@..TOP HIT IT..@: เมษายน 2010

Acer ส่งดิสเพลย์ 8 widgets สุดอัจฉริยะ เชื่อมต่อเน็ตโดยไม่ต้องผ่านคอมฯ

Acer ย่อโลกทั้งใบไว้ใน Display แห่งอนาคต ด้วยการเปิดตัว LCD Monitor รุ่นใหม่ล่าสุด มี widgets หลากหลายบนหน้าจอ เพียงคลิกเดียว ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง แบบ online เช็ค e-mail, รับทราบพยากรณ์อากาศ, ตรวจสอบเวลา และอัพเดทข่าวสารต่างๆ จากทุกมุมโลก หรือจัดทำตารางปฏิทิน พร้อมมี memo เพื่อเตือนความจำได้ด้วย…นอกจากนี้ ยังสามารถแสดงรูปภาพได้แบบ photo frame ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับเครื่องพีซี สามารถสนุกกับชีวิตบนหน้าจอได้แบบไร้ขีดจำกัด ด้วยหน้าจอขนาด 24 นิ้ว widescreen 16:9 ดีไซน์โฉบเฉี่ยว รองรับ Full HD 1080p ความเร็วตอบสนอง 2 มิลลิวินาที ความคมชัดสูงสุดถึง 80,000:1 ลำโพงแบบ built-in พร้อมช่องเชื่อมต่อ VGA, HDMI, LAN, Microphone, USB และ Card reader พร้อมสายสัญญาณ เพื่อตอบสนองความบันเทิงและการใช้งานด้านต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในราคาเพียง 19,900 บาท

ที่มา http://www.igadgety.com/article.php?id=6955

โนเกียใหม่ 3 รุ่น Nokia C3, Nokia C6 และ Nokia E5

โนเกียใหม่ 3 รุ่น Nokia C3, Nokia C6 และ Nokia E5 โนเกียเปิดตัวโทรศัพท์มือถือใหม่ 3 รุ่นได้แก่ Nokia C3, Nokia C6 และ Nokia E5 ซึ่งออกแบบเพื่อการใช้งานข้อความและเครือข่ายสังคมที่ดีขึ้น สำหรับผู้ใช้งานจำนวนมากขึ้นทั่วโลกในราคาที่ย่อมเยาว์

โนเกียใหม่ 3 รุ่นมาพร้อมคีย์บอร์ด QWERTY เต็มรูปแบบ ให้สามารถเข้าใช้งานอีเมล์แอคเคาน์ต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย รวมทั้งชุมชนการแชท และเครือข่ายสังคมต่างๆ

Nokia C3 เป็นอุปกรณ์สื่อสารรุ่นแรกที่นำเอาคีย์บอร์ด QWERTY เต็มรูปแบบมาไว้บนแพลทฟอร์ทยอดนิยมที่สุดของโลก – ซีรี่ย์ส 40- รวมทั้งเป็นรุ่นแรกที่ให้เข้าใช้งานเครือข่ายสังคมได้โดยตรงจากหน้าจอหลัก ผู้ใช้งานสามารถเรียกดู คอมเมนท์ อัพเดทสถานะ และแบ่งปันภาพถ่ายสู่เครือข่ายยอดฮิตอย่าง Facebook หรือ Twitter

Nokia C3 ยังมาพร้อมบริการ Ovi Mail และ Ovi Chat ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานครั้งแรกสามารถสร้างแอคเคาน์อีเมล์และแชทได้โดยตรงจากมือถือโดยไม่ต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์พีซี นอกจากนี้ Nokia C3 ยังมีฟีเจอร์เด่นอื่นๆ อาทิ การเชื่อมต่อ Wi-Fi กล้องถ่ายรูป 2 ล้านเมกะพิกเซล หน้าจอสีขนาด 2.4 นิ้ว และรองรับการ์ดหน่วยความจำสูงสุด 8GB

Nokia C3 มีหลากสีสรรให้เลือก อาทิ ขาวทอง (golden white) เทา (slate grey) และชมพู (hot pink) คาดว่าจะพร้อมวางจำหน่ายภายในไตรมาสสองปีนี้ ในราคาราว 90 ยูโร หรือประมาณ 3,900 บาท*

Nokia C6 เป็นซิมเบี้ยนสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 3.2 นิ้วและคีย์บอร์ดสไลด์ หน้าจอขนาดใหญ่ให้ประสบการณ์ที่ดีสำหรับการเข้าใช้อินเตอร์เน็ตและใช้งาน Facebook ได้โดยตรงจากหน้าจอหลัก ความสามารถเต็มเปี่ยมด้านอีเมล์และเครือข่ายสังคมทำให้ Nokia C6 เป็นอุปกรณ์สื่อสารที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการอัพเดทข้อมูลแม้ในยามเดินทาง

นอกจากนี้ Nokia C6 ยังมาพร้อมฟีเจอร์เด่นอาทิ กล้องถ่ายรูป 5 ล้านเมกะพิกเซลพร้อมออโต้โฟกัสและแฟลช Ovi Maps พร้อมฟรีระบบนำทางทั้งเดินเท้าและขับรถ รวมทั้งแอพพลิเคชั่นนับพันบน Ovi Store จากเกมส์ วิดีโอ ไปจนถึง แหล่งรวบรวมข่าวสารและบริการเว็บต่างๆ

Nokia C6 คาดว่าจะพร้อมวางจำหน่ายภายในไตรมาสสองปีนี้ ในราคาราว 220 ยูโร หรือราว 9,600 บาท*

โนเกียรุ่นใหม่ตัวสุดท้ายมาจากตระกูล Eseries คือ Nokia E5 ซึ่งออกแบบเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัว Nokia E5 เป็นซิมเบี้ยนโฟนที่ตามรอยความสำเร็จของรุ่นพี่อย่าง Nokia E71, Nokia E72 และ Nokia E63
โดย Nokia E5 รวบรวมฟีเจอร์คุณภาพสูงด้านธุรกิจเข้าไว้กับเครือข่ายส่วนตัวและความสามารถด้านบันเทิง ซึ่งเหล่า นักธุรกิจมักจะคาดหวังจากสมาร์ทโฟน

Nokia E5 สามารถจัดการกับตารางงานอันยุ่งเหยิงได้ด้วยแอพพลิเคชั่นเพื่อการทำงานอันหลากหลายบน Ovi Store และสามารถเข้าใช้งานอีเมล์สำหรับองค์กรต่างๆได้มากกว่า 90% ผ่านทั้ง Mail for Exchange และ IBM Lotus Notes Traveler เพื่อการติดต่อสื่อสารได้จากทุกที่

Nokia E5 คาดว่าจะพร้อมวางจำหน่ายภายในไตรมาสสามปีนี้ ในราคาราว 180 ยูโร หรือราว 7,900 บาท*

หมายเหตุ: *เป็นราคาประมาณการก่อนรวมภาษี

ออกมาสักทีกับ Ideapad U1 จาก Lenovo

กลับมาอีกครั้งกับ Lenovo Ideapad U1 ที่ได้เคยรายงานไปว่าสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้แล้ว แต่สำหรับทางเว็บหลักของทาง Lenovo เพิ่งจะมาเมื่อไม่นานนี้เอง... Lenovo Ideapad U1 นับว่าเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นหนึ่งที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองสูงมาก ด้วยระบบไฮบริดฟอร์มแฟคเตอร์ที่รวมเอาทั้งแท็ปเล็ตและโน๊ตบุ๊คเข้าไว้ด้วยกันในหนึ่งเดียว หน้าจอหลักสามารถถอดออกมาใช้งานเป็นแท็ปเล็ตได้ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Intel Pentium Dual Core SU4100 และ Intel GMA 950 กราฟิกการ์ด จอขนาด 11.6 นิ้ว อัตราส่วน 16:9 ความละเอียด 1366×768 Pixel รูปแบบคล้ายๆ Glossy ราคาประมาณ 800 ยูโร หรือ 1,085 เหรียญ เจ้าตัวนี้สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเน็ตบุ๊คหรือแท็ปเล็ตก็สามารถเลือกเอาได้เลยดั่งใจ Lenovo Ideapad U1 จะเริ่มส่งสินค้าให้ถึงมือผู้รับได้ในช่วงเดือนมิถุนายน

ที่มา : NotebookSpec

e-book reader ใหม่จาก Paradigm Shift

เทรนด์ของ E-book Reader ปีนี้ยังมาเรื่อยๆ ล่าสุดคือแบรนด์ Paradigm Shift กับอุปกรณ์อ่านเอกสาร หนังสือ อีบุ๊ก ที่ได้เตรียมวางจำหน่ายในรุ่น EER-051D ในตลาดสหรัฐฯ สัปดาห์หน้า ตัวเครื่องหน้าจอ 5 นิ้ว มาพร้อม วิทยุ FM เครื่องเล่น MP3 และ ดูรูปถ่ายได้ เมมโมรี่ขนาด 2GB เปลี่ยนเป็น SD ได้ สำหรับรุ่นนี้ก็รองรับกับฟอร์แมตของ e-book ที่นิยมกันในตลาด

ที่มา : techfresh

นักพัฒนาลองติดตั้ง Android บน iPhone ได้แล้ว

นักพัฒนารายหนึ่งในสหรัฐฯได้ทดลองติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android ลงบน iPhone รุ่นแรกได้ และสามารถใช้งานได้จริงแล้ว...นักพัฒนาที่ใช้นามแฝงว่า planetbeing ได้ทดลองติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android ลงบน iPhone จนสามารถใช้งานได้จริงเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการติดตั้งใน iPhone รุ่นแรกให้มีการเลือกแบบ dual-boot ให้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการ Mac OS ของ iPhone เอง หรือ Android ซึ่งเมื่อเข้าไปใน Android แล้วก็ดูเหมือนว่าจะสามารถใช้งานบน iPhone ได้อย่างไม่มีปัญหา โดยสามารถดูการใช้งาน Android บน iPhone ได้จากคลิปวิดีโอ http://www.youtube.com/watch?v=5yO2KQHkt4A&feature=player_embedded แต่อย่างไรก็ตามการลง Android ใน iPhone นั้นยังเป็นการทดลองอยู่ยังไม่มีการยืนยันว่าสามารถใช้งานได้จริงสมบูรณ์

ที่มา : Engadget , Pantip

Dell แอนดรอยด์โฟน Thunder , Smoke , Flash และ Aero

Dell แอนดรอยด์โฟน Thunder , Smoke , Flash และ Aero
Dell ผู้ผลิตและจำหน่ายคอมพิวเตอร์รายใหญ่ รุกตลาดสมาร์ทโฟนอย่างเข้มข้น โดยการเผยโฉมสมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ Android พร้อมกันถึง 4 รุ่น คือ Dell Thunder , Dell Smoke , Dell Flash และ Dell Aero

Dell Thunder โดดเด่นด้วยกล้องถ่ายรูปความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส ใช้จอแสดงผล OLED ความละเอียด 480x800 พิกเซล กว้าง 4.1 นิ้ว รองรับบริการจาก Social Network สนับสนุน Flash เวอร์ชั่น 10 รองรับเครือข่าย HSDPA 7.2 Mbps / HSUPA 5.76 Mbps การเชื่อมต่อ Wi-Fi คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 4 ปี 2010
Dell Smoke มาพร้อมกับรูปร่างที่ดูแปลกตาในขนาดเพรียวบาง 10.5 มิลลิเมตร การออกแบบเหมือนทัชโฟนทั่วไป แต่ก็ติดแป้นพิมพ์ QWERTY ไว้ด้านล่าง เหนือขึ้นไปเป็นจอแสดงผล QVGA กว้าง 2.8 นิ้ว ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Froyo เวอร์ชั่น 2.2 หน่วยประมวลผล Qualcomm MSM7230, 800 MHz รองรับเครือข่าย HSDPA 14.4 Mbps การเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth v2.1 + EDR มีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับกรองเสียงรบกวนระหว่างสนทนา คาดว่าจะทำตลาดในไตรมาสที่ 2 ปี 2011

รายละเอียดเบื้องต้น Dell Smoke

ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 2.2 Froyo
หน่วยประมวลผล Qualcomm MSM7230, 800 MHz
เครือข่าย GSM 850/900/1800/1900 MHz, GPRS Class 10, EDGE Class 10
- WCDMA 850/1900/2100 MHz, HSDPA 14.4 Mbps, HSUPA 5.76 Mbps
แป้นพิมพ์ QWERTY
จอแสดงผล TFT 262K สี 18 บิท ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล กว้าง 2.8 นิ้ว
- ระบบเซนเซอร์ Accelerometer, Proximity
กล้องถ่ายรูป 5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส และ ซูมดิจิตอล
เครื่องเล่นวีดีโอ H.264/MP4 (บันทึก/เล่นกลับ/สตรีมมิ่ง)
รองรับไฟล์เสียง AAC, AAC+, eAAC+, MIDI, MP3, WAV, WMA v9
การใช้งานข้อความ MMS, EMS, SMS, ข้อความแชท
Email (POP3/IMAP) รองรับ Push Email, Web mail และ Microsoft Exchange
การใช้งานอินเตอร์เน็ต Web 2.0 Full HTML, สนับสนุน WAP, Flash เวอร์ชั่น 10
การเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth v2.1 +EDR, USB 2.0 (Micro-USB), ชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ระบบนำทาง AGPS พร้อมเข็มทิศดิจิตอล
รองรับเอกสาร Word, Excel, PowerPoint และ PDF
ไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับกรองเสียงรบกวนระหว่างสนทนา
ขนาดตัวเครื่อง 120 x 59.8 x 10.5 มิลลิเมตร
แบตเตอรี่มาตรฐาน 1170 mAh
- สนทนาต่อเนื่อง สูงสุด 6 ชั่วโมง บนเครือข่าย 3G
- เปิดรอรับสาย นานสูงสุด 576 ชั่วโมง บนเครือข่าย 3G
Dell Flash มีแผนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาสแรก ปี 2010 ออกแบบตัวเครื่องให้มีความบางเพียง 11 มิลลิเมตร จอแสดงผล TFT ความละเอียด WVGA กว้าง 3.5 นิ้ว รองรับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 2.2 (Froyo) หน่วยประมวลผล Qualcomm ความแรง 800 MHz หน่วยความจำ RAM 512 MB สนับสนุนการ์ดหน่วยความจำ microSD (SDXC) สูงสุด 64 GB บราวเซอร์รองรับ Flash เวอร์ชั่น 10 กล้องถ่ายรูป 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช และระบบออโต้โฟกัส รองรับเครือข่าย GSM Quadband (EDGE/GPRS) / 3G Triband (HSPA) การเชื่อมต่อ Wi-Fi พร้อม DLNA, Bluetooth เวอร์ชั่น 3, TV-out และ ชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

รายละเอียดเบื้องต้น Dell Flash

ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 2.2 Froyo
หน่วยประมวลผล Qualcomm MSM7230, 800 MHz
หน่วยความจำ RAM 512 MB / ROM 512 MB
- การ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 64 GB
เครือข่าย GSM 850/900/1800/1900 MHz, GPRS Class 10, EDGE Class 10
- WCDMA 850/1900/2100 MHz, HSDPA 14.4 Mbps, HSUPA 5.76 Mbps
จอแสดงผล TFT 262K สี 24 บิท ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล กว้าง 3.5 นิ้ว
- ระบบเซนเซอร์ Accelerometer, Proximity
กล้องถ่ายรูป 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED ระบบออโต้โฟกัส ซูมดิจิตอล 8 เท่า และ บันทึกวีดีโอพร้อมเสียง
เครื่องเล่นวีดีโอ H.264/MP4 AVC, WMV
เครื่องเล่นเพลง MP3, WMA, AAC, AAC+, eAAC+, AMR, MIDI
การใช้งานข้อความ MMS, SMS, ข้อความแชท
Email (POP3/IMAP) รองรับ Push Email, Web mail และ Microsoft Exchange
การเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth v3.0 (A2DP), Micro-USB, ชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ระบบนำทาง AGPS พร้อมเข็มทิศดิจิตอล
ขนาดตัวเครื่อง 117 x 58 x 11 มิลลิเมตร น้ำหนัก 115 กรัม
แบตเตอรี่มาตรฐาน 1300 mAh
- สนทนาต่อเนื่อง สูงสุด 12 ชั่วโมง
- เปิดรอรับสาย นานสูงสุด 725 ชั่วโมง

ปิดท้ายด้วย Dell Aero ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับ Dell Mini 3i แอนดรอยด์โฟนรุ่นแรกของค่ายเดล Dell Aero จะเข้ามาทำตลาดช่วงปลายปี 2010 รอบรับเครือข่าย 3G - HSDPA การเชื่อมต่อ Wi-Fi, กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 2.1 และมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังต่อไปนี้

รายละเอียดเบื้องต้น Dell Aero

เครือข่าย GSM 850/900/1800/1900 MHz, EDGE Class12 / GPRS Class 12
- UMTS 850/1900/2100 MHz, HSDPA 360 Mbps
จอแสดงผล 262K สี ความละเอียด nHD 640x360 พิกเซล กว้าง 3.5 นิ้ว
กล้องถ่ายรูป 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช ระบบออโต้โฟกัส ซูมดิจิตอล 8 เท่า
- บันทึกวีดีโอ CIF ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที
การใช้งานข้อความ MMS, SMS, ข้อความแชท
Email (POP3/IMAP) รองรับ Web mail และ Microsoft ActiveSync
รองรับจาวาแอปพลิเคชั่น Java MIDP 2.0
การเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth v2.0 (A2DP), USB 2.0
ระบบนำทาง GPS/A-GPS
เครื่องเล่นเพลง AAC, AAC+, eAAC+, MP3, WMA
เครื่องเล่นวีดีโอ WMV, H.263, H.264, MPEG4
รองรับการ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 32 GB
โปรแกรมใช้งานเอกสาร Word, Excel, PowerPoint, PDF

ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01837.html

นำทางกันได้ฟรีๆ ด้วย Google Maps Navigation

นำทางกันได้ฟรีๆ ด้วย Google Maps Navigation
เป็นซอฟต์แวร์นำทางตัวใหม่จาก Google ที่สามารถให้ผู้ใช้งานที่ใช้ผ่านระบบ ไอโฟน, วินโดว์โมบาย, แอนดอยด์, แบล็คเบอรี่ และ ซิมเบี้ยน เวอร์ชั่น S60 ได้ดาวน์โหลดกันไปใช้ได้ฟรีๆ

การใช้งาน Google Maps Navigation ทำได้โดนเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแล้วนำทางผ่านดาวเทียมโดยมีจุดเด่น เช่น

My Location : แสดงสถานที่ที่เราอยู่ ณ ปัจจุปัน
Business listings : แสดงจุดสนใจเช่น ร้านอาหาร, ร้านซ่อมรถ บนแผนที่พร้อมข้อเสนอแนะและการจัดเรตติ้งจากผู้ที่คนใช้บริการร้านนั้นๆ (ผู้ใช้สามารถเพิ่มข้อเสนอแนะและเรตติ้งได้)
Navigation : ระบบนำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยวพร้อมเสียงแนะนำเส้นทาง
Latitude : แสดงกลุ่มเพื่อนที่เราแอดไว้บน Latitude ว่าอยู่ตำแหน่งไหนและสามารถให้โปรแกรมนำทางเพื่อไปหาเพื่อนที่เราแอดไว้

Layers : แสดงรายละเอียดเช่น ประวัติ, ภาพ, วิดีโอ ของสถานที่ที่เลือกบนแผนที่
Bazz : แสดงรายละเอียดสถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุ, สถานที่การจัดงานต่างๆเช่น คอนเสิร์ต แบบ Real-Time
Transit directions : แสดงการนำทางโดยวิธีอื่นๆ เช่น การเดิน, ขึ้นรถโดยสาร, รถไฟฟ้า เป็นต้น
Street View : แสดงการเดินทางด้วยมุมมองภาพสมจริงผ่านดาวเทียม
Traffic : แสดงผลการจราจรแบบ Real-Time

ปัจจุปัน Google Maps Navigation ยังใช้ได้แค่ที่อังกฤษและอเมริกา และต้องสั่งการเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ส่วนประเทศอื่นๆ คาดว่าจะใช้งานได้ในอนาคตอันใกล้

ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01836.html

Sony RDP-NWV500 ลำโพงพกพา รูปทรงกระติกน้ำ

Sony RDP-NWV500 ลำโพงพกพา รูปทรงกระติกน้ำ
โซนี่ เผยโฉมลำโพงเสียงวอล์คแมนรุ่นใหม่ RDP-NWV500 ดีไซน์เอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในรูปทรงกระติกน้ำที่คุ้นตาใครหลายๆ คน กันเป็นอย่างดี สามารถใช้สายเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่น MP3 หรือจะใช้เป็นลำโพงแบบ Docking สำหรับวางเครื่องเล่น MP3 ของโซนี่โดยเฉพาะได้อีกด้วย และด้วยรูปทรงกระติกน้ำจึงทำให้สามารถวางไว้ช่องใส่แก้วน้ำภายในรถยนต์ได้อย่างพอดี

Sony RDP-NWV500 ให้พลังเสียงกระจายรอบทิศทาง 360 องศา ด้วยลำโพงเสียงสองทาง วูฟเฟอร์ขนาด 56 มิลลิเมตร ให้เสียงเบสที่ทุ้มลึก และ ทวีตเตอร์ขนาด 20 มิลลิเมตร ให้เสียงแหลมใส สามารถใช้รีโมทควบคุมการทำงานได้อย่างสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น
ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01834.html

เอชพีแจ้งเกิดระบบพิมพ์ทางไกลบน BlackBerry

เอชพีตามเทรนด์แรง"บีบี" เปิดตัวบริการที่ทำให้ผู้ใช้แบล็กเบอรี่สามารถสั่งพิมพ์งานจากเครื่องได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด พร้อมบุกธุรกิจงานพิมพ์ขนาดใหญ่ด้วยการคลอดบริการใหม่ที่จะทำให้บริษัทมีการวิเคราะห์ บริการจัดการ และประหยัดต้นทุนได้ดีขึ้น

ระบบพิมพ์งานทางไกลบนสมาร์ทโฟนบีบีนั้นถูกตั้งชื่อว่า ePrint โดยปิแอร์ เมอร์เลส รองประธานฝ่ายโซลูชันจัดการองค์กร กลุ่มธุรกิจภาพและงานพิมพ์ จากเอชพีเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ระบุว่าจะเป็นการสั่งพิมพ์ที่ไม่ต้องติดตั้งไดร์ฟเวอร์ใดๆ สะดวก และปลอดภัยสูง เชื่อว่าจะสามารถตอบความต้องการผู้ใช้ในองค์กรทั่วโลก

ระบบ ePrint จะทำให้ผู้ใช้บีบีไม่ต้องเดินหาเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเช็คอีเมลแล้วสั่งพิมพ์งานแบบในอดีต แต่จะสามารถพิมพ์งานได้เลยด้วยการกดปุ่มไม่กี่ครั้งบนบีบี โดยระบบจะตรวจจับเครื่องพิมพ์ที่อยู่ในบริเวณที่ใกล้ที่สุด ซึ่งเอชพีจะมีระบบรหัสความปลอดภัยเพื่อแสดงการอนุญาตให้สามารถพิมพ์เอกสารนั้นๆได้ ทั้งหมดนี้ทำงานบนระบบ HP CloudPrint ซึ่งถือเป็นการนำระบบประมวลผลกลุ่มเมฆหรือคลาวด์คอมพิวติง มาใช้กับบริการงานพิมพ์ที่ชัดเจนที่สุด

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เอชพีทำความร่วมมือกับบริษัทโทรศัพท์เคลื่อนที่ ก่อนหน้านี้ เอชพีเคยสร้างโซลูชันงานพิมพ์กับโนเกีย อย่างไรก็ตาม เมอร์เลสระบุว่าบีบียังคงเป็นพันธมิตรรายเดียวของเอชพีในระบบงานพิมพ์บนสมาร์ทโฟนลักษณะนี้ และไม่เปิดเผยรายละเอียดกำหนดการให้บริการในประเทศไทยที่แน่ชัด

นอกจากการพิมพ์เอกสารจากบีบีภายในสำนักงาน เอชพีระบุว่าได้ร่วมมือกับโรงแรมชั้นนำอย่างฮิลตัน เพื่อให้บริการ ePrint แก่นักธุรกิจที่เดินทางมาประชุมหรือพักผ่อนนอกสำนักงานด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะมีการประกาศความร่วมมือในเร็ววันนี้

นอกจาก ePrint เอชพียังเปิดตัวรูปแบบให้บริการเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่ในชื่อ HP MPS Smart Decision Suite ชุดเครื่องมือที่จะทำให้ธุรกิจงานพิมพ์ขนาดใหญ่สามารถจัดการระบบงานตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้านได้ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นระบบที่เน้นการแปลงข้อมูลให้เป็นสารสนเทศที่นำไปใช้ในการบริหารจัดการได้จริง โดยจุดเด่นของระบบนี้คือการเปิดให้ฝ่ายไอทีขององค์กรสามารถจัดการระบบพรินเตอร์และเครื่องมัลติฟังชันทั้งหลายในระบบได้รวดเร็วขึ้น

ไม่เพียงอำนวยความสะดวก แต่อีกสิ่งที่เอชพีมองคือการสร้างความมั่นใจให้กับองค์กรว่าการลงทุนจะคุ้มค่าจริง โดยเอชพีใจกล้าเปิดตัวแพคเกจรับประกันความคุ้มค่า ซึ่งเอชพีระบุว่าเป็นรายแรกที่ออกมาประกันความเสี่ยงขององค์กรด้วยการทำสัญญาว่าหากไม่คุ้มค่าจริง เอชพีจะจ่ายเงินคืนให้

"ฝ่ายไอทีองค์กรไม่อยากรับความเสี่ยง การการันตีนี้จะทำให้ฝ่ายไอทีตัดสินใจเลือกเอชพีได้ง่ายขึ้น"

ยังมีระบบสื่อสารภายในองค์กร HP Exstream ที่เอชพีเชื่อว่าจะเป็นช่องทางการสื่อสารสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ดีขึ้น และที่ขาดไม่ได้ คือระบบงานพิมพ์เพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อม HP Eco Solution Printing Program ซึ่งเริ่มให้บริการแล้วที่ประเทศจีนช่วงต้นปีที่ผ่านมา และจะเริ่มให้บริการใรออสเตรเลียเป็นประเทศถัดไป

Company Related Links :
HP

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Samsung Corby TV และ Metro TV ในอินเดีย ดูทีวีได้

หลังจาก Samsung ได้ออกมือถือดูทีวีได้ในชื่อ Star TV เมื่อปลายปี 2552 เป็นรุ่นแรกแล้วนั้น กระแสความนิยมทีวีโฟนก็ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดตลาดมือถืออินเดียได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ 2 รุ่น สองความแตกต่างด้านดีไซน์ แต่เน้นจุดเด่นดูทีวีได้เหมือนกัน

Samsung Corby TV มือถือตระกูล Corby หรือ Candy ที่วางจำหน่ายในบ้านเรา คราวนี้มาพร้อมฟังก์ชั่นดูทีวีผ่านแอปพลิเคชั่น MimobiTV ที่สามารถรับชมโทรทัศน์ในประเทศอินเดียได้มากกว่า 40 ช่อง ผ่านระบบออนไลน์ได้ทั้งเครือข่าย 3G และ CDMA จอแสดงผล ระบบสัมผัสกว้าง 2.8 นิ้ว ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล พร้อมTouchWiz UI ติดกล้องถ่ายรูป 2 ล้านพิกเซล, วิทยุ FM,รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth, จาวาแอพลิเคชั่น, การ์ดหน่วยความจำ MicroSD สูงสุด 8 GB
Samsung Metro TV เป็นมือถือที่ดูทีวีผ่าน แอปพลิเคชั่น MimobiTV เหมือนกัน แต่ดีไซน์รูปทรงแท่ง ใช้งานผ่านเครือข่าย 3G และ CDMA หน้าจอแสดงผลกว้าง 2.0 นิ้ว มีวิทยุ FM, เครื่องเล่นเพลง, เครื่องเล่นวีดีโอ, กล้องถ่ายรูป 2 ล้านพิกเซล, การเชื่อมต่อ Bluetooth, เพิ่มเติมการ์ดหน่วยความจำ MicroSD สูงสุด 8 GB, มีระบบติดตามโทรศัพท์เมื่อสูญหาย (Mobile Tracker)

ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01829.html

LG SU420 มือถือจอสัมผัส รองรับระบบ DMB 2.0

แอลจีอิเล็คทรอนิกส์ เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ LG SU420 สนับสนุนเทคโนโลยีระบบ DMB 2.0 ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทันสมัย เพื่อให้บริการรับชมโทรทัศน์ วิทยุ และวีดีโอ ในระบบดิจิตอลได้อย่างชัดเจนเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านจอแสดงผล ระบบสัมผัส ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล กว้าง 3.2 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, บลูทูธ 2.1, ระบบนำทาง GPS กล้องถ่ายรูป 3 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล รองรับการสนทนาแบบเห็นหน้า (Video Call) สนับสนุนไฟล์วีดีโอรูปแบบ DivX ระบบเสียง Dolby Mobile
LG SU420 มีให้เลือก 3 เฉดสี สีขาว, สีดำ และสีชมพู วางจำหน่ายในเกาหลีใต้ผ่านผู้ให้บริการ SK Telecom
คุณสมบัติเบื้องต้น โทรศัพท์มือถือ LG SU420
จอแสดงผลระบบสัมผัส 480 x 800 พิกเซล (3.2")
ขนาดตัวเครื่อง 113.9 x 54.5 x 12.9 มิลลิเมตร
รองรับการ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 16 GB
การเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi, HSDPA, GSM
การเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 2.1, ชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล รองรับ Video Call
แบตเตอรี่มาตรฐาน 1,250 mAh
- เปิดรอรับสาย 220 ชั่วโมง
- สนทนาต่อเนื่อง 250 นาที
ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01823.html

ภาพหลุดอีกแล้วของ iPhone รุ่นใหม่ เป็นแบบนี้จริงหรือ???

พอใกล้ๆช่วงเดือนที่มีข่าวว่า iPhone รุ่นใหม่จะออกก็เริ่มจะมีภาพปริศนาออกมาอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งต่างก็ว่าเป็นเครื่อง iPhone รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะออกภายในระยะเวลาอีกไม่นานนี้ โดยเครื่องรุ่นนี้บางคนก็เรียกว่า iPhone 4G แต่บางคนก็เรียกว่า iPhone HD แต่ไม่ว่าจะเรียกอะไรก็ตามข้อมูลรายละเอียดเครื่องรุ่นใหม่นี้ยังไม่มีหลุด ออกมาสักนิด นอกจากภาพถ่ายปริศนาซึ่งอ้างว่าเป็นเครื่อง iPhone รุ่นใหม่ ซึ่งหากเป็นไปตามที่ว่าจริง ก็คงจะดูไม่ค่อยจืดสักเท่าไร เพราะหุ่นการออกแบบดูแล้วเหมือนว่าจะสู้รุ่นปัจจุบันอย่าง 3Gs ไม่ค่อยได้ด้วยสิครับ ปุ่มด้านข้างก็ออกแนวจีนไปสักหน่อย เป็นปุ่มลักษณณะกลมๆทื่อๆ ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะใช่แนวทางของ Apple เสียเท่าไรนัก ตัวเครื่องแม้ว่าจะดูไม่แตกต่างจากรุ่นปัจจุบันเท่าไรนักในเรื่องความหนา แต่ทรวดทรงก็ตามรูปแบบเครื่องในปัจจุบัน แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นไปตามข่าวลือมานานมากแล้วก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ใน เครื่อง iPhone ตัวใหม่ที่จะสามารถถอดเปลี่ยนได้ และมีกล้องด้านหน้า เอาหละครับ สำหรับภาพในวันนี้มันยังพิสูจน์อะไรไม่ได้มากมาย แต่หากเครื่องในภาพที่นำมาให้ชมกันในวันนี้มันเป็นเครื่อง iPhone รุ่นใหม่จริงหละก็ สงสัยจะทำให้แฟนๆที่รอเกิดความผิดหวังกันบ้างแน่นอน เพราะดูหุ่นมันทื่อๆกว่าเดิมมาก ในขณะที่ iPad ที่เพิ่งออกไปแม้จะตัวเครื่องมีขนาดใหญ่แต่หุ่นก็ดูปราดเปรียวกว่าเยอะเลย

เคดิต http://technology.impaqmsn.com/article.aspx?path=spec&rid=0&id=10480

เล็กซ์มาร์ก รุ่น Pro208 สุดยอดเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น

เล็กซ์มาร์ก รุ่น Pro208 สุดยอดเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นคุณภาพสูงพิมพ์เร็วถึง 33 แผ่นต่อนาที และเป็นเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นที่สามารถพิมพ์งาน สแกน และถ่ายเอกสารได้ในเครื่องเดียว

บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้แทนจำหน่ายพรินเตอร์เล็กซ์มาร์กในไทย ขอแนะนำพรินเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด “เล็กซ์มาร์ก รุ่น Pro208” เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นคุณภาพสูงพิมพ์เร็วถึง 33 แผ่นต่อนาที และเป็นเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นที่สามารถพิมพ์งาน สแกน และถ่ายเอกสารได้ในเครื่องเดียว รองรับการเชื่อมต่อได้หลายรูปแบบ เช่น ผ่าน USB 2.0, PictBridge และ Wireless เล็กซ์มาร์กรุ่น Pro208 ยังมีคุณสมบัติเด่นอีกมาก อาทิ พิมพ์งานสีเร็ว 30 แผ่นต่อนาที ความละเอียดในการสแกน 1200 x 2400 dpi ย่อและขยายเอกสารได้ 25 - 400% ถ่ายเอกสารได้โดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์ มีฟังก์ชั่นการพิมพ์งานหลายรูปแบบ เช่น พิมพ์งาน 2 หน้าอัตโนมัติ, พิมพ์แบนเนอร์, พิมพ์ภาพกลับด้าน, พิมพ์โปสเตอร์, พิมพ์รูปเล่มหนังสือ และพิมพ์ไร้ขอบ รองรับงานพิมพ์ได้ 5,000 แผ่นต่อเดือน พร้อมการรับประกัน 3 ปี ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาและผู้ที่เริ่มใช้งาน ด้วยราคาพิเศษช่วงเปิดตัวเพียง 5,990 บาท

ที่มา http://technology.impaqmsn.com

เครื่องเล่นเพลงสปอร์ต Sony W250 กันน้ำก็ได้

เป็นเครื่องเล่นเพลงที่ถ้ามาทำตลาดในบ้านเราเร็วกว่านี้สักเดือนนึงคงมีคนสนใจเยอะ เพราะเป็นเครื่องเล่นเพลงแบบกันน้ำได้จาก Sony ในรุ่น W250 เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของนักกีฬา หรือคนที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเครื่องเล่นเพลง Sony W250 นี้มีสองขนาดความจุคือ 2GB และ 4GB

รองรับไฟล์เพลงฟอร์แมต MP3, WMA, AAC, Linear PCM ใช้เทคโนโลยี ZAPPIN ที่สามารถฟังท่อนเพลงตัวอย่างได้เพื่อช่วยให้คุณหาเพลงที่ต้องการฟังได้ง่ายขึ้น สามารถชาร์จแบตเตอรี่แบบเร่งด่วนโดยชาร์จเพียง 3 นาที สามารถฟังได้ประมาณ 90 นาที แต่ถ้าชาร์จแบบเต็มจริงๆ จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 11 ชั่วโมงเลย มีให้เลือก 4 สี คือ สีเขียว สีดำ สีขาว และ สีชมพู คาดว่าจะวางจำหน่ายประมาณเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้

ที่มา : techfresh

mBook คู่แข่ง iPad จาก Meizu ขาประจำ

ตอนนี้ iPod ออกมา คู่แข่งจากจีนอย่าง Meizu ก็ออกเครื่องเล่นเพลงมาประกบเหมือนกัน พอคราวนี้ทาง Apple ออก iPad มีหรือที่ Meizu จะไม่ตามมาทำตลาดด้วย ล่าสุด Meizu ได้เปิดตัว mBook เป็นแท็บเล็ตที่เล็กกว่า iPad เล็กน้อย

โดยมีหน้าจอขนาด 8.4 นิ้ว รองรับความละเอียดสูง 1080p สามารถเชื่อมต่อดูวิดีโอ HD ด้วยช่อง HDMI หน้าจอเป็นระบบสัมผัส ใช้ซีพียูจาก Snapdragon 1.5GHz มีระบบนำทาง GPS รองรับ WLAN และ 3G แบตเตอรี่ของ mBook นี้ Meizu อ้างว่าสามารถใช้งานได้นาน 12 ชั่วโมง

ที่มา : techfresh

Apple MacBook Pro รุ่นใหม่พลัง Core i5 และ Core i7

Apple ประกาศออก MacBook Pro รุ่นใหม่ โดยในเครื่องรุ่นใหม่นี้ได้มีการเปลี่ยนมาใช้หน่วยประมวลผล Core i5 และ Core i7 ของ Intel...นอกจากจะเป็น CPU ใหม่แล้ว ยังสามารถเพิ่มระยะเวลาการใช้งานให้นานขึ้น โดยรุ่นจอ 13 นิ้ว นั้นใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง ในขณะที่รุ่น 15 นิ้ว และ 17 นิ้ว นั้นใช้งานได้ประมาณ 8-9 ชั่วโมงพร้อมกันนี้ยังได้ออก MacBook Pro 15 นิ้ว ที่เป็นจอความละเอียดสูงเพิ่มขึ้นมาเป็นตัวเลือกด้วย โดยจอความละเอียดปกติจะเป็น 1440×900 พิกเซล ผู้ซื้อสามารถเพิ่มเงินอีก 100 เหรียญสหรัฐ เพื่อเปลี่ยนเป็นจอความละเอียดสูงที่ 1680×1050 พิกเซลได้

สำหรับ MacBook Pro 13 นิ้วนั้นใช้การ์ดกราฟฟิก NVIDIA GeForce 320M ส่วนรุ่น 15 นิ้ว และ 17 นิ้ว ใช้การ์ดแสดงผลกราฟฟิก NVIDIA GeForce 330M สรุปราคารุ่นต่างๆ ที่ออกมาใหม่ดังนี้

MacBook Pro 13 นิ้ว
40,900 บ. : Core 2 Duo 2.4GHz , NVIDIA GeForce 320M , RAM 4GB HDD 250GB
51,900 บ. : Core 2 Duo 2.66GHz , NVIDIA GeForce 320M , RAM 4GB , HDD 320GB
MacBook Pro 15 นิ้ว
61,900 บ. : Core i5 2.4GHz , NVIDIA GeForce 330M (256MB) , RAM 4GB , HDD 320GB
68,900 บ. : Core i5 2.53GHz , NVIDIA GeForce 330M (256MB) , RAM 4GB , HDD 500GB
75,900 บ. : Core i7 2.66GHz , NVIDIA GeForce 330M (512MB) , RAM 4GB , HDD 500GB
MacBook Pro 17 นิ้ว
79,900 บ. : Core i5 2.53GHz , NVIDIA GeForce 330M (512MB) , RAM 4GB , HDD 500GB

สำหรับรุ่น 17 นิ้ว นั้นถ้าต้องการความแรงเพิ่มขึ้น สามารถสั่งซื้อ MacBook Pro 17 นิ้ว โดยเลือกหน่วยประมวลผลเป็น Core i7 ความเร็ว 2.66GHz เพิ่มได้ และสำหรับ HDD นั้นสามารถเลือกได้ทั้งแบบ SSD และแบบ HDD ธรรมดา ทั้ง นี้ MacBook Pro รุ่นก่อนหน้าออกมาล่าสุดตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2009 จากนั้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็มีการคาดการณ์กันเป็นระยะๆ ว่าจะมีการออกรุ่นใหม่ที่ใช้ Core i5 และ Core i7 ออกมา จนในที่สุดก็ได้ฤกษ์ออกรุ่นใหม่เสียที

ที่มา : NotebookSpec

WePad ผู้ท้าชิงของ iPad

WePad ที่เราได้นำมาเสนอกันไม่นานนี้ เรามีข้อมูลเพิ่มเติมมาฝากสำหรับหลายคนที่สนใจเจ้า WePad…

เริ่มจากข้อมูลเดิมจากขนาดของจอ 11.6 นิ้ว Tablet จาก Neofonie รันเครื่องนี้บนแพลทฟอร์ม Android ของ Google และตัวบอดี้ด้านข้างยังทำเป็นลายไม้ ซึ่งอันนี้เราก็นำรายละเอียดมาจากรายงานของ Liliputing และยังคาดว่าตัวบอดี้ทำจากอลูมิเนียม แมกนีเซียม เกรดดี พร้อมจอระบบสัมผัส ส่วนระบบปฏิบัติการที่ใช้ก็นี่เลย Linux นอกจากนี้คุณคงจะสังเกตุ ว่าค่าคอนทราสใน WePad นั้นจะมีอยู่มาก และมีความละเอียดที่ 1366 x 768 พิกเซล ใช้ซีพียู Intel Atom N450 ความเร็ว 1.66GHz ชิปกราฟฟิก GMA 3150 กล้องเว็ปแคม , USB 2 พอร์ต , flash card reader , UMTS โมเด็ม และระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ที่นานพอสมควรที่ 6 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นแล้วเราคิดว่าด้วยคุณสมบัติขนาดนี้คงจะเข้ามาแทนที่ iPad ได้ไม่ยากเลย ถ้าคุณจะไม่จมหรือนิยมใช้งานยี่ห้อเดิมๆ จนเกินไป ด้วยสนับสนุนระบบมัลติทัช ทั้งยังสนับสนุนการใช้งานแฟลชอีกด้วย ซึ่งต้องขอบอกว่าคุณอาจจะไม่ได้รับระบบที่ดีกว่าใน Apple มากนัก โดยเฉพาะด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ผสมผสานกันออกมาได้ลงตัว แต่ในเรื่องของค่าใช้จ่ายนั้นแน่นอนว่า WePad ให้คุณจ่ายเงินน้อยกว่า iPad ดังนั้นก็อยู่ที่คุณแล้วว่าจะเลือกใช้ยี่ห้อไหน ซึ่งตรงจุดของชื่อเสียงยังเป็นสิ่งที่ WePad เสียเปรียบ iPad อยู่ไม่น้อยเลย

ที่มา : NotebookSpec

Blackberry วางแผนจะอัพตัวเป็น Tablet แล้ว

ในทุกวันนี้เทคโนโลยีเปลี่ยนไปรวดเร็วมาก เพียงไม่นานเมื่อปีที่แล้ว เครื่องเล่นที่เราคงจะคุ้นหูคุ้นตากันมากขึ้น คนทั่วโลกให้ความสนใจ และเริ่มได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ อย่าง Tablet อุปกรณ์ที่อาศัยแค่ระบบสัมผัส กับ virtual keyboard RIM ก็มีแผนการผลิต Tablet กับเค้าบ้าง...โดย RIM มีการสั่งออเดอร์ Tablet ขนาด 8.9 นิ้ว จากบริษัทผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ Hon Hai Precision ซัพพลายเออร์ในไต้หวัน และกำลังจะจัดส่งได้แล้วในควอเตอร์ที่ 3 ใน ปี 2010 หรืออาจช้าไปอีกเป็นช่วงควอเตอร์ที่ 4 ของปีนี้ Hon Hai Precision เป็นบริษัทผลิตสินค้าให้ Amazon ซึ่ง Blackberry Tablet ใหม่นี้จะสามารถใช้งานผ่านทางโทรศัพท์ได้สบายๆ ด้วยระบบ Wi-Fi หรือ 3G ทั้งนี้ก็ยังจะมีคอนเท้นอื่นๆ ที่มาสนับสนุนอีกมากมาย ส่วนเรื่องราคานั้นเรายังไม่ทราบแน่ชัด และเจ้า Blackberry นี่ก็มีจุดเด่นตรงที่บริการในการส่งข้อความ ทั้งความสามารถในด้านมัลติมีเดีย ดังนั้นผู้ใช้จึงไม่มีความรู้สึกเหมือนกำลังใช้งาน Tablet แล้วคุณยังต้องการจอขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการส่งอีเมลล์หรือเปล่า RIM ยังไม่แน่ใจตรงจุดนี้ว่าจะทำได้ดีกว่า ถ้า Tablet หวังจะแข่งขันกับ iPad และ HP Slate เพราะจริงๆแล้ว ผู้ใช้ยังไม่มีความสุขมากนักกับการใช้งานโทรศัพท์ที่มีหน้าจอระบบสัมผัส จาก Blackberry ซึ่งจริงๆ แล้วต้องทำได้ดีกว่านี้ด้วยจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว

ที่มา : NotebookSpec

Blackmagic Design Intensity Shuttle กล่องจับสัญญาณภาพ HDMI ใหม่ มาพร้อมพอร์ต USB 3.0 ความเร็วสูง

Blackmagic Design เปิดตัว HDMI วิดิโอแค็ปเจอร์อนาล๊อก กล่องจับสัญญาณภาพวิดิโอใหม่ ที่มาพร้อมโซลูชั่น playback สามารถเชื่อมต่อความเร็วสูงเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้ผ่านทางพอร์ต USB 3.0 โดยเจ้า Intensity Shuttle นี้มีการเชื่อมต่อสัญญาณภาพด้วย HDMI 1.3 พร้อม playback แบบ full 10 bit ทั้งนี้คุณยังได้รับ HDMI out อีกหนึงพอร์ต ซึ่งเราก็คาดหวังว่าจะสามารถวางจำหน่ายตามร้านได้ในเดือนพฤษภาคม $199 หรือประมาณ 6,413 บาท

ท่ีมา : Engadget.com, notebookspec.com

ลูกค้า BB ดีแทคโหลด BB App World ได้แล้ว

ลูกค้า BB ดีแทคเฮ สามารถโหลดกว่าพันแอปพลิเคชันฟรี จาก BlackBerry App World เสียแค่ค่าบริการดีแทค อินเทอร์เน็ต ตามแพคเกจที่เลือกใช้เท่านั้น

นายวรรษิษฐ์ ไสยวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มงานพาณิชย์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชัน (ดีแทค) กล่าวว่าหลังจาก Research in Motion (RIM) ประกาศให้บริการ BlackBerry App World แก่ลูกค้าในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา ดีแทคในฐานะผู้ให้บริการแบล็กเบอรี่ในประเทศไทย พร้อมให้ลูกค้าดีแทคที่ใช้สมาร์ทโฟนแบล็กเบอรี่ไม่ว่าจะเป็น Bold 9700, Curve 8520 หรืออื่น ๆ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นอย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ได้รับการตรวจสอบและมีความปลอดภัยต่อแบล็กเบอรี่ทุกรุ่นได้แล้ว

โดยลูกค้าสามารถดาวน์โหลด BlackBerry App World มาไว้บนสมาร์ทโฟนผ่าน 2 ช่องทาง คือผ่านทางสมาร์ทโฟนที่ mobile.blackberry.com หรือทางอินเทอร์เน็ตที่ http://www.dtac.co.th/blackberry/ โดยภายใน BlackBerry App World ที่ดาวน์โหลดไว้ ลูกค้าจะได้พบกับแคตตาล็อกของแอปพลิเคชันมากมายที่สามารถเลือกดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรีและมีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบกว่า 1 พันแอปพลิเคชันที่ทำให้การใช้งานแบล็กเบอรี่ได้เต็มความสามารถและมีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น เช่น โซเชียลเน็ตเวิร์ก เพลง วิดีโอ เกม โปรแกรมตกแต่งหน้าจอ พยากรณ์อากาศ ซุบซิบเซเล็บ ราคาหุ้น ฯโดยลูกค้าเสียเพียงค่าบริการ dtac Internet ตามปริมาณการดาวน์โหลดและแพ็คเกจบริการที่ลูกค้าเลือกใช้เท่านั้น

ทั้งนี้การเปิดให้บริการ App World ในประเทศไทยนั้นจะเริ่มให้บริการด้วยแอปพลิเคชันที่ให้ดาวน์โหลดได้ฟรี ก่อนจะเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าด้วยแอปพลิเคชันแบบมีค่าใช้จ่ายต่อไป

Related Links :
DTAC Blackberry

สัมผัส iPad ฉบับเรียกน้ำย่อย

เป็นที่รู้กันว่าเวลานี้ตลาดเกรย์มาเก็ตทั้งในมาบุญครองและห้างไอทีชื่อดัง กำลังคึกคักไปด้วยของเล่นใหม่ล่าสุดของชาวแอปเปิลในนาม "ไอแพด (iPad)" สนนราคาเริ่นต้นที่ราวๆ 25,xxx ไปจนถึง 35,xxx ตามแต่ละขนาด ซึ่งในขณะนี้มีเพียงเฉพาะรุ่นที่เป็น Wi-Fi เท่านั้น
ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่า ราคาของเครื่องมีการปรับเปลี่ยน ขึ้นลงกันแบบวันต่อวัน เนื่องจากล่าสุดทางแอปเปิลเอง ก็ได้มีการประกาศออกมาแล้วว่าจะเลื่อนวันวางจำหน่ายในตลาดโลกออกไปอีก 1 เดือน ทำให้ในเวลานี้ จะมีเครื่องที่นำเข้ามาแบบผิดกฏหมายจากสหรัฐฯเท่านั้น ทำให้ผู้ค้าในตลาด สามารถทำกำไรได้ราวๆ 10,000 บาท ต่อเครื่องเลยทีเดียว
ไอแพดดีจริงหรือ?
หลังจากทีมงานได้สัมผัส iPad มาในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็ยอมรับว่า ถ้าซื้อมาเพื่อมาใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงอย่าง เล่นอินเทอร์เน็ต อ่านอีบุ๊ก ดูหนัง ฟังเพลง ทั่วๆไป ไอแพด สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ค่อนข้างครบครัน

จากดีไซน์ที่ออกแบบมาค่อนข้างหรูหรา แต่เรียบง่ายจากตัวเครื่องแบบ Uni-Body เช่นเดียวกับใน แมคบุ๊กโปรฯ ที่ออกมาวางจำหน่ายก่อนหน้านี้ ถือเป็นตัวการันตีถึงความแข็งแรง รวมไปถึงระบบระบายความร้อน ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดี

การตอบสนองการใช้งานค่อนข้างรวดเร็ว จากชิป A4 ที่ความเร็วประมวลผลที่ 1 GHz ให้ความรู้สึกเหมือนเร็วกว่าไอโฟน 3GS กว่าเท่าตัว ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่า ไอแพดจะเป็นของเล่นไอทีชิ้นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อให้กลุ่มสาวกของแอปเปิล ให้ได้แท็บเลตแบบพกพามาใช้งานกัน

ใช้ในไทยยังมีข้อจำกัด!

ข้อจำกัดสำคัญสำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องจากตลาดเกรย์มาเก็ตในขณะนี้ คือไม่สามารถเข้าไปใช้งาน AppStore ได้ นอกจากจะมีรหัสผู้ใช้ที่ลงทะเบียนในสหรัฐฯ เท่านั้น ซึ่งในจุดนี้เนื่องจากทีมงานไม่มีแอคเคาน์ที่ลงทะเบียนไว้ในสหรัฐฯ จึงยังไม่สามารถลงลึกไปในรายละเอียดเหล่านี้ได้

ในจุดนี้คงต้องรอให้แอปเปิลนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ถึงจะเข้าไปใช้งานได้เช่นเดียวกับในไอโฟน 3G และ 3GS ในปัจจุบัน โดยมีการคาดเดากันว่าไอแพดจะพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนกรกฏาคม ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะโดนโรคเลื่อนจากการประกาศล่าสุดของแอปเปิลด้วยหรือไม่

อีกจุดสำคัญคือตัวเครื่องยังไม่มีคีย์บอร์ดภาษาไทยที่สมบูรณ์แบบ โดยในปัจจุบันก็มีแอปฯคีย์บอร์ดภาษาไทยให้มาใช้แก้ขัดกันไปก่อน โดยทำการพิมพ์ที่ตัวแอปฯ และคัดลอกไปวางในจุดที่ต้องการ แต่ทั้งนี้ตัวเครื่องเองรองรับการอ่านภาษาไทยมาจากโรงานอยู่แล้ว
ความรู้สึกหลังใช้งาน
แม้ว่าขนาดหน้าจอที่ออกมาจะถูกใจผู้ใช้หลายๆคน แต่ในเรื่องของน้ำหนักของตัวเครื่องกลายเป็นปัญหาสำคัญ เนื่องจากไม่สามารถถือใช้งานในเวลานานได้ ซึ่งในจุดนี้สามารถหาอุปกรณ์เสริมอย่างเคส ที่เป็นขาตั้งมาใช้เวลารับชมภาพยนตร์ มาเป็นผู้ช่วยในการใช้งาน
การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านเบราว์เซอร์อย่าง ซาฟารี ยังให้ความประทับใจอยู่เช่นเดิม ซึ่งเมื่อตัวเครื่องตอบสนองการใช้งานอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ใช้สามารถหมุนจออ่านได้ทั้งในแนวตั้งและแนวนอนอย่างไม่ขัดจังหวะ แม้ว่าจะยังไม่รองรับการใช้งานแฟลชแบบสมบูรณ์แบบก็ตาม ส่วนในเรื่องของดูหนังและฟังเพลงนั้น ไอจูนส์ที่ให้มาก็ใช้งานได้ง่ายตามปกติ
ด้านระยะเวลาการใช้งานนั้น หลังจากได้ทดลองใช้งานจริงแล้ว ยอมรับเลยว่าสิ่งที่แอปเปิลการันตีไว้ว่าใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง นั่นไม่ได้เป็นเฉพาะคำโฆษณา เช่นเดียวกับเว็บไซต์ในต่างประเทศที่ออกมาการันตีถึงระยะเวลาในการใช้งาน โดยเท่าที่ทดลองใช้ต่อเนื่อง เชื่อมต่อไวไฟ ดูภาพยนตร์ นั้นใช้งานได้เกิน 10 ชั่วโมงแน่นอน
ส่วนในเรื่องของการใช้งาน iWork รวมไปถึงแอปฯอื่นๆที่น่าสนใจใน AppStore คงต้องรอการรีวิวอย่างเป็นทางการอีกทีในช่วงนี้ประเทศไทยนำเข้ามาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น หวังว่าเครื่องที่นำมาขายจะกลายเป็นเวอร์ชัน 4.0 เรียบร้อยแล้ว
โดยถ้ามองจากประสบการณ์ที่ผ่านมาอย่างการออกวางจำหน่ายไอโฟน รุ่นแรกนั้น คงต้องยอมรับว่าการวางจำหน่ายไอแพดเองก็เป็นเช่นเดียวกัน กล่าวคือ ตัวอุปกรณ์มีความสมบูรณ์อยู่ในตัวของมันเอง เพียงแต่ยังไม่สุด เนื่องจากยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่ขาดไปอย่างเช่น กล้อง รวมไปถึงพอร์ตเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ
ดังนั้นผู้บริโภคท่านใดที่ไม่รีบร้อนจนเกินไป และคิดว่าไม่จำเป็นต้องตามเทคโนโลยีที่เรียกว่าออกมาเป็นตัวต้นแบบนวัตกรรมในยุคนี้น่าจะอดใจรอไอแพดในรุ่นต่อๆไป ที่ให้ความรู้สึกครบครันและคุ้มค่าที่จะซื้อ เช่นเดียวกับไอโฟน ในรุ่น 3G และ 3GS ที่ออกตามมานั่นเอง
Company Relate Link : Apple

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Alienware M11x ความแรงใหม่รับซัมเมอร์ที่มาพร้อม NVIDIA Optimus และซีพียูใหม่ค่าย Intel

เราคิดว่าทาง Alienware คงจะมีบ้างที่ได้อ่านบทความรีวิววิจารณ์ หรืออาจจะเป็นเพราะวิศวะกรของพวกเค้ารับรู้ความผิดปกติเช่นเราขึ้นมาบ้าง เกี่ยวกับสิ่งที่ M11x ได้ถูกร้องเรียนไปพวกเค้ารับทราบหรือไม่แค่ไหน อย่างไร ในเรื่องของ NVIDIA Optimus ที่ช่วยในการสลับการ์ดจออัตโนมัติให้กับ IGP และกราฟฟิก GT335M ซึ่งช่วยได้มากในการประหยัดแบตเตอรี่ในการเพิ่มเวลาใช้งานจาก 2 ชั่วโมง (GT335M) ไปจนถึง 6 ชั่วโมง (On Board) แน่นอนว่า Darkhan นักคอมเม้น ใน Notebook Review ได้ร่วมมือกับทาง Alienware เพื่อช่วยในการปรับปรุง M11x และยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่าจะเปิดตัวเจ้านี่อีกครั้งในเดือนมิถุนายน หรือไม่เช่นนั้นก็จะพยายามให้อยู่ภายในเดือนกรกฎาคม แต่สำหรับผู้ที่คลั่งไคล้การเล่นเกมคาดว่าสเปกนี้ก็ยังไม่เหมาะกับพวกเค้าเหล่านั้นอยู่ดีแม้ว่าประสิทธิภาพที่ให้มาของตัวเครื่องทั้งซีพียูตัวล่าสุดจาก Intel Core 2010 และมีการ์ดจอ ถึง 2 แบบ ก็ตาม

ที่มา : Engadget.com ,notebookspec.com

Twitter เสริมแกร่งกูเกิล

ระบบค้นหาข้อความทวีตซึ่งกูเกิลพัฒนาให้ผู้ใช้สามารถเลือกอ่านเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องการได้ หลังการเปิดแนวคิดดึงทวิตเตอร์ (Twitter) มาเป็นส่วนหนึ่งของผลการค้นหาข้อมูลออนไลน์ครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม วันนี้กูเกิลหัวใสด้วยการสร้างสรรค์ระบบค้นหาข้อความทวีตซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกอ่านเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องการได้ หวังปูทางไปสู่แพลตฟอร์มโฆษณาสำหรับผู้ที่ต้องการค้นหาข้อมูลย้อนหลังบนทวิตเตอร์

ทวิตเตอร์เป็นบริการรับส่งบล็อกสั้นออนไลน์เพื่อบอกเล่าความคิดและสถานการณ์รอบตัวในขณะนั้นแก่เพื่อนในกลุ่ม แน่นอนว่าการค้นหาข้อความทวีต (Tweet : ข้อความที่ถูกส่งไปมาบนทวิตเตอร์) จะทำให้ผู้ใช้สามารถรับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่ค้นหาไปได้แบบนาทีต่อนาที แต่การค้นหาข้อมูลทวีตแบบย้อนหลังก็จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการค้นหาข้อมูลทวีตในบางช่วงเวลา เช่น เมื่อ 2 เดือนที่แล้วได้ โดยผู้ใช้สามารถเรียกใช้ฟีเจอร์นี้ได้ด้วยการคลิกที่ลิงก์ "Show options" หลังค้นหาข้อมูลในกูเกิล จากนั้นให้คลิก "Updates" เพื่อชมลิงก์ข้อความทวีตล่าสุดเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่เสิร์ชไป เส้นแสดงเวลาหรือไทม์ไลน์ก็จะปรากฏด้านบนสุดของหน้าเพื่อให้ผู้ใช้เลือกดูข้อความทวีตเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องการได้

กูเกิลเชื่อว่าความสามารถนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ต้องการศึกษาพฤติกรรมของชาวออนไลน์ โดยฟีเจอร์นี้จะเริ่มให้บริการเป็นภาษาอังกฤษภายในสัปดาห์นี้ ถือเป็นความคืบหน้าเหนือคู่แข่งวงการเสิร์ชอย่างบิง (Bing) ของไมโครซอฟท์ และยาฮู (Yahoo) ซึ่งนำข้อความทวีตมาเป็นส่วนหนึ่งของบริการค้นหาข้อมูลสดใหม่เช่นกัน

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

iPad เจอโรคเลื่อน

iPad เจอโรคเลื่อน แอปเปิลเลื่อนส่ง iPad บุกตลาดโลก

ความต้องการ "ไอแพด (iPad)" คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตจอสัมผัสของแอปเปิลในตลาดสหรัฐฯแบบล้นหลามทำให้ค่ายไอทีผลไม้ยักษ์ใหญ่ต้องออกมาประกาศเลื่อนการวางจำหน่ายไอแพดในตลาดโลกออกไปอีก 1 เดือน โดยคาดว่าไอแพดจะสามารถเริ่มลุยตลาดโลกได้ในปลายเดือนพฤษภาคมนี้

ความนิยมไอแพดในสหรัฐฯนั้นถูกแอปเปิลการันตีด้วยการประกาศว่ายอดจัดส่งไอแพดในช่วงสัปดาห์แรกของการวางจำหน่ายนั้นมีจำนวนสูงถึง 500,000 เครื่อง โดยบอกว่าเป็นตัวเลขที่เหนือการคาดการณ์จนทำให้วงจรการผลิตไอแพดไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ซึ่งแอปเปิลยอมรับว่าต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์เพื่อทำให้แผนการผลิตไอแพดเป็นไปตามปกติ

เพียงวันวางจำหน่าย 3 เมษายนวันเดียว ไอแพดสามารถจำหน่ายในสหรัฐฯราว 300,000 เครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องสั่งจองในราคาเริ่มต้นหลัก 17,xxx บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่า) สำหรับราคาเพื่อจำหน่ายในตลาดโลก แอปเปิลระบุว่าจะมีการประกาศรายละเอียดและเปิดให้สั่งจอ
ในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้
ที่มา www.mgronline.com/

มิติใหม่มือถือ'แมส' สมาร์ทโฟน

'สมาร์ทโฟน' รุ่นใหม่ลงลึกตีตลาด 'แมส' ด้วยฟีเจอร์ครบครันในราคาระดับ 6 พันบาท เชื่อขยายฐานผู้ใช้สมาร์ทโฟนตั้งแต่เด็กอายุ 14-15 ปี รวมถึงการขยายพื้นที่สมาร์ทโฟนยึดหัวเมืองต่างจังหวัด จากปรากฏการณ์ความต้องการมือถือที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต

'ความต้องการมือถือสมาร์ทโฟนของคนทั่วโลกคือต้องใช้งานง่ายและมีราคาที่สัมผัสได้' ณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอช ที ซี (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าว

ด้วยปัจจัยดังกล่าวทำให้เอชทีซีพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการที่เกิดขึ้น โดยได้เปิดตัว HTC Smart คอนซูเมอร์สมาร์ทโฟนที่จะเจาะตลาดแมสโดยเฉพาะ

HTC Smart ถูกออกแบบให้เป็นสมาร์ทโฟนระบบสัมผัสที่มีขนาดกะทัดรัด และรวมประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้เข้าไว้ภายใต้ HTC Sense ซึ่งเป็นแนวคิดการออกแบบของ เอชทีซี ที่ยึดเอาผู้ใช้เป็นศูนย์กลางใน 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย เปลี่ยนมือถือให้เป็นตัวคุณ (Make it Mine) สานสัมพันธ์ให้ใกล้ชิด (Stay Close) และค้นหาประสบการณ์แปลกใหม่ (Discover the Unexpected) โดย HTC Smart สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน และรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการสื่อสารผ่านโทรศัพท์ ข้อความสั้น หรืออีเมล

'HTC Smart มอบมิติใหม่ด้วยการนำเสนอสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังและมาพร้อมกับคุณสมบัติที่ลูกค้าต้องการผ่านอุปกรณ์พกพาที่มีความสามารถมากกว่า รองรับตลาดผู้ใช้ทั่วไปในประเทศต่างๆ ทั่วโลก'

การเปิดตัวของ HTC Smart ครั้งนี้ยังถือเป็นครั้งแรกในการใช้บรูว์โมบายแพลตฟอร์ม (Brew Mobile Platform) ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการทำงาน และเป็นระบบปฏิบัติการแบบเปิด ให้คุณสมบัติขั้นสูงตรงตามความต้องการของผู้ใช้ด้วยราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ HTC Smart จะเริ่มตั้งแต่อายุ 15 ปีจนถึง 40 ปี ที่มองหาสมาร์ทโฟนเพื่อใช้เป็นเครื่องแรก โดยเอชทีซีเน้นสร้างการรับรู้ในตลาด และจะใช้ HTC Smart ในการเปิดตลาดต่างจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆ ในทุกภาค เช่น อยุธยา เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี อุดรธานี และขอนแก่น

รวมทั้งเอชทีซีจะเน้นการทำงานและการให้ความรู้กับดีลเลอร์และคนขายมากยิ่งขึ้น และจะมีการโฟกัสทำ channel intensive ในรุ่นนี้ รวมถึงการทำสื่อต่างๆ ออกไป เช่นบนรถไฟฟ้า โทรทัศน์ เพื่อให้ถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

เอชทีซียังเตรียมที่จะสร้างแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ให้กับ HTC Smart แต่อาจจะไม่ได้ใช้ดาราที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากนัก แต่จะเน้นเลือกคนที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายมากกว่า นอกจากนี้ยังจะมีการจัดแคมเปญ ด้วยการทำ student campaign โดยตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถจำหน่าย HTC Smart ไม่ต่ำกว่า 20,000 เครื่องต่อเดือน

ณัฐวัชร์ มองตลาดสมาร์ทโฟนขณะนี้ว่า สภาพตลาดฟีเจอร์ทัชโฟนเปลี่ยนไปจากเดิม ผู้ใช้มีความต้องการใช้ทัชโฟนมากขึ้น จากการที่ผู้ประกอบการแต่ละรายมีลูกเล่นที่นำเสนอผ่านผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน โดยมีปัจจัยเรื่องของราคาที่โดยเฉลี่ยราคาของสมาร์ทโฟนที่มีฟีเจอร์ทัชโฟนมีราคาลดลง ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น

'ปัจจุบันผู้บริโภคจะมองที่ Value for Money มากขึ้น จุดนี้ HTC Smart น่าจะมาตอบโจทย์ของผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าที่ดีและมีราคาที่ไม่แพงเกินไปได้'

การมาของ HTC Smart ที่นอกจากราคาจะโดดเด่นเป็นจุดขายแล้ว ยังมีการออกแบบดีไซน์ที่สวยงาม ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Friendstream ที่ทำให้เข้าใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ง่าย เนื่องจากรวมการอัปเดตของเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไว้ในหน้าจอเดียว มีอินเตอร์เฟซ HTC Sense ที่พัฒนาโดยเอชทีซีให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งวิดเจ็ตต่างๆ ได้ตามใจชอบด้วย

และเมื่อเอชทีซีก้าวเข้ามาทำตลาดสมาร์ทโฟนในระดับแมสในครั้งนี้ ค่ายอื่นๆ ย่อมที่จะเคลื่อนทัพผลิตภัณฑ์ลงมาเจาะในตลาดนี้เช่นกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ค่ายเกาหลีอย่างซัมซุงทำตลาดทัชโฟนในตลาดแมสจนประสบความสำเร็จมาแล้ว

ที่มา โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์

ไมโครซอฟท์ลุยตลาดฮัลโหล แจ้งเกิด"Microsoft Kin"

ไมโครซอฟท์ลุยตลาดฮัลโหล แจ้งเกิด"Microsoft Kin" ภาพหลุดโทรศัพท์มือถือของไมโครซอฟท์ที่มีใช้ชื่อรหัสว่า Project Pink กลายเป็นเครื่องจริง โดยไมโครซอฟท์ประกาศชื่อโทรศัพท์มือถือของตัวเองอย่างเป็นทางการว่า Kin One และ Kin Two เน้นกลุ่มเป้าหมายที่กลุ่มวัยรุ่นนักแช็ตแฟนเครือข่ายสังคมตามข่าวลือ วางกำหนดเปิดตัวต้นพฤษภาคมนี้

[Kin One (ซ้าย) และ Kin Two (ขวา) โทรศัพท์มือถือล่าสุดที่ไมโครซอฟท์ส่งมาชิมลางตลาดสหรัฐฯ]
Kin One และ Kin Two ล้วนมาพร้อมคีย์บอร์ด QWERTY, ฟังก์ชันเครื่องเล่นมัลติมีเดีย Zune, หน้าจอสัมผัส มีเครื่องมือเครือข่ายสังคมนานาชนิด แต่ไม่รองรับร้านแอปพลิเคชันออนไลน์

ไมโครซอฟท์วางกำหนดการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 รุ่นนี้ที่ต้นเดือนพฤษภาคมผ่านโอเปอเรเตอร์อย่างเวอไรซอนไวร์เลส (Verizon Wireless) ยังไม่มีรายละเอียดการวางจำหน่ายในขณะนี้

ทั้ง Kin One และ Kin Two ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการผสมผสานระหว่างโทรศัพท์ยอดนิยมของวัยรุ่นอเมริกันอย่างไซด์คิก (Sidekick) ซึ่งทีโมบายล์ (T-Mobile) เคยวางจำหน่ายมาก่อนหน้านี้ และบริการ"โมโตเบลอ (Motoblur)" ของโมโตโรลาซึ่งมีคุณสมบัติการแสดงข้อมูลจากเว็บไซต์เครือข่ายสังคมหลากหลายค่ายทั้งทวิตเตอร์ (Twitter) เฟสบุ๊ก (Facebook) วินโดวส์ไลฟ์ (Windows Live) และมายสเปส (MySpace) ทั้งหมดทำให้สื่ออเมริกันบางฉบับมองว่า Kin One และ Kin Two จะเป็นโทรศัพท์มือถือในฝันของสาวกไซต์คิกวัยรุ่นเท่านั้น

ไมโครซอฟท์ย้ำว่า Kin ทั้ง 2 รุ่นทำงานบนโปรแกรมบางส่วนของระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนเซเว่นส์ (Windows Phone 7) เท่านั้น จึงยังไม่ใช่อุปกรณ์ที่เรียกว่าเป็นวินโดวส์โฟนเซเว่นส์เต็มตัว แต่ถูกนำมาปรับแต่งเพื่อให้รองรับการทำงานด้านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพลง และการแชร์คอนเทนต์โดยเฉพาะ

[ปุ่มสีเขียวที่คีย์แพดแถวล่างสุดของ Kin One ซึ่งไมโครซอฟท์สร้างมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้แชร์ข้อมูลได้เร็วขึ้น] Kin ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมคีย์บอร์ดสไตล์สไลด์ ความแตกต่างคือ Kin One มาในรูปทรงวงรี คีย์แพด QWERTY กระทัดรัด กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED ถ่ายวิดีโอได้ ขณะที่ Kin Two มีทรงเหลี่ยมมากกว่า คีย์แพดและหน้าจอใหญ่กว่า กล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง 720p

ทั้ง 2 มาพร้อมโปรแกรมเล่นมัลติมีเดีย Zune ซึ่งสามารถเชื่อมต่อสถานีวิทยุ พ็อดคาสต์และสามารถซื้อเพลงจากร้าน Zune Marketplace ได้ แถมยังมาพร้อมเว็บเบราว์เซอร์ที่รองรับมัลติทัชหรือการสัมผัสหลายจุดพร้อมกัน ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถ "pinch" หรือการจีบนิ้วเพื่อขยายหน้าจอเว็บเพจได้โดยสะดวก

ฟังก์ชันด้านเครือข่ายสังคมที่ไมโครซอฟท์ภูมิใจนำเสนอคือ Kin Loop เป็นบริการอัปเดทสถานะจากเฟสบุ๊ก มายสเปส และทวิตเตอร์แบบอัตโนมัติ ที่สำคัญ จุดต่างอีกจุดของโทรศัพท์มือถือตระกูล Kin คือปุ่มกดสีเขียวท้ายคีย์แพดซึ่งไมโครซอฟท์ให้ชื่อว่า Kin Spot ซึ่งเป็นปุ่มที่สร้างมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถแชร์ไฟล์ภาพ วิดีโอ เว็บเพจ และข้อมูลถิ่นที่อยู่ได้แบบทันใจ เพียงแค่กดปุ่มนี้แล้วทำเครื่องหมายหรือ drag ที่คอนเทนท์ซึ่งต้องการแชร์ในบริการ Spot จากนั้นกดอีกครั้งเพื่อเลือกชื่อบัญชีที่ต้องการส่ง ซึ่งสามารถเลือกได้ชื่อเดียวหรือหลายชื่อก็ได้ รวมถึงสามารถกดเพื่อส่งข้อมูลขึ้นเฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือมายสเปสก็ได้เช่นกัน

ยังมีคุณสมบัตินานาชนิดที่ไมโครซอฟท์ยกจากไซด์คิกมาติดตั้งให้ Kin เช่น Kin Studio ซึ่งเป็นเว็บเพจส่วนตัวที่ผู้ใช้ Kin จะสามารถสำรองข้อมูลชื่อเพื่อ รูปภาพ วิดีโอ และข้อความได้บนโลกออนไลน์ แน่นอนว่าครั้งนี้ไมโครซอฟท์มีการเตรียมการอย่างดีเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ Kin พบกับเหตุเครือข่ายล่ม ซึ่งผู้ใช้ไซด์คิกเคยประสบเคราะห์มาแล้วเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

หน่วยความจำของ Kin One คือ 4GB และ Kin Two มี 8GB หน่วยประมวลผล Nvidia Tegra ทั้งคู่ รองรับ Wi-Fi แต่ไม่สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มได้ ซึ่งทำให้หลายคนมองว่า Kin ทั้ง 2 ตัวยังขาดคุณสมบัติหลักที่จะดึงดูดผู้ใช้ในวงกว้าง
Company Related Links :Microsoft

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เปรียบเทียบความสามารถของ WePad ผู้ท้าชิงของ iPad

WePad ที่เราเพิ่งจะรายงานไปเมื่อไม่นานมานี้ วันนี้เรามีข้อมูลเพิ่มเติมมาฝาก เริ่มจากข้อมูลเดิมจากขนาดของจอ 11.6 นิ้ว แท็บเบล็ทจาก Neofonie รันเครื่องนี้บนแพลทฟอร์ม Android ของ Google และตัวบอดี้ด้านข้างยังทำเป็นลายไม้ ซึ่งอันนี้เราก็นำรายละเอียดมาจากรายงานของ Liliputing และยังคาดว่าตัวบอดี้ทำจากอลูมิเนียม แมกนีเซียม เกรดดี พร้อมจอระบบสัมผัส ส่วนระบบปฏิบัติการที่ใช้ก็นี่เลย Linux นอกจากนี้คุณคงจะสังเกตุ ว่าค่าคอนทราสใน WePad นั้นจะมีอยู่มาก และมีความละเอียดที่ 1366 x 768 พิกเซล ใช้ซีพียู Intel Atom N450 ความเร็ว 1.66GHz ชิปกราฟฟิก GMA 3150 กล้องเว็ปแคม , USB 2 พอร์ต , flash card reader , UMTS โมเด็ม และระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ที่นานพอสมควรที่ 6 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นแล้วเราคิดว่าด้วยคุณสมบัติขนาดนี้คงจะเข้ามาแทนที่ iPad ได้ไม่ยากเลย ถ้าคุณจะไม่จมหรือนิยมใช้งานยี่ห้อเดิมๆ จนเกินไป ด้วยสนับสนุนระบบมัลติทัช ทั้งยังสนับสนุนการใช้งานแฟลชอีกด้วย ซึ่งต้องขอบอกว่าคุณอาจจะไม่ได้รับระบบที่ดีกว่าใน Apple มากนัก โดยเฉพาะด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ผสมผสานกันออกมาได้ลงตัว แต่ในเรื่องของค่าใช้จ่ายนั้นแน่นอนว่า WePad ให้คุณจ่ายเงินน้อยกว่า iPad ดังนั้นก็อยู่ที่คุณแล้วว่าจะเลือกใช้ยี่ห้อไหน ซึ่งตรงจุดของชื่อเสียงยังเป็นสิ่งที่ WePad เสียเปรียบ iPad อยู่ไม่น้อยเลย

ที่มา : Notebookcheck.net,notebookspec.com

UMPC อีกรุ่น ดีไซน์ล้ำ น่าใช้ ราคาเพียง $65 เท่านั้น

คุณคงจะเคยเห็นงานระดับ Masterpiece ของแฟชั่นดีไซเนอร์ระดับโลก Vivienne Tam มาบ้างแล้ว ซึ่งตอนนี้เค้ากลับมาโดยสร้างสรรค์งานพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ กับโน้ตบุ๊กขนาดพกพา UMPC อีกรุ่น CTEB7G ขนาด 7 นิ้ว ซึ่งราคานั้นเราหวังว่ามันจะอยู่ที่ระดับ $65 ทั้งนี้รวมประสิทธิภาพอย่างVIA VT8505 CPU 533MHz แรมขนาด 128MB ฮร์ดดิสก์เป็นแบบแฟลชความจุ 2GB จอขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 800 x 600 พิกเซล พร้อมรองรับระบบ WiFi802.11b/g/n , Ethernet , keyboard และทัชแพดในตัว USB2.0 อีก 2 พอร์ต SD การ์ด 1 สล๊อต ลำโพงและไมโครโฟนในตัว ส่วนระบบปฏิบัติการที่เลือกใช้ก็นี่เลย Windows CE 6.0 ซึ่งไม่ว่าจะรูปแบบหรือประสิทธิภาพของตัวเครื่องรุ่นนี้เรียกได้เลยว่าน่าสนใจ แต่ถ้าใครไม่แน่ใจก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยรวมทั้งการสั่งสินค้าหน้าผ่านเว็ปไซต์ Ctech-group ได้เลยครับ

ที่มา : Engadget.com,http://www.notebookspec.com/web/?p=25118

ด่วน!!! กูเกิ้ล"แท็บเล็ต"ใกล้คลอดแล้ว

ด่วน!!! กูเกิ้ล"แท็บเล็ต"ใกล้คลอดแล้ว รายงานข่าวล่าสุดจากเว็บไซต์นิวยอร์กไทมส์ระบุว่า กูเกิ้ล (Google) พร้อมวางตลาดแท็บเล็ต (tablet) ของตัวเองในเร็วๆ นี้แล้ว โดยแหล่งข่าววงในที่ได้มีโอกาสพูดคยกับอีริคชมิดท์ (Eric Schmidt) ซีอีโอของกูเกิ้ลอธิบายว่า แท็บเล็ตที่ออกมาจะเป็นเครื่องอ่านอีบุ๊ก (e-reader) ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันของคอมพิวเตอร์

แน่นอนว่า แท็บเล็ตดังกล่าวจะทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ซึ่งแหล่งข่าวทีไม่ยอมให้เปิดเผยชื่อยังกล่าวอีกว่า กูเกิ้ลได้มีการเจรจากับสำนักพิมพ์ต่างๆ ในการที่จะนำหนังสือ และนิตยสารเข้าไปในอุปกรณ์แล้วด้วย อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า Chrome OS ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น และไม่มีภาพของโอเอสที่ชัดเจนทั้งเน็ตบุ๊ก หรือแม้แต่แท็บเล็ตที่จะออกมา ซึ่งหากเปรียบเทียบกับไอแพด (iPad) หรือแท็บเล็ตที่รัน Windows 7 แล้ว อาจจะยังเป็นรองอยู่พอสมควร ทั้งในเรื่องของจำนวนซอฟต์แวร์ และดีไซน์ตลอดจนการยอมรับของตลาดผู้ใช้ในวงกว้าง
แต่หากพูดถึงแท็บเล็ตที่พอจะท้าชนกับไอแพดในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานแล้วล่ะก็ กูเกิ้ลถือว่าเป็นคู่ชกที่น่ากลัวที่สุด โดยเฉพาะข้อได้เปรียบจากบริการต่างๆ ของกูเกิ้ล เนื่องจากวันนี้แอปเปิ้ลยังไม่ได้เข้าไปในสมรภูมิ Cloud computing ทำให้การเข้าถึงข้อมูลบนไอแพดส่วนใหญ่ยังต้องทำผ่านสายยูเอสบี อีกทั้งแอนดรอยด์ยังมาพร้อมกับ Android Marketplace ซึ่งไล่ตาม iTunes App Store แม้จะมีจำนวนแอพฯที่ต่างกันมาก แต่มันก็เป็นที่สองรองจากแอปเปิ้ล
Google Chrome OS UI for Tablets

นอกจากนี้ กูเกิ้ลยังมีบริการ Google books, Google Reader และ Google Voice ซึ่งทำให้แท็บเล็ตของทางบริษัทตอบโจทย์การใช้งานค่อนข้างครบถ้วน และที่สำคัญ แท็บเล็ตของกูเกิ้ลจะเป็นแพลตฟอร์มเปิด (open platform) ทำให้ใครก็สามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ได้ ซึ่งต่างกับแอปเปิ้ลที่เป็นระบบปิด คำถามที่น่าสนใจก็คือ กูเกิ้ลจะสามารถเบียดแอปเปิ้ลออกไปจากตลาดได้เหมือนเมื่อครั้งที่ไมโครซอฟท์เคยประสบความสำเร็จด้วย Windows ในปี 1990 หรือไม่? บนสมรภูมิรบระหว่างบริษัที่มีผลิตภัณฑ์พร้อมของฟรี กับบริษัทที่มีผลิคภัณฑ์ที่หลายคนอยากได้แม้ต้องจ่ายเงินก็ยอม ใครจะเป็นผู้ชนะคงต้องดูกันต่อไป

ข้อมูลจาก: nytimes,http://www.arip.co.th/news.php?id=411167

RIM เปิดตัว BlackBerry App World ในประเทศไทย

RIM เปิดตัว BlackBerry App World ในประเทศไทย
รีเสิร์ช อิน โมชั่น หรือ ริม (Research In Motion- RIM) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนตระกูล แบล็กเบอร์รี่ และผู้นำด้านการออกแบบและผลิตนวัตกรรมโซลูชั่นไร้สาย เปิดตัว BlackBerry App World™ แหล่งรวมของแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้แบล็กเบอร์รี่ในประเทศไทยสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้ฟรี

ผู้ใช้สมาร์ทโฟนตระกูลแบล็กเบอร์รี่สามารถดาวน์โหลด BlackBerry App World มาไว้ในเครื่องแบล็กเบอร์รี่ของตนได้แล้ววันนี้ เพียงคลิกไปที่ www.blackberry.com/th/appworld or mobile.blackberry.com การใช้งาน BlackBerry App World สามารถทำได้ จากทั้งทางระบบ Wi-Fi® และเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่ายที่ให้บริการแบล็กเบอร์รี่เซอร์วิส BlackBerry App World จะคอยอัพเดตรายการแอพพลิเคชั่นต่างๆ โดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้งานได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่

คุณสมบัติพิเศษหลักของ BlackBerry App World

Front Page Carousel – เพื่อการรวบรวมรายชื่อแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจทั้งหลายไว้ในหน้าแรกของจอแสดงผล ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ต้องการจากจำนวนแอพพลิเคชั่นทั้งหมดที่แสดงไว้ได้อย่างง่ายดาย โดยแอพพลิเคชั่นที่แสดงไว้ในหน้าแรกนี้จะแตกต่างกันไปในเวลาต่างๆ ช่วยให้ผู้ใช้งานค้นพบแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ทุกครั้งที่เข้ามาดู

Top Downloads – สำหรับแสดงรายชื่อแอพพลิเคชั่นของ BlackBerry App World ที่ได้รับความนิยมในการดาวน์โหลดสูงสุด (Top Downloads)
Categories – นำเสนอประเภทของแอพพลิเคชั่นที่มีให้เลือกดาวน์โหลดอย่างหลากหลาย รวมไปถึง แอพพลิเคชั่นด้านความบันเทิง โปรแกรมสนทนาแบบโต้ตอบทันที (IM) และเครือข่ายสังคม (social networking), ข่าว, ข้อมูลพยากรณ์อากาศ แอพพลิเคชั่นเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ฯลฯ

Search/Filter – เพื่อการค้นหาโดยใช้คำสำคัญ พร้อมทั้งความสามารถในการกรองข้อมูลที่ค้นหา
Reviews – เพื่อการประเมินแอพพลิเคชั่นต่างๆ ก่อนเลือกดาวน์โหลด โดยการประเมินดังกล่าวจะสะท้อนออกมาในรูปแบบการให้คะแนนเป็นดาว ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งาน และอ่านคำประเมิน ดูรูปสกรีนช็อต พร้อมทั้งอ่านรายละเอียดโดยย่อของแต่ละแอพพลิเคชั่นได้โดยง่าย ก่อนเลือกดาวน์โหลด

Recommend – เพื่อแนะนำแอพพลิเคชั่นให้กับผู้อื่นได้ โดนแนะนำผ่านอีเมล, รหัส PIN, SMS หรือโปรแกรม BlackBerry® Messenger

Application Storage – เพื่อช่วยเก็บข้อมูลแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ผู้ใช้งานได้ดาวน์โหลดมาแล้ว ไว้ในโฟลเดอร์ที่เรียกว่า My World ซึ่งจะเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลิกการติดตั้ง หรือติดตั้งแอพพลิเคชั่นนั้นๆ ซ้ำอีกครั้งได้

Application Archiving: เพื่อการเลือกเก็บแอพพลิเคชั่นต่างๆ อย่างถาวรไว้ในการ์ดหน่วยความจำ MicroSD หรือหน่วยความจำในตัวของสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่

Update Notifications: สำหรับการแจ้งเตือนการอัพเดทต่างๆ ของแอพพลิเคชั่นที่ได้ดาวน์โหลดมาใช้จาก BlackBerry App World

BlackBerry App World เพื่อการเข้าใช้งานได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปของผู้ใช้งานทางเว็บไซต์ www.blackberry.com/appworld
แอพพลิเคชั่นยอดนิยมใน BlackBerry App World ที่มีพร้อมให้ดาวน์โหลดในประเทศไทย รวมไปถึง BlackBerry® Messenger; Facebook® สำหรับแบล็กเบอร์รี่ ,Flickr® สำหรับแบล็กเบอร์รี่, Bloomberg Mobile; Flixster; Chum Radio; Kaglom; Three Squared Demo; WorldMate Live: Travel Like a Pro; and Goal.com.

* BlackBerry App World สามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่รุ่นที่มีปุ่มควบคุมแทร็กบอล (trackball) และแป้นควบคุมด้วยปลายนิ้วสัมผัส แทร็คแพด (trackpad) หรือรุ่นทัชสกรีนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ เวอร์ชั่น 4.2 ขึ้นไป ทั้งนี้ผู้ใช้งานต้องใช้บริการข้อมูลของแบล็กเบอร์รี่อยู่จึงจะสามารถเข้าใช้งาน BlackBerry App World ได้ ทั้งนี้อาจมีค่าใช้จ่ายด้านบริการข้อมูลสำหรับผู้ที่ใช้บริการข้อมูลแบบจำกัด

ที่มา http://www.igadgety.com/article.php?id=6905

LG Remarq มือถือรีไซเคิล

โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนของแอลจี รุ่น รีมาร์ค ออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ชิ้นส่วนทำจากพลาสติกรีไซเคิล 20 เปอร์เซ็นต์ และสามารถนำกลับไปใช้ใหม่ได้ถึง 87 เปอร์เซ็นต์ และแบตเตอรี่ได้รับการรับรองมาตรฐานประหยัดพลังงาน เปิดตัวในงาน ซีทีไอเอ ไวร์เลส 2010 ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

ที่มา : dailynews , http://www.igadgety.com/article.php?id=6909

LOTUS Elite มือถือจิ๋วแจ๋วเพื่อสาวๆ

LG Electronics เจ้าแม่แห่งโทรศัพท์มือถือเปิดตัวมือถือแฟชั่นเก๋ๆ เป็นโทรศัพท์มือถือฝาพับชื่อ LOTUS Elite ในงาน CTIA Wireless 2010 ออกมามาเพื่อสาวๆ เป็นมือถือขนาดเล็กน่ารักแต่ฟีเจอร์ก็มีมาให้เพียบ โดยเปิดตัวกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ Sprint

ตัวเครื่องเป็นหน้าจอขนาด 2.4 นิ้ว มีจอด้านในและด้านนอก ถึงจะเล็กแต่ออกแบบคีย์บอร์ดให้เป็นแบบ QWERTY เพื่อให้ใช้งานพิมพ์ข้อความได้สะดวก มีกล้อง 2 ล้านพิกเซล รองรับ microSD ได้ 32 GB ใช้งาน Social Networking , E-mail Google Search ได้ รวมถึง GPS ด้วย

ที่มา : aving,http://www.igadgety.com/article.php?id=6907

Fujitsu Liftbook MH330 เน็ตบุ๊กใหม่บาง สวย อย่างมีสไตล์

เราเพิ่งจะตรวจสอบเน็ตบุ๊กใหม่ของ Fujitsu รุ่น MH380 ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แต่แล้วในตอนนี้ ก็มีรุ่นใหม่ออกมาอีกในชื่อรุ่น Liftbook MH330 ที่ทั้งบาง และเบา น้ำหนัก 2.4 ปอนด์ พร้อมแบตเตอรี่จำนวน 3 ก้อน ดีไซน์แนวสปอร์ตสไลด์ได้รูป แต่โดยรวมแล้วยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก จากรุ่นก่อนหน้านี้ ทั้งจอขนาด 10 นิ้ว ใช้ซีพียู Atom N450 แรมขนาด 1GB ฮาร์ดดิสก์จุ 250GB และ Bluetooth ในตัว นอกจากนี้ก็ยังมี card reader ซึ่งก็ดูเหมือนว่าในตอนนี้จะมีจำหน่ายแล้วที่สิงคโปร์ สนนราคาที่ $500 หรือประมาณ 16,770 บาท

ที่มา : Engadget.com,notebookspec.com

Spice S1200 คาเมร่าโฟน 12 ล้านพิกเซล CCD เซ็นเซอร์

โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Spice ในประเทศอินเดีย เปิดตัวคาเมร่าโฟน Spice S1200 โทรศัพท์มือถือติดกล้องถ่ายรูป ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Xenon ใช้เซ็นเซอร์รับภาพ CCD ซูมออพติคอล 3 เท่า รองรับฟังก์ชั่นปรับโฟกัสภาพอัตโนมัติ, จดจำใบหน้าอัตโนมัติ, โหมดถ่ายภาพจับรอยยิ้ม, โหมดถ่ายภาพระยะใกล้, โหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืน, ระบบป้องกันการสั่นไหว และ มีโหมดถายภาพให้เลือกใช้ 24 แบบ
Spice S1200 สนับสนุนการเชื่อมต่อ Bluetooth (A2DP), mini-USB และ TV-out รองรับคุณสมบัติพื้นฐานอย่าง นาฬิกาโลก, นาฬิกาปลุก, เครื่องคิดเลข, แปลงสกุลเงิน, ปฏิทิน, บันทึกเสียง, กลุ่มผู้โทร และ เครื่องเล่นวิทยุ FM ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ Spice ตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้ 1 ล้านเครื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยากจนเกินไปนักเพราะ Spice S1200 มีราคาเปิดตัวเพียง 16,990 รูปี หรือประมาณ 12,390 บาท อีกทั้งยังได้นักแสดงยอดนิยมอย่าง Sonam Kapoor เป็นฟรีเซ็นเตอร์หลัก เพื่อดึงดูดลูกค้าชาวอินเดีย

คุณสมบัติโทรศัพท์มือถือ Spice S1200

รองรับเครือข่าย GSM 900/1800/1900 MHz,
- GPRS Class 12 / EDGE Class 12
จอแสดงผล TFT 262K สี ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล กว้าง 2.4 นิ้ว
เสียงเรียกเข้า 64 Polyphonic รองรับระบบสั่นเตือน
- สนับสนุนไฟล์เสียง MIDI, SP-MIDI, WAV, MP3, AMR, AAC, AAC+
หน่วยความจำในตัว 70 MB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 32 GB
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 1,500 รายชื่อ (Phonebook)
รับ/ส่งข้อความ Email, MMS, EMS, SMS
รองรับจาวาแอพพลิเคชั่น
เครื่องเล่นวิทยุ FM Radio
- บันทึกเสียงจารายการวิทยุ
- ตารางตั้งเวลาบันทึกเสียงอัตโนมัติ
การเชื่อมต่อ Bluetooth v2.1 + EDR
- สายเคเบิ้ล mini USB สำหรับ TV-Out
สนับสนุน Wap 2.0
กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 12. ล้านพิกเซล
- ไฟแฟลช Xenon
- เซ็นเซอร์รับภาพ CCD
- ซูมออพติคอล 3 เท่า
- โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง
- โหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืน
บันทึกวีดีโอ ความละเอียด 640 x 480 พิกเซล อัตราความเร็ว 24.5 เฟรมต่อวินาที
เกมส์, นาฬิกาโลก, เครื่องคิดเลข, แปลงหน่วย, แปลงสกุลเงิน, ปฏิทิน, สิ่งที่ต้องทำ และ บันทึกเสียง
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)
ขนาดตัวเครื่อง 114 x 52 x 16 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 130 กรัม
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,000 mAh
- เปิดรอรับสาย 150 ชั่วโมง (Standby Time)
- สนทนาต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง (Talk Time)

Brother MFC-795CW มัลติฟังก์ชันคุณภาพสูงครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน

เดอะแวลลูซิสเตมส์ แนะนำ Brother MFC-795CW พริ้นเตอร์มัลติฟังก์ชันสมบูรณ์แบบ 6 ฟังก์ชันในเครื่องเดียว ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจได้อย่างลงตัว ให้งานพิมพ์คุณภาพสูงระดับมืออาชีพ... Brother MFC-795CW) เครื่องพริ้นเตอร์อเนกประสงค์ด้วย 6 ฟังก์ชัน ทั้งการพิมพ์สี ส่งแฟกซ์ ถ่ายเอกสารสี สแกนเนอร์สี ระบบแฟกซ์พีซี และการสั่งพิมพ์ภาพถ่ายโดยตรง อัตราความเร็วในการพิมพ์สามารถทำได้ 28 แผ่นต่อนาทีสำหรับงานสีและ 35 แผ่นต่อนาทีสำหรับงานขาวดำ ให้ความละเอียดในการพิมพ์ที่ระดับ 1,200 x 6,000 จุดต่อนิ้ว จากหัวพิมพ์ที่ให้หยดหมึกขนาด 1.5 พิโคลิตร ถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติบรรจุกระดาษได้สูงสุดถึง 15 แผ่น ด้านการถ่ายเอกสารให้อัตราเร็วในการถ่ายเอกสาร 20 แผ่นต่อนาทีสำหรับงานสี และ 23 แผ่นต่อนาทีสำหรับงานขาวดำ ส่วนงานด้านสแกนภาพแบบ Interpolated ความละเอียดในการสแกน 19,200 x 19,200 จุดต่อนิ้ว สามารถรองรับการสแกนในรูปของ Image, OCR, E-Mail, File หรือจาก USB Flash Memory Drive และด้านฟังก์ชันส่งแฟกซ์แบบ Super G3 ที่ใช้โมเด็มความเร็ว 33.6kbps ช่วยเพิ่มความเร็วในการรับ-ส่งแฟกซ์โดยใช้เวลาเพียง 3 วินาทีต่อ 1 แผ่น พร้อมด้วยจอแสดงผลสีแอลซีดีแบบสัมผัสขนาด 5 นิ้ว ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานในฟังก์ชันต่างๆ ทำได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Brother MFC-795CW ยังรองรับระบบเครือข่ายทั้งแบบไร้สายบนมาตรฐาน 802.11b/g และแบบสายในระบบอีเธอเน็ต เพื่อให้ผู้ใช้เครื่องพีซีหลายๆ รายสามารถใช้เครื่องพิมพ์จำนวนมากที่อยู่บนระบบเครือข่ายได้ ทั้งนี้เครื่องเอ็มเอฟซี-795ซีดับเบิลยู ยังมีระบบฝากข้อความด้วยเสียง และหูโทรศัพท์ พร้อมเครื่องตอบรับโทรศัพท์แบบดิจิตอล (TAD) บราเดอร์ เอ็มเอฟซี-795ซีดับเบิลยู (Brother MFC-795CW) สามารถพิมพ์ภาพได้โดยตรงไม่ต้องผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยฟังก์ชัน Direct USB Print, Photo Capture Center, PicBridge เชื่อมต่อได้โดยตรงกับกล้อง และจากการ์ดหน่วยความจำมีสล็อตสำหรับการ์ดหน่วยความจำ Compact Flash, SmartMedia, Memory Stick, Secure Digital และ xD-Picture Card

ที่มา http://www.igadgety.com/article.php?id=6900

ICD Gemini แท็บเบล็ทใหม่ใช้ขุมพลัง Tegra 2 คุณสมบัติพร้อมท้าดวล iPad

ICD Gemini แท็บเบล็ทใหม่พลัง 1GHz Tegra 2 SOC คู่แข่งสำคัญของ iPad จากค่าย Apple ทั้งยังพร้อมรองรับการเชื่อมต่อระบบ 3G ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการสนทนาแบบ voice call ส่วนแบตเตอรี่นั้นก็ใช้ขนาด 40Wh , SD card reader , FM radio , GPS , 802.11n WiFi , Bluetooth และการเชื่อมต่อกับเครื่อง PCs ด้วย MicroUSB อุปกรณ์ต่อพ่วงลำโพงสเตอริโอ และกล้องเว็ปแคมคู่ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และ 5 ล้านพิกเซล แบบออโต้โฟกัส หน้าจอแบบมัลติทัช ความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล ใช้ Android OS ด้วย เรียกได้เลยว่าคุณสมบัติโดยรวมทั้งสเปกและความสามารถแข่งกับ iPad ได้ไม่ยากเลย นี่ก็ยังไม่รวมถึง JooJoo ที่กำลังมาแรงอีกตัวนะครับเนี่ย สรุปแล้วก็คือ ทั้ง ICD Gemini และ JooJoo มีหลายสิ่งที่ iPad ไม่มี

ที่มา : Engadget.com,http://www.notebookspec.com/web/?p=25528

Dell ปรับโฉมใหม่ Latitude E Series ด้วยชิปตัวล่าสุดจาก Intel

Latitude E Series จากค่าย Dell เค้าปรับโฉมกันใหม่ ทั้ง E6410 ขนาด 14.1 นิ้ว และ E6510 ขนาด 15.6 นิ้ว ซึ่งทั้งหมดนี้สนนราคาขายเริ่มต้นที่ $1,129 (36,405 บาท) และ $1,164 (37,533 บาท) ตามลำดับ ทั้งหมดใช้ซีพียู Core i5 และ Core i7 แรมแบบ DDR3 พร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA NVS 3100M 512MB ชิปตัวล่าสุดจาก Intel ซึ่งแน่นอนว่าทุกออฟชั่น Dell ได้เลือกสรรมาแล้วเป็นอย่างดี ได้มาตรฐาน แบตเตอรี่จำนวน 4 ก้อน ความหนาของตัวบอดี้อยู่ที่ 1 นิ้ว ทั้งนี้ก็ยังสามารถเลือกเพิ่มแบตเตอรี่ได้เป็น 9 หรือ 12 ก้อน แต่ก็ไม่ได้เพิ่มความหนาให้ตัวเครื่องมากนัก

ที่มา : Engadget.com , notebookspec.com

แฮคเกอร์เจลเบรค iPad ภายในหนึ่งวัน!!!

Logging into the iPad...jailbreak style
ช่วงนี้อย่าเพิ่งเบื่อข่าวไอแพด (iPad) นะครับ เพราะหันไปทางไหนก็เจอแต่ข่าวของมันตลอดเวลา ล่าสุดมีรายงานว่า เพียงแค่ไม่ถึงวันหลังจากแอปเปิ้ล (Apple) เปิดจำหน่ายไอแพด MuscleNerd (@MuscleNerd) แฮคเกอร์รายหนึ่งอ้างว่า เขาสามารถผ่านระบบป้องกัน เพื่อเข้าถึงแกนการทำงานของไอแพดได้แล้ว พร้อมทั้งโพสต์วิดีโอให้ดูอีกด้วย
ผลจากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ไอแพดเครื่องที่เจลเบรค (jailbreak) สามารถใช้บริการแอพฯ ของ Cydia App Store และอาจะทำให้ผู้ใช้เป็นอิสระจากการใช้ iTunes App Store ของ Apple ทั้งนี้วิดีโอที่ MuscleNerd โพสต์ไว้บน YouTube จะเป็นการเข้าถึงไฟล์ และโฟลเดอร์ต่างๆ ในไอแพดจากเทอร์มินัลที่ใช้ Mac ซึ่งนั่นแสดงว่า มันเป็นไปได้ที่จะทำเจลเบรคไอแพด
สำหรับการทำเจลเบรค แฮคเกอร์จะต้องพยายามหาช่องโหว่ใน OS และเฟิร์มแวร์ ซึ่งช่องโหว่เหล่านี้นับวันจะน้อยลง และหายากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากแอปเปิ้ลพยายามอุดช่องโหว่ดังกล่าวทันทีที่มีการเผยแพร่ออกมา ดังนั้นการแฮคครั้งนี้อาจจะไม่ทันได้มีการใช้อย่างแพร่หลายก็เป็นได้ เพราะแอปเปิ้ลก็คงจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน

ข้อมูลจาก: pcmag

Chobi cam กล้องดิจิตอลย่อส่วนจิ๋วแต่แจ๋ว

มันเหมือนกล้องคอมแพคที่ถูกย่อส่วนให้เล็กเหลือแค่ 1.73"x1.14"x0.47" หรือประมาณก้อนยางลบดินสอ แถมยังเบาหวิว 14 กรัมเท่านั้น จะน่ากลัวหน่อยตรงมันถูกจิ๊ก หรือทำหล่นหายง่ายนี่แหละ
CHOBi mini digital camera กล้องจิ๋วนี้สามารถถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงสุดได้ที่ 2048x1536 พิกเซล (ประมาณ 3 ล้านพิกเซล) ไม่เพียงเท่านั้น มันยังสามารถถ่ายวิดีโอ AVI ขนาด 1280x960 พิกเซลที่ 30 เฟรมต่อวินาที และใช้เป็นเครื่องบันทึกเสียงดิจิตอลได้อีกด้วย ไม่ธรรมดาเลยนะครับ สำหรับกล้องดิจิตอลที่มีขนาดเล็กกว่ากล่องไม่ขีดรุ่นนี้
CHOBi mini digital camera รองรับการทำงานร่วมกับการ์ดหน่วยความจำ microSDHC ที่ความจุสูงสุด 8GB อ้อ...ลืมบอกไปว่า มันไม่มีจอ LCD ให้คุณได้เห็นมุมมองของภาพที่ถ่ายนะครับ แต่มีช่องมองภาพ หรือ viewfinder ขนาดเล็กที่ต้องใช้สายตามองผ่านเข้าไป ใครสายตาไม่ดีมีสิทธิถ่ายภาพเพื่อนตกเฟรม สนนราคาของ CHOBi mini digital camer อยุ่ที่ 13,850 เยน หรือประมาณ 4,800 บาท

ข้อมูลจาก: GeekStuff4U ,http://www.arip.co.th/news.php?id=411164

แอปเปิ้ลปล่อยหมัด เปิดตัว iPhone OS 4

ด้วยความสามารถเพิ่มขึ้นมากขึ้น กว่า 1500 รายการ ชู 7 ความสามารถเด่น โดยเฉพาะการทำงานแบบมัลติทาส์กกิง การเชื่อมต่อเครือข่าย iBook App, game center, iAd เป็นต้น...

เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) นายสตีฟ จ็อบส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ ได้แถลงข่าวแนะนำระบบปฏิบัติการ (OS) ตัวใหม่ล่าสุดของไอโฟน (iPhone) นั่นก็คือ iPhone OS 4 นั่นเอง โดย iPhone OS คาดว่าจะทำเสร็จพร้อมให้ผู้ใช้ iPhone สามารถอัพเกรด OS ของเครื่อง iPhone ได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ในวันนี้นับเป็นวันแรกที่ทาง Apple แถลงข่าวออกสู่สาธารณชน สำหรับเครื่อง iPhone และ iPod touch ที่สามารถที่จะ upgrade OS ให้เป็น OS 4 นั้นได้แก่เครื่อง iphone และ ipod ipod touch ต่อไปนี้ iPhone 3G, iPhone 3GS , iPod Touch 3nd gen. และ iPod Touch 2nd gen. สำหรับเครื่อง iPhone 2G นั้นก็คงที่จะไม่สามารถใช้งาน iPhone OS 4 ได้
ตัวเลขที่น่าทึ่งของ iPhone ที่ Steve Job แจ้งนั้น ก็คือ Apple ได้ขาย iPhone ออกสู่ท้องตลาดแล้วเป็นจำนวน 50 ล้านเครื่อง และหากนับรวมเอา iPod Touch เข้าไปด้วยแล้ว ก็นับรวมได้จำนวน 85 ล้านเครื่องทีเดียว ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นถึง ขนาดของตลาด ของแอพลิเคชัน ซอฟต์แวร์ ที่มีโอกาสในการขายสู่อุปกรณ์ที่ทำงานด้วย iPhone OS นั้นเป็นจำนวนที่ดึงดูดใจให้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับ iPhone ให้มากขึ้นนั่นเอง

สำหรับ นักพัฒนาโปรแกรมแล้ว iPhone OS 4 นั้นมีความสามารถเพิ่มขึ้นมากขึ้น กว่า 1500 รายการ สิ่งที่จ็อบส์พูดถึงเรื่องหนึ่งนั่นก็คือ ความสามารถที่จะเรียกใช้การคำนวณจากกำลังของ hardware ของเครื่อง ในส่วนของ function คณิตศาสตร์นั้น ซึ่สำหรับนักพัฒนานั้น จะช่วยให้โปรแกรมที่ทำสำเร็จพร้อมใช้งานนั้นตอบสนองการทำงานเร็วขึ้นมาก เนื่องจากการเรียกใช้งานของ Math Processor ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นนั่นเอง

สำหรับผู้ใช้งานนั้น ความสามารถที่จะสามารถเห็นได้ นั้นก็มีเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 รายการทีเดียว ตัวอย่างเช่น การการทำ play list, การทำ digital zoom ได้ 5 เท่า, การตั้ง focus ของการถ่าย VDO , App ของขวัญ, หรือการกำหนดจุดพิกัดทางภูมิศาสตร์ลงไปยังรูปภาพที่มีพิกัดในโปรแกรม iPhoto การเปลี่ยน Wallpaper ของ หน้าจอหลักได้(เดิมต้องติดตั้ง software เพิ่ม) การรองรับกับการใช้งานการพิมพ์ด้วย bluetooth keyboard หรือ การ ตรวจสอบคำสะกดเป็นต้น เหล่านี้นับเป็นตัวอย่างเล็กน้อยๆ ของ ความสามารถของ iPhone OS 4
หากจำหยิบเอาความสามารถเด่นๆของ iPhone OS 4 ขึ้นมานั้น ซีอีโอแอปเปิ้ล ได้หยิบเอามากล่าวเพียงแค่ 7 อย่างซึ่งได้แก่

1. ระบบ Multitasking ซึ่งความสามารถที่จะเปิดโปรแกรมให้ทำงานขึ้นมาพร้อมๆกันได้หลายๆโปรแกรมนั้น เป็นเรื่องที่ถูกถามขึ้นมามากในเครื่อง iPhone ว่าทำไมจึงไม่มีความสามารถ Mutitasking ซึ่งเรื่องนี้นั้นมิไช่เรื่องใหม่สำหรับ OS อย่าง Symbian หรือ Window Mobile หรือ linux หรือแม้กระทั่ง Mac OS X เองซึ่งทาง Apple ใช้เป็นพื้นฐาณในการพัฒนามาเป็น iPhone OS คำตอบของ steve ก็คือ ถึงแม้ว่าความสามารถ Multitask ของ iPhone จะมาทีหลังคนอื่นแต่ก็เชื่อมั่นได้ว่าจะทำได้ดีกว่าค่ายอื่นๆ สาเหตุนั้นก็เนื่องมากจาก การทำ Multitasking นั้นจะมีสองประเด็นสำคัญที่จะมีผลกระทบหากไม่มีการระวังให้รอบคอบมากๆ ซึ่งก็ได้แก่ อายุของ battery ที่สั้นลงเนื่องจากการบริโภคพลังงานที่เพิ่มขึ้น และ การตอบสนองของโปรแกรมบนเครื่องที่อาจจะตอบสนองได้ช้าลงหากเครื่องมีการทำงาน หลายๆโปรแกรมพร้อมกัน ความสามารถของการที่ OS เป็น Multitasking นั้นทำให้ iPhone สามารถที่จะ รองรับการทำงาน Background audio หรือ ก็คือการที่สามารถที่จะรองรับการ ทำงานของเสียงหลายๆโปรแกรมพร้อมๆกัน อย่างชาญฉลาด เช่นการใช้งาน skype พร้อมๆกับ ฟังเพลง เมื่อมีการใช้งาน skype เป็นโปรแกรมหน้า เสียงเพลงก็จะเบาเสียงลงไปเป็นต้น เหมือนกับว่าถอยไปทำงานด้านหลัง

นอกจากนั้นก็สามารถรองรับ การทำงานเหล่านี้ไปพร้อมกันได้แก่ Voice Over IP, เสียงการนำทางของโปรแกรม นำทาง, การรับการเตือนจากะบบเครือข่าย , การเตือนจากการตั้งปลุกของเครื่องเอง หรือทำงาน background ที่เสร็จสิ้นลง ก็จะมีการแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบได้ตลอดเวลา

2. การจัด Folder ของ รายการในหน้าจอ เดิมนั้นจำนวนโปรแกรมที่ติดตั้งลงใน iphone สูงสุดนั้นติดตั้งได้ไม่เกิน 180 โปรแกรม เนื่องจากข้อจำกัดของจำนวนหน้าการแสดงผลของ iPhone แต่เมื่อสามารถสร้าง Folder ได้เพื่อที่จะบรรจุโปรแกรมลงไปใน Folder ได้ตามความต้องการของผู้ใช้งานแล้ว ก็จะทำให้ iPhone สามารถบรรจุโปรแกรมลงไปได้ มากถึง สองพันกว่าโปรแกรม

3. Unified message box , ซึ่งหมายถึงการรวมเอา mail box หลายๆ mail box เข้ามารวมในหน้าจอเดียวกัน แทนที่จะต้องเปิดเข้าไปดูที่ละ mail box นั่นเอง, สามารถรองรับ Exchange ได้หลายๆ Account และสามารถเปิด Attache file ที่ติดมากับ mail ได้ดีขึ้นกว่าเดิม

4. iBook App ซึ่งได้ออกมาให้เราได้เห็นใน iPad ก็ได้ถูกทำให้ใช้งานได้ใน iPhone เช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้ iPhone มีความสามรถในการอ่าน ebook ได้ ถึงแม้ว่าจะจอเล็กไปหน่อย ซึ่ง Apple เชื่อว่า ebook นั้นจะเป็นอนาคตที่สดใสที่จะทำเงินให้กับ Apple ไม่แพ้กับ iTune Music Store เลย ความลับในการให้บริการของ Apple ก็คือ iTune นั่นเองซึ่งจะทำให้การซื้อ ebook นั้นง่ายดายกว่า ระบบอื่นๆที่มีมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น kindle หรือ e-book reader ของค่ายอื่นๆ

5. คือความสามารถที่เพิ่มขึ้นในส่วนของการรองรับการใช้งานในธุรกิจ กล่าวโดยสรุปก็คือ iPhone OS 4 ได้เพิ่มความปอดภัยมากขึ้นในส่วนของการทำงาน กับโลกธุรกิจซึ่งส่วนใหญ่จะมีการเชื่อมต่อกับระบบ network ของ Cisco และ ระบบ massaging ของ Microsoft แทบทั้งหมด ซึ่งทำให้สามารถนำเอา iPhone ไปใช้ในงานธุรกิจได้มากขึ้นนั่นเอง

6. game center จากการที่มีการใช้ iphone และ ipod touch ในการเล่นเกมส์ไม่น้อย Apple จึงได้จับเอาจุดของการรองรับให้มารเล่นเกมส์ของผู้ใช้งานสามารถทำได้อย่าง สนุกสนานและง่ายดายมากขึ้นนั่นเอง Apple กล่าวว่ามีเกมส์ที่สามารถเล่นได้ใน iPhone และ ipod touch มากถึง 50,000 เกมส์ ในส่วนของ game center นั้นก็จะมีความสามารถในการที่จะรองรับการทำ hi score หรือ การทำ network play มาให้เพื่อที่จะทำให้การเปลี่ยนโปรแกรมสำหรับเกมส์ สามารถทำได้ง่ายขึ้น นั่นเอง

7. iAd ข้อนี้นับว่าเป็นข้อที่น่ากลัวที่สุดของ iPhone OS 4 นั่นก็คือ Apple จะมีโปรแกรมสำหรับการจัดการแสดงผลโฆษณาของตนเอง ซึ่งก็หมายความว่า เดิมที่สามารถเขียนโปรแกรมแจกเพื่อที่จะ ให้ผู้ใช้งาน download ไปเล่นแล้วแฝงโฆษณา ลงไปใน โปรแกรม หรือ Games นั้น ยังไม่มีความชัดเจนว่า Apple จะบังคับ Developer ได้อย่างไร ในส่วนของ iAd นั้น ได้ถูวางลงมาเป็นส่วนหนึ่งของ OS เหมือนกับ mail หรือ safari เลย โดยที่ Apple อ้างว่าสามารถลง โฆษณาผ่าน Apple ได้ อย่างง่ายดาย ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ Apple จะขอเก็บเงินหัวคิวค่าโฆษณา เป็น 40% ของ ค่าโฆษณาที่ลงใน iAd ซึ่งนับว่าเป็นการก้าวเข้ามาทำเงินในการใช้ iPhone เป็น เครื่องมือโฆษณาอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก

iPhone OS 4 มีกำหนดการที่จะออกสู่สาธารณะ ประมาณเดือนมิถุนายนปีนี้ และในส่วนของ OS 4 ของ iPad จะมีกำหนดการ ประมาณประมาณเดือน สิงหาคมปีนี้เช่นกัน

เรื่องโดย : Smith Joob

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/tech/75897