียลโน้ตบุ๊กจะแตกต่างจากคอนซูเมอร์โน้ตบุ๊ก โดยจะเน้นไปที่กิจกรรมโรดโชว์ตามหน่วยงานต่างๆ ควบคู่กับการจัดสัมมนาให้ความรู้กับกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ดังนั้นพื้นที่ขายของคอมเมอร์เชียลโน้ตบุ๊กจึงมาจากกรุงเทพฯถึง 70%”
HP รุกเอสเอ็มบีด้วย"โปรบุ๊ก"
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ซัมซุง E-Board รุ่น 650TS


ซัมซุง E-Board รุ่น 650TS “ซัมซุง อี-บอร์ด (E-Board) รุ่น 650TS” ขนาด 65 นิ้ว เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องอาศัยการนำเสนองานอย่างมืออาชีพ โดยเฉพาะด้านการเรียนการสอน ที่จะปฏิวัติการใช้กระดานดำหรือไวท์บอร์ดไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยหน้าจอแบบสัมผัส UI ที่สามารถเขียน ลบทิ้ง ด้วยปากกาดัมมี่ พร้อมเก็บข้อมูลได้อย่างง่ายดาย เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต มีฟังก์ชันสนับสนุนการเรียนการสอนใหม่ๆ มากมายที่ดึงดูดความสนใจของนักเรียนนักศึกษาได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและรูปแบบใหม่ๆ ให้กับการเรียนการสอนด้วยมัลติมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการฉายวิดีโอ เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ต่อเว็บแคมและไมโครโฟนไร้สาย นำเสนอภาพนิ่งและวิดีโอทั้งยังสามารถเขียนลงบนหน้าจอขณะฉายวิดีโอได้ สนับสนุนการเรียนการสอนแบบโต้ตอบกันได้ในทันทีระหว่างอาจารย์และนักเรียนนัก ศึกษาด้วยโปรแกรม U-Class เช่น ทำข้อสอบออนไลน์ การโหวตและนับคะแนน เป็นต้น ตลอดจนปรับปรุงสิ่งแวดล้อมต่างๆ ในห้องเรียนให้ดีขึ้น ลดฝุ่นและสารพิษที่มาจากชอล์กและปากกาเคมี

“ซัมซุง อี-บอร์ด (E-Board) รุ่น 650TS” ราคา 499,000 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ซัมซุง คอล เซ็นเตอร์ โทร. 0-2689-3232 หรือโทรฟรีจากโทรศัพท์บ้าน 1800-29-3232
ที่มา igadgety

ปริ้นเตอร์แขวนได้ประหยัดพื้นที่

The Hanging Printer หรือเครื่องปริ้นเตอร์แบบแขวนนี้ เป็นคอนเซ็ปต์การออกแบบของ Jaesik Heo ซึ่งออกแบบเครื่องปริ้นเตอร์ให้ประหยัดพื้นที่ในการใช้งานด้วยการออกแบบให้ สามารถแขวนไว้กับขอบโต๊ะหรือที่ที่ต้องการ ซึ่งถ้าเป็นจริงก็จะมีประโยชน์มากกับออฟฟิศที่มีขนาดเล็ก

ที่มา Techfresh

Apple เปิดตัว MacBook Air รุ่นใหม่ถูกกว่าเดิมวันที่ 20 นี้

หลายๆ ท่านอาจยังไม่ทราบว่า ในวันพุธที่ 20 ตุลาคมนี้ Apple จะจัดงาน Back to Mac ขึ้น โดยข่าวลือล่าสุดรายงานว่าทางบริษัทน่าจะใช้งานนี้ในการเปิดตัว MacBook Air ตัวใหม่ที่มีหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว

เว็บไซต์ AppleInsider ได้รับรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่า Apple จะเปิดตัว MacBook Air ตัวใหม่ภายในงานดังกล่าว ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่หมด โดยจะมีหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว และตัวบอกดี้นั้นจะมีลักษณะเป็นเหลี่ยมมากขึ้น และจะใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD เป็นมาตรฐาน และที่สำคัญคือเจ้า MacBook Air ตัวใหม่นี้นั้นได้เข้าสู่กระบวนการผลิตมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งหมายความว่าเราคงได้เห็น MacBook Air ตัวใหม่ภายในร้านค้าในระยะเวลาไม่นาน สุดท้าย ทราบมาว่าราคาขายในช่วงเปิดตัวนั้นจะถูกกว่ารุ่นเก่าด้วย

นอกจากนั้น จากโลโก้ที่อยู่ในบัตรเชฺิญเรายังได้เห็นรูปเสือซึ่งเป็นชื่อรุ่นของ Mac OS X ในทุกๆ รุ่น ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็น Mac OS X 10.7 ในไม่ช้า
Apple เปิดตัว MacBook Air รุ่นใหม่ถูกกว่าเดิมวันที่ 20 นี้
ที่มา i3

Tablet จากจีนเริ่มตีตลาดด้วยหน้าตาบ้างแล้ว ลองดู OPAD N2

บริษัทจากจีน ONN (OWEN) ได้เปิดตัว Tablet ตัวใหม่ล่าสุดเน้นหน้าตาขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480ตัวเครื่องใช้ระบบของ Rockchip RK2816 ซึ่งรันโดย ARM9 Processor ที่ความเร็ว 600 MHz และระบบ Andriod 2.1 มี WiFi, USB, microSD, Optional 3G พร้อม Accelerometer และ G-sensor บริษัท ONN (OWEN) เป็นที่รู้จักในเรื่องของ MP3 และ PMP โดยใช้ Rockchip RK2816 นั้น เป็นการรับรองว่าเครื่องจะสามารถเล่นไฟล์ 720p และมี HDMI ดังนั้นเรื่องประสิทธิภาพของวิดีโอและเพลงก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรมาก แต่ปัญหาคือ มันหาซื้อเมืองจีนยาก
ที่มา NotebookSpec

iPhone 4 รายล้อมด้วยเพชรมูลค่ารวมกว่า 5 ล้านปอนด์

แม้จะมีอยู่หลายๆ แบรนด์ที่สร้างโทรศัพท์ในลักษณะหรูหราออกมาให้เห็นกันอยู่หลายต่อหลายเครื่องก็ตาม แต่การนำโทรศัพท์ที่มีความนิยม มาเสริมความงามเพิ่มมูลค่า ก็ยังเป็นที่นิยมของนักออกแบบ หรือนักสะสมที่มีฐานะการเงินค่อนข้างสูง ล่าสุดความนิยมอย่างต่อเนื่องไม่เสื่อมคลายใน iPhone 4 ได้ถูก Stuart Hughes นักออกแบบชาวอังกฤษ สร้างสรรค์ความงาม และความหรูหราลงบน iPhone 4 ให้มีราคาสูงถึง 5 ล้านปอนด์ จากการประดับประดาขอบรอบตัวเครื่องด้วยเพชร มากกว่า 500 เม็ด น้ำหนักรวมประมาณ 100 กะรัต ส่วนปุ่ม Home ประดับด้วยเพชรสีชมพู โดดเด่นตัดกับสีตัวเครื่อง ด้านหลังเครื่องใช้วัสดุ rose gold จัดเรียงเพชร 53 เม็ดระยิบระยับเป็นโลโก้แอปเปิ้ล
iPhone 4 รายล้อมด้วยเพชรมูลค่ารวมกว่า 5 ล้านปอนด์
ที่มา siamphone

ขาแชตยิ้ม ใช้เฟซบุ๊คบนสไก้ป์ 5

เป็นไปตามที่แหล่งข่าวหลายสำนักคาดการณ์ไว้ เมื่อผู้ให้บริการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตหรือ VOIP อย่างสไก้ป์ (Skype) ออกมาเปิดตัวซอฟต์แวร์รุ่น Skype 5.0 ที่มาพร้อมฟังก์ชันเฟซบุ๊ค ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานสไก้ป์สามารถใช้งานฟีเจอร์เฟซบุ๊คผ่านโปรแกรมสไก้ป์ได์

โปรแกรมสไก้ป์ เวอร์ชัน 5 สำหรับวินโดวส์ มาพร้อมความสามารถในการแสดงฟีดข่าว (News Feed) ของเฟซบุ๊คบนโปรแกรมสไก้ป์ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถใช้สมุดโทรศัพท์ (Contact List) ของเฟซบุ๊คเพื่อส่งข้อความ SMS ถึงกันได้ รวมถึงสามารถส่งเสียง และทำวิดีโอคอลล์ถึงกลุ่มเพื่อนและผู้ติดต่อได้ผ่านโปรแกรมสไกป์

เฟซบุ๊คนั้นเป็นเครือข่ายสังคมขนาดใหญ่ที่สุดในขณะนี้ มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 500 ล้านชื่อ และมียอดตัวเลขสถิติเวลาให้งานจากผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่าเสิร์ชเอนจิ้นยอดฮิตอย่างกูเกิล ที่ผ่านมา เฟซบุ๊คให้บริการแชตด้วยข้อความแก่ผู้ใช้มานานกว่า 2 ปี แต่ยังไม่เคยให้บริการส่งเสียงและบริการวิดีโอคอลล์

การจับมือของ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ในครั้งนี้จะส่งผลดีกับทั้ง 2 ฝ่าย คือเฟซบุ๊คจะมีศักยภาพในการสื่อสารที่ดีขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ความสามารถในการขายโฆษณาออนไลน์ที่แข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย ในส่วนของสไก้ป์ความร่วมมือนี้ก็จะทำให้เฟซบุ๊คไม่ต้องสร้างบริการ VOIP ของตัวเอง ซึ่งอาจจะเป็นศัตรูตัวฉกาจของสไกป์ในอนาคต
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

แอปเปิลเร่งเครื่องบุก "CDMA"

หลังจากยักษ์ใหญ่แอปเปิล (Apple) ถูกร่ำลือว่ากำลังพยายามพัฒนาไอโฟน (iPhone) พันธุ์ใหม่เวอร์ชัน CDMA เพื่อจำหน่ายในสหรัฐฯ ล่าสุดแหล่งข่าววงในชี้แอปเปิลกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับโอเปอเรเตอร์ 2 รายในอินเดียเพื่อวางจำหน่ายไอโฟนเวอร์ชัน CDMA ในอินเดียด้วย ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพตลาดเครือข่าย CDMA ของแอปเปิลในนาทีนี้
หนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นอล (Wall Street Journal) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า แอปเปิลกำลังเจรจากับ 2 โอเปอเรเตอร์ในอินเดียนาม Reliance Communications และ Tata Teleservices เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการนำไอโฟนเวอร์ชันใหม่เข้ามาจำหน่ายในอินเดีย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตลาดโทรศัพท์มือถือที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก

CDMA หรือ code division multiple access เป็นเทคโนโลยีเครือข่ายโทรศัพท์มือถือซึ่งแตกต่างกับเทคโนโลยีเครือข่าย GSM หรือ global system for mobile communications ที่ไอโฟนเวอร์ชันปัจจุบันรองรับอยู่ โดย Bharti AirTel และ Vodafone Essar โอเปอเรเตอร์เครือข่าย GSM ในอินเดียนั้นเป็นตัวแทนจำหน่ายไอโฟนอยู่แล้วในขณะนี้

ความเป็นไปได้ในการรุกตลาดอินเดียของไอโฟนเวอร์ชัน CDMA นี้เกิดเพียงไม่กี่วันหลังจากสื่อมวลชนอเมริกันรายงานข่าวว่าแอปเปิลกำลังซุ่มพัฒนาไอโฟนเวอร์ชัน CDMA เพื่อให้โอเปอเรเตอร์เบอร์ 2 เมืองลุงแซม Verizon Wireless วางจำหน่ายในสหรัฐฯช่วงปี 2011 ซึ่งจะเป็นหลักไมล์สำคัญหลังจาก AT&T โอเปอเรเตอร์เครือข่าย GSM ในสหรัฐฯนั้นสวมบทเป็นโอเปอเรเตอร์ตัวแทนจำหน่ายไอโฟนรายเดียวในสหรัฐฯตั้งแต่ปี 2007

วอลสตรีทเจอร์นอลระบุว่า Tata นั้นผ่านการเจรจากับแอปเปิลมาตั้งแต่ 4-5 เดือนที่แล้ว ซึ่งหากการเจรจาสำเร็จ แอปเปิลก็จะสามารถสยายปีกเข้าถึงกลุ่มตลาดที่ขยายตัวรวดเร็วอย่างอินเดียได้มากขึ้นอีก โดยอินเดียมีสถิติเป็นตลาดที่มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นราว 18 ล้านคนต่อเดือน จากประชากรไร้สายทั้งหมด 670 ล้านคนทั่วอินเดีย (ในจำนวนนี้ 20% เป็นผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ CDMA)

Daryl Chiam นักวิเคราะห์อาวุโสจากบริษัทวิจัย Canalys วิเคราะห์ว่าอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดขนาดมหาศาลที่แอปเปิลให้ความสนใจ โดยส่วนแบ่งตลาดที่แอปเปิลทำได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มีสัดส่วนน้อยกว่า 1% เมื่อเทียบกับประชากรไร้สายของอินเดีย

สำหรับในประเทศไทยถือเป็นโศกนาฎกรรมสำหรับ CDMA เพราะขนาดแอปเปิลยังมองเห็นโอกาสของเทคโนโลยีนี้ แต่ไทยกลับขุดหลุมรอฝัง CDMA

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เครื่องเล่นมัลติมีเดีย เพลยเยอร์ 'Mixi V8' (Hi-Definition) ขนาดเล็ก

เครื่องเล่นมัลติมีเดีย เพลยเยอร์ 'Mixi V8' (Hi-Definition) ขนาดเล็ก มิกซ์ อินโนเวชั่น น้องใหม่ตลาดเครื่องเล่นมัลติมีเดีย ประเดิมตลาดมีเดีย เพลยเยอร์ ด้วย 'Mixi V8' เครื่องเล่นภาพยนตร์ระดับไฮเดฟฟินิชัน (Hi-Definition) ขนาดเล็ก รองรับไฟล์หลายฟอร์แมต พร้อมความสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต วางเป้า 1 ปี ไม่ต่ำกว่าหมื่นเครื่อง อนาคตลุยผลิตทั้งฮาร์ดแวร์และคอนเทนต์ให้เป็นโซลูชันครบวงจร

วิทยา มิตรศรัทธา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิกซ์ อินโนเวชัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เราเคยทำบริษัทผลิตคอนเทนต์เพื่อการศึกษามาก่อน และเล็งเห็นว่าตลาดเครื่องเล่นไฮเดฟฯ กำลังอยู่ในช่วงที่ได้รับความนิยมจึงหันมาวางจำหน่ายอุปกรณ์เพื่อในอนาคต จะร่วมกับพัธมิตรในการสร้างโซลูชันที่สมบูรณ์แบบให้กับผู้ใช้

"ตลาดเครื่องเล่นมัลติมีเดีย ที่ใช้รูปแบบดิจิตอลในปัจจุบันยังมีไม่มากนัก ทำให้ไม่รู้ส่วนแบ่งที่แน่นอนของตลาด แต่เชื่อว่ากลุ่มเป้าหมายหลักในช่วงแรกจะอยู่ที่กลุ่มไฮเอนด์ยูสเซอร์ ที่มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีเป็นหลัก ก่อนลงไปสู่กลุ่มลูกค้าโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ทั่วไป"

มอง 4E เป็นตัวขับเคลื่อนได้แก่ Entertainment จากคอนเทนต์ทางด้านความบันเทิง E-Reading ซึ่งขณะที่มีอุปกรณ์ที่รองรับการอ่านสื่อดิจิตอลกำลังได้รับความนิยม E-Learning ที่มีลักษณะแบบอินเตอแอคทีฟผ่านเครืองมือที่สามารถพกพาได้ สุดท้ายส่งผลให้เกิด E-Business ที่จะนำบริษัทเข้าสู่การขายโฆษณาบนระบบ

ในเบื้องต้น มิกซ์ อินโนชัน จะโฟกัสที่ 3 แพลตฟอร์ม คือ เครื่องเล่นแบบต่อจอโทรทัศน์ เครื่องเล่นไฮเดฟฯแบบพกพา และซอฟต์แวร์ที่ช่วยทำงานบนคอมพิวเตอร์ ซึ่ง Mixi v8 เป็นแบบแรก ส่วนแบบต่อๆไปกำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและจะนำเข้ามาจำหน่ายต่อไปในอนาคต

ชินนริทธิ์ โชติสุริยพงศ์ กรรมการผู้จัดการ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นเราวางเป้าหมายของ Mixi V8 ไว้ใน 10,000 เครื่อง ภายใน 1 ปีหลังจากเริ่มวางจำหน่าย ซึ่งถ้านับเฉพาะสิ้นปีนี้น่าจะอยู่ที่ราวๆ 500 เครื่อง ในการทำตลาดช่วงแรก

"จากผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเจาะเฉพาะกลุ่มในช่วงแรก ทำให้เราวางแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในทุกๆไตรสมาส เพื่อให้มีอุปกรณ์เข้ามาในตลาดให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อต่อยอดไปยังโซลูชันที่รวมทั้งฮาร์ดแวร์และคอนเทนต์ในอนาคต"

Mixi V8 เป็นเครื่องเล่นไฮเดฟฯ ขนาดเล็ก ที่รองรับไฟล์ภาพยนตร์หลากหลายนามสกุล ไม่ว่าจะเป็น AVi MKV ISO MP4 MOV RMVB และ FLV ซึ่งเป็นไฟล์ที่ปกติจำเป็นต้องเล่นบนคอมพิวเตอร์เป็นหลัก รวมถึงรองรับไฟล์ซับไตเติลภาษาไทยสำหรับคอซีรีส์ ให้สามารถโหลดซีรีส์มาลงไว้ในฮาร์ดดิสก์ หรือ แฟลชไดร์ฟเพื่อเล่นผ่านตัวเพลยเยอร์ได้ทันที

รองรับการเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์ความจุสูงสุด 2TB มีพอร์ตยูเอสบี SATA สำหรับใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล รวมไปถึงยังสามารถใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าไปรับชมวิดีโอจากยูทูป ดูรูปจาก Picasa Flickr รองรับ RssReader ดูข้อมูลหุ้น พยากรณ์อากาศจาก Yahoo เป็นต้น

โดย Mixi V8 เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างบริษัท มิกซ์ อินโนเวชัน และ InterOrigins Lab จากสหรัฐอเมริกา เริ่มวางจำหน่ายปลายเดือนตุลาคม 2553 ผ่านร้านจำหน่ายเครื่องไฟฟ้าทั่วไป ก่อนจะขยายไปยังร้านค้าไอทีในอนาคต ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 6,900 บาท

LG เปิดตัวสมาร์ทโฟน Windows Phone 7 พร้อมกัน 2 รุ่น

แอลจีเปิดตัวสมาร์ทโฟนพร้อมกัน 2 รุ่น ในระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7 ได้แก่ LG Optimus 7 (LG E900) กับ LG Optimus 7Q (LG C900) ทั้งสองรุ่นมาพร้อมหน่วยประมวลผล 1 GHz กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล หน่วยความจำในตัว 16 GB รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi สนับสนุนเทคโนโลยี DLNA (Digital Living Network Alliance)คุณสมบัติ LG E900 Optimus 7

จอแสดงผล TFT LCD ระบบสัมผัส ความละเอียด 800 x 480 พิกเซล กว้าง 3.8 นิ้ว
ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7
หน่วยประมวลผล QSD8650 (Qualcomm Snapdragon 1GHz)
กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และ ระบบออโต้โฟกัส
หน่วยความจำภายใน 16 GB
การเชื่อมต่อ Wi-Fi, DLNA
- USB 2.0 (Micro-USB)
รองรับบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Networking Service)
- Facebook, WM Live, Twitter
ขนาด 125 x 59.8 x 11.5 มิลลิเมตร

คุณสมบัติ LG C900 Optimus 7Q

จอแสดงผล TFT LCD ระบบสัมผัส ความละเอียด 800 x 480 พิกเซล กว้าง 3.5 นิ้ว
แผงแป้นพิมพ์ QWERTY สไลด์ออกด้านข้าง
ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7
หน่วยประมวลผล QSD8650 (Qualcomm Snapdragon 1GHz)
กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และ ระบบออโต้โฟกัส
หน่วยความจำภายใน 16 GB
การเชื่อมต่อ Wi-Fi, DLNA
- USB 2.0 (Micro-USB)
รองรับบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Networking Service)
- Facebook, WM Live, Twitter
ขนาด 119.5 x 59.5 x 15.22 มิลลิเมตร

LG เปิดตัวสมาร์ทโฟน Windows Phone 7 พร้อมกัน 2 รุ่น
ที่มา siamphone

Samsung Wave 575 คลื่นลูกใหม่แห่ง Bada Phone

Samsung ประกาศเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ Samsung Wave 575 ซึ่งนับเป็นรุ่นที่ 6 ในซี่รี่ย์ Wave หลังจากที่ปล่อยสมาร์ทโฟน Samsung Wave S8500 ระบบปฏิบัติการ Bada รุ่นแรกได้ยลโฉมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา สำหรับ Samsung Wave 575 จะมาเปิดตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง หน้าตาตัวเครื่องคล้ายกับ Samsung Wave 525 แต่ต่างกันตรงการเชื่อมต่อเครือข่าย โดย Samsung Wave 575 สนับสนุนการเชื่อมต่อเครือข่าย 3G-HSDPA แต่ Samsung Wave 525 รองรับเพียงเครือข่าย EDGE เท่านั้น
Samsung Wave 575 มีขนาดบาง 11.9 มิลลิเมตร หน้าจอสัมผัส TFT-LCD ความละเอียด WQVGA ขนาด 3.2 นิ้ว สนับสนุนการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11n, Bluetooth ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติมจาก Samsung Apps หน่วยความจำภายใน 100 MB เพิ่มเติมหน่วยความจำด้วยการ์ด MicroSD มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ, สีขาว และ สีชมพู เริ่มวางจำหน่ายในประเทศสวีเดนกลางเดือนพฤศจิกายนเป็นประเทศแรก ก่อนจะทยอยสู่ประเทศอื่นๆ ต่อไป
Samsung Wave 575 คลื่นลูกใหม่แห่ง Bada Phone
ที่มา siamphone

Samsung Galaxy Tab รวมโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ให้เป็นหนึ่งเดียว

ต้องยอมรับว่ากระแสความร้อนแรงของไอแพดจากแอปเปิลเป็นตัวผลักดันให้ตลาดแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ในบ้านเรานั้นมีการตื่นตัวเพิ่มขึ้นสูง และถึงแม้ว่าในตลาดโลกเราแท็บเล็ตมากหมายหลายยี่ห้อ แต่ในบ้านเรานั้นกลับมีอินเตอร์แบรนด์เพียงแบรนด์เดียวที่เข้ามาทำตลาดแบบเต็มตัวนั่นก็คือ Samsung ที่เพิ่งจะเปิดตัว Galaxy Tab ไปสดๆ ร้อนๆ

ว่ากันว่าเจ้า "แท็บ" นี้ กำลังเป็นคู่แข่งตัวสำคัญของไอแพด โดยจะมาพร้อมหน้าจอแบบ Capasitive ขนาดกว้าง 7 นิ้ว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.2 ซึ่งรองรับโปรแกรม Flash Player 10.1 ซีพียู A8 Cortex ความเร็ว 1GHz, รองรับการใช้งานโทรศัพท์ และวิดีโอคอลล์, กล้องตัวหน้า ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซลและกล้องตัวหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

โมโตโรลาส่ง"Droid Pro"ชนBB

โมโตโรลา (Motorola) เปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ล่าสุดเพื่อลุยตลาดผู้ใช้กลุ่มองค์กร ให้ชื่อ Droid Pro การันตีความเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ นักสังเกตการณ์ฟันธงเป็นไม้เด็ดที่โมโตโรลาส่งมาเขย่าบัลลังก์แบล็กเบอรี่

ซานเจย์ จฮา ประธานกรรมการบริหารร่วมโมโตโรลา กล่าวในงานเปิดตัวสมาร์ทโฟน Droid Pro ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ว่า Droid Pro คือสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นแรกที่สามารถรองรับซอฟต์แวร์ปฏิทินงานและอีเมล Exchange ของไมโครซอฟท์ซึ่งนักธุรกิจทั่วโลกนิยมใช้งาน แสดงให้เห็นชัดเจนว่ากลุ่มตลาดที่โมโตโรลาวางไว้ให้ Droid Pro คือกลุ่มผู้ใช้งานในบริษัทองค์กร

ในแถลงการ โมโตโรลาระบุว่า Droid Pro มีระบบรักษาความปลอดภัยระดับองค์กร โดยจะเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นแรกที่มีระบบเข้ารหัสข้อมูล (พร้อมใช้งานต้นปี 2011) ผู้ใช้สามารถปิดกั้นข้อมูลทั้งในโทรศัพท์และเอสดีการ์ดได้ในกรณีโทรศัพท์สูญหายหรือถูกขโมย นอกจากนี้ยังมีระบบจัดการรหัสผ่านระยะไกลซึ่งผู้ใช้สามารถตรวจสอบหรือตั้งค่ารหัสผ่านใหม่ได้จากทุกมุมโลก

Droid Pro มาพร้อมหน้าจอทัชสกรีนขนาด 3.1 นิ้ว ระบบปฏิบัติการ Android 2.2 แผงคีย์บอร์ด QWERTY เหมือนแบล็กเบอรี่ มาพร้อมโปรแกรม Flash Player Mobile 10.1 หน่วยประมวลผล 1Ghz กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช dual-LED รองรับ WiFi, 3G, GPS หน่วยความจำภายใน 8GB กำหนดการวางจำหน่ายในสหรัฐฯคือต้นเดือนพฤศจิกายนนี้

Droid Pro ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในตระกูล Droid ที่โมโตโรลาคลอดออกมาตามหลัง Droid X และ Droid 2 สำหรับทั้งปี 2010 โมโตโรลาระบุว่ามีแผนวางจำหน่ายโทรศัพท์มือถือให้ได้ 12-14 ล้านเครื่องในปีนี้

ขอบคุณภาพจาก intomobile.com
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์