ในช่วงนี้กระแสของ iPad เริ่มมาแรงขึ้นเรื่อยๆ และได้แรงหนุนจากกระแสเครื่องต่างค่ายที่มีหน้าตาคล้ายๆกันมาผสมโรงเข้าไป
ในช่วงนี้กระแสของ iPad เริ่มมาแรงขึ้นเรื่อยๆ และได้แรงหนุนจากกระแสเครื่องต่างค่ายที่มีหน้าตาคล้ายๆกันมาผสมโรงเข้าไป อีกทำให้กระแสของอุปกรณ์ประเภท กระดานชนวนอิเลคโทรนิคสุดไฮโซเลยกลายเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้หลายๆคนต้องหันมา เริ่มพิจารณากัน นอกจาก iPad จะเจอคู่แข่งจากจีนที่ทำเครื่องหน้าตาคล้ายๆกับ iPad เตรียมป้อนตลาดในราคาถู๊กถูกแล้ว ยังมี Sony อีกเจ้าที่กำลังเตรียมบุกตลาดสินค้าในรูปแบบนี้เช่นกัน แต่หากเอาแบบทันใจไม่ต้องรอ มีตัวจริงให้ชมกันแล้วก็คือ HP Slate ซึ่งได้เปิดตัวให้ยลโฉมจริงไปเมื่อในงาน CES 2010 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งงานนี้หากจะเรียกว่า iPad เป็นเจ้าตลาดค้นคิดคนแรกก็คงไม่ใช่ เพราะเครื่องในลักษณะแบบนี้มันมีมานานแล้ว แต่สำหรับเครื่อง iPad ของ Apple นั้นมันอาจจะมีการออกแบบได้ดูสวยงามกว่าเท่านั้นเอง และมีลูกเล่นที่เป็นเอกลักษณ์กว่า รายละเอียดของ iPad เราลองมาทบทวนกันก่อนครับว่ามันมีรายละเอียดตัวเครื่องเป็นอย่างไรiPad เป็นเครื่องที่มีขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้วแบบ multi-touch capacitive display การแสดงผลที่ความละเอียด 1024 x 768 pixel และมีความหนาเครื่องเพียง 0.5 นิ้วในน้ำหนักตัวรวม 1.5 pounds มาพร้อมกับการทำงานด้วยซีพียู 1GHz Apple A4 CPU. มีความจุให้เลือกสามแบบคือ 16GB, 32GB, หรือ 64GB. แบตเตอรี่สามารถใช้ได้นานถึง 10 ชม ในขณะเล่นเว็บกับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, ดู video, หรือฟังเพลง และยังมี Buit-in Accelerometer และ Ambient light sensors.การเชื่อมต่อสามารถทำได้เฉพาะ WiFi, Bluetooth, Cellular data services – EDGE/3G. และทั้งหมดนี้ของ iPad ทำงานบนระบบปฎิบัติการของ iPhone OS 3.2
จุดด้อยของ iPad ในตอนนี้เท่าที่ทราบก็คือ
1.ไม่ มีกล้อง
2.ไม่มี HDMI Out
3.ไม่มี Flash
4.ไม่ใช่หน้าจอ Widescreen
5. ไม่มี Multi tasking
ซึ่งด้วยข้อจำกัดของ iPad เหล่านี้เลยเปิดโอกาสอันดีให้กับเครื่องยี่ห้ออื่นๆรวมทั้ง HP Slate สามารถมีช่องว่างเอาชนะได้ไม่ยากนัก ในเมื่อ HP Slate มันทำงานบน Windows 7 ดังนั้นความสามารถจึงเทียบเท่ากับ PC เครื่องหนึ่งที่มีความสามารถยืดหยุ่นมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องของการรองรับ Flash ที่ตอนนี้ทาง HP ใช้เป็นจุดขายในการพิชิตตลาดกลุ่มนี้ และทางทีม Adobe เองเหมือนกับว่าจะมีโอนเอียงมาทาง HP Slate มากกว่า กับการทำงานของ Flash ที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า และรองรับการทำงานของตัว Hardware ได้เป็นอย่างดี
ที่มา http://technology.impaqmsn.com/article.aspx?path=article&rid=0&id=13554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น